ขออภัยมาก ๆ ที่สื่อสารผิดพลาดไปจากความตั้งใจหลักมาก ๆ เลยค่ะ อ่านอีกรอบก็คิดว่าควรจะแก้ตั้งแต่ชื่อกระทู้เลย & ขออภัยที่ต่อว่าห้าง แต่เราก็ยังคิดว่าห้างควรมีส่วนช่วยนะ แม้จะไม่ใช่ความผิดห้าง
ประเด็นที่อยากขอชี้แจงคือ...
- เดิมเราไม่ได้ติดเรื่องต้องจ่ายค่าที่จอด แต่เราคิดว่ามันควรมีทางออกที่ดีกว่า ... ตอนแรกก็ปล่อยเรื่องนี้ไปแล้วล่ะ แต่เห็นอีกกระทู้เรื่องค่าที่จอด&คอมเมนต์แล้วก็คิดว่า มันควรจะปล่อยเป็นเรื่องปกติจริง ๆ หรอ
เราถูกสอนทั้งจากครอบครัวและมหาลัย ว่า ถ้าเราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เราจะไม่ได้คิดทางอื่น นี่อาจเป็นราก ที่เราใช้คำว่า ควรเป็นเรื่องปกติมั้ย (แต่จริง ๆ เราควรตัดคำว่า ต้องจ่ายค่าที่จอด ทิ้งไป)
- อยากขอย้ำประเด็นว่า
> เราใช้บริการที่ห้าง และ จ่ายค่าจอดรถในชั่วโมงที่เราใช้ค่าบริการที่ห้างแล้ว และต้องจ่ายเพิ่มในส่วนที่เราตั้งใจจะออกจากห้างแต่ออกไม่ได้
> เราเผื่อเวลาแล้ว 1 ชั่วโมง + เลื่อนนัดที่จุฬาอีกครึ่งชั่วโมง รวมเป็น 1 ชั่วโมงครึ่ง เราเปิดแมพก่อนแล้ว ในแมพระบุเวลา 30 นาที แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราลงจากที่จอดได้แค่ 2 ชั้นเท่านั้น ... เราจอดใกล้ทางลง และทางลงจากชั้น 8 ลงมา เป็นทางตรงที่ไม่ต้องไปวนในชั้น 7, 6 ก่อน แปลว่า 1 ชั่วโมงที่เราติดจริง ๆ มันคือประมาณไม่ถึง 10 ช่วงคันรถเท่านั้น เราเสิร์ชดูแมพ ดูเวลา ก่อนตั้งแต่วันก่อนงาน เพื่อเลือกการเดินทาง แต่เราอยู่ ตจว แทบไม่ค่อยได้เข้า กทม. อาจเป็นความรู้ที่ไม่ถึงว่ามันมีอีเวนต์ที่เราควรหาจากที่อื่น หรือ ความรถติดมันมากกว่าจินตนาการ
- เราคิดว่า ทางออกมันน่าจะช่วยกันได้หลายทาง มากกว่าการที่คิดว่าเป็นเรื่องปกติจริง ๆ นะ เช่น ถ้าเรารู้ว่า เราออกจากห้างเวลานั้นเราต้องใช้เวลา 1 ชม ไปจุฬา เราก็น่าจะเลือกจอดรถไว้แล้วเดินไปตั้งแต่แรก...ซึ่งแปลว่าไม่ต้องเสีย 1 ชม. ไม่ต้องเลท และตัดสินใจว่าจะจ่ายค่าที่จอดแต่แรก ... ซึ่งการจะรู้ได้ หากมีข้อมูลจากทางห้างก็จะช่วยมากกว่า เพราะเราก็เสิร์ชก่อนออกรถแล้วนะ แล้วเมื่อรถเราไม่ออกไปวนก็ลดรถติดไปได้อีก หรือ ถ้า google map ขึ้นข้อมูลมาเพิ่มตอนเสิร์ชได้ว่าจะมีงาน มีโอกาสรถติด ฯลฯ อย่างน้อยก็ช่วยลดรถคันเราไปอีกคัน // หรือแม้แต่การจัดการเส้นทางเดินรถ มันก็อาจจะเป็นไปได้นะ
---- เราขอคงเรื่องราวไว้ ดังด้านล่าง ค่ะ จริง ๆ ก็อยากตัดช่วงต่อว่าห้าง&การสื่อสารที่ผิดจุดไปนะ แต่แอบคิดว่าอาจไม่แฟร์ ----
เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อ 29 มิ.ย. 68 เราต้องไปงานใน central world ขาเข้าเฉพาะรถติดเพื่อหาที่จอดก็เกิน 30 นาที ไม่นับที่ติดจากทางเข้ามาถึงไม้กั้นกดบัตรรวม ๆ อีกเกือบชั่วโมง
ขาออกอย่างหนัก เรามีนัดที่จุฬาฯ ต่อ เผื่อเวลาไว้เป็นชั่วโมง ติดอยู่เกิน 60 นาที ได้แค่ลงจากชั้น 8 ถึงชั้น 6 แบบที่ชั้น 8 เราไม่ได้จอดลึกด้วยนะ เลี้ยวก็ถึงทางลงเลย เราไม่คิดว่ารถจะติดก็เลยสแกนจ่ายเงินที่จอดรถตั้งแต่เริ่มสตาร์ทรถด้วย
สุดท้าย จะไปงานที่จุฬาฯ ไม่ทัน เลยตัดสินใจเลี้ยวเข้าจอด คิดว่าเดี๋ยวค่อยมาเคลียร์น่าจะได้แน่ ๆ ไม่น่ากังวล เป็นห้างที่น่าเชื่อถือและเขาน่าจะมีวิธีการช่วยเหลือที่โอเค
ปรากฏว่า พอกลับมา ไปติดต่อประชาสัมพันธ์ มีหลักฐานชัดเจนว่าเราต้องการจะออกแล้ว และห้างก็ควรจะรู้ว่ารถติดสุด ๆ จริง ๆ ในช่วงนั้น แต่คำตอบที่ได้คือ ต้องจ่ายค่าที่จอดเต็ม และไม่สามารถกลับไปใช้ส่วนลดจากการใช้จ่ายในห้างได้ เพราะเราสแกนจ่ายไปรอบนึงแล้ว
มาตรงทางออก คนที่ดูแลต้องรู้แน่ ๆ ว่าตอนนั้นรถติดขนาดไหน แต่กลับเป็น react ประมาณว่า "ไม่ได้ นี่คือกฎ อย่ามาหาข้ออ้าง" ... เขาไม่ได้พูดแบบนี้นะ แต่ว่าความยืนกรานด้วยคำพูด และ ท่าทางมันทำให้รู้สึกได้แบบนั้นอย่างเดียวเลยจริง ๆ
ตอนช่วงที่รถติดทั้งขาเข้าและขาออก ก็ไม่ได้มีพนักงานช่วยดู ช่วยจัดการเท่าที่ควรจะเป็น ตอนติด 60 นาที เราไม่เจอพนักงานระหว่างทางแยกใด ๆ เลย พอเล่าให้ใครฟังก็บอกว่า... อ๋อ ลานจอด central world วันก่อนนู้น ติดเป็นชั่วโมง .... เราอยากรู้ว่านี่มันคือเรื่องที่ควรเป็นปกติหรอคะ!!!!!!
1. ช่วงรถติด ห้างควรจัดการอะไรหน่อยมั้ย ประกาศหรือมีข้อความแจ้งลูกค้าก็ได้ว่าช่วงนี้รถติดมาก หากไม่จำเป็นสามารถ shopping ก่อน จะเพิ่มไม่เก็บค่าบริการในช่วงชั่วโมงนั้นด้วยก็ได้ น่าจะได้ทั้งความรู้สึกที่ดีและอาจมีการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย หรือ วันนั้นมี event ทำให้รถติด แต่ลูกค้าก็อาจไม่ได้ติดตามข่าว ก็มีประกาศ มีป้ายอะไรสักหน่อยมั้ย กับจุดที่คิดว่ามันควรจะต้องมีพนักงานช่วยโบก ก็ควรจะจัดให้มีมั้ย (จริง ๆ ถ้าเทียบกับ paragon มีจราจร / อาสาจราจร ช่วยดูแทบจะทุกจุดที่จะช่วยได้)
2. กรณีของเรา ที่มีทั้งหลักฐานว่าเราจะออกจากห้างแล้วจริง ๆ แล้วเราไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องจอดที่ห้างต่อ แต่รถมันติดแบบสาหัสจริง ๆ เมื่อเราไปขอลดหย่อน ขอความช่วยเหลือ สิ่งที่ห้างทำ มันควรเป็นอย่างนี้จริง ๆ หรอ เราก็ผิดที่เราไม่ติดตาม event เอง ไม่รู้ว่าไม่ควรมาห้างนี้ วันนี้ แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปแถวนั้นบ่อย แล้วก็เชื่อถือในห้างว่าจะมีระบบการจัดการที่ดี เราจำเป็นต้องจอดต่อแบบไม่เต็มใจ แล้วการเดินทางของเราก็ลำบากกว่าเอารถออกไปเลยมาก ไปงานก็เลท ต้องแวะกลับมาห้างอีก หรือห้างควรจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยแบบนี้แหละถูกแล้ว เราไม่ค่อยเข้าเมืองเอง
(ค่าจอดรถที่เพิ่มขึ้นมา 200 กว่าเลยค่ะ เป็นชั่วโมงที่เริ่ม 50 บาท/ชม. แล้ว รถติดบนอาคารจอด 1 ชม. กว่าๆ เดินทางไปจุฬา ทำธุระ 2 ชม. แล้วเดินทางกลับมา)
ต้องจ่ายค่าที่จอด กรณีรถติดหนัก ๆ ในลานจอด Central World ควรกลายเป็นเรื่องปกติจริงหรอ???
ประเด็นที่อยากขอชี้แจงคือ...
- เดิมเราไม่ได้ติดเรื่องต้องจ่ายค่าที่จอด แต่เราคิดว่ามันควรมีทางออกที่ดีกว่า ... ตอนแรกก็ปล่อยเรื่องนี้ไปแล้วล่ะ แต่เห็นอีกกระทู้เรื่องค่าที่จอด&คอมเมนต์แล้วก็คิดว่า มันควรจะปล่อยเป็นเรื่องปกติจริง ๆ หรอ
เราถูกสอนทั้งจากครอบครัวและมหาลัย ว่า ถ้าเราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เราจะไม่ได้คิดทางอื่น นี่อาจเป็นราก ที่เราใช้คำว่า ควรเป็นเรื่องปกติมั้ย (แต่จริง ๆ เราควรตัดคำว่า ต้องจ่ายค่าที่จอด ทิ้งไป)
- อยากขอย้ำประเด็นว่า
> เราใช้บริการที่ห้าง และ จ่ายค่าจอดรถในชั่วโมงที่เราใช้ค่าบริการที่ห้างแล้ว และต้องจ่ายเพิ่มในส่วนที่เราตั้งใจจะออกจากห้างแต่ออกไม่ได้
> เราเผื่อเวลาแล้ว 1 ชั่วโมง + เลื่อนนัดที่จุฬาอีกครึ่งชั่วโมง รวมเป็น 1 ชั่วโมงครึ่ง เราเปิดแมพก่อนแล้ว ในแมพระบุเวลา 30 นาที แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราลงจากที่จอดได้แค่ 2 ชั้นเท่านั้น ... เราจอดใกล้ทางลง และทางลงจากชั้น 8 ลงมา เป็นทางตรงที่ไม่ต้องไปวนในชั้น 7, 6 ก่อน แปลว่า 1 ชั่วโมงที่เราติดจริง ๆ มันคือประมาณไม่ถึง 10 ช่วงคันรถเท่านั้น เราเสิร์ชดูแมพ ดูเวลา ก่อนตั้งแต่วันก่อนงาน เพื่อเลือกการเดินทาง แต่เราอยู่ ตจว แทบไม่ค่อยได้เข้า กทม. อาจเป็นความรู้ที่ไม่ถึงว่ามันมีอีเวนต์ที่เราควรหาจากที่อื่น หรือ ความรถติดมันมากกว่าจินตนาการ
- เราคิดว่า ทางออกมันน่าจะช่วยกันได้หลายทาง มากกว่าการที่คิดว่าเป็นเรื่องปกติจริง ๆ นะ เช่น ถ้าเรารู้ว่า เราออกจากห้างเวลานั้นเราต้องใช้เวลา 1 ชม ไปจุฬา เราก็น่าจะเลือกจอดรถไว้แล้วเดินไปตั้งแต่แรก...ซึ่งแปลว่าไม่ต้องเสีย 1 ชม. ไม่ต้องเลท และตัดสินใจว่าจะจ่ายค่าที่จอดแต่แรก ... ซึ่งการจะรู้ได้ หากมีข้อมูลจากทางห้างก็จะช่วยมากกว่า เพราะเราก็เสิร์ชก่อนออกรถแล้วนะ แล้วเมื่อรถเราไม่ออกไปวนก็ลดรถติดไปได้อีก หรือ ถ้า google map ขึ้นข้อมูลมาเพิ่มตอนเสิร์ชได้ว่าจะมีงาน มีโอกาสรถติด ฯลฯ อย่างน้อยก็ช่วยลดรถคันเราไปอีกคัน // หรือแม้แต่การจัดการเส้นทางเดินรถ มันก็อาจจะเป็นไปได้นะ
---- เราขอคงเรื่องราวไว้ ดังด้านล่าง ค่ะ จริง ๆ ก็อยากตัดช่วงต่อว่าห้าง&การสื่อสารที่ผิดจุดไปนะ แต่แอบคิดว่าอาจไม่แฟร์ ----
เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อ 29 มิ.ย. 68 เราต้องไปงานใน central world ขาเข้าเฉพาะรถติดเพื่อหาที่จอดก็เกิน 30 นาที ไม่นับที่ติดจากทางเข้ามาถึงไม้กั้นกดบัตรรวม ๆ อีกเกือบชั่วโมง
ขาออกอย่างหนัก เรามีนัดที่จุฬาฯ ต่อ เผื่อเวลาไว้เป็นชั่วโมง ติดอยู่เกิน 60 นาที ได้แค่ลงจากชั้น 8 ถึงชั้น 6 แบบที่ชั้น 8 เราไม่ได้จอดลึกด้วยนะ เลี้ยวก็ถึงทางลงเลย เราไม่คิดว่ารถจะติดก็เลยสแกนจ่ายเงินที่จอดรถตั้งแต่เริ่มสตาร์ทรถด้วย
สุดท้าย จะไปงานที่จุฬาฯ ไม่ทัน เลยตัดสินใจเลี้ยวเข้าจอด คิดว่าเดี๋ยวค่อยมาเคลียร์น่าจะได้แน่ ๆ ไม่น่ากังวล เป็นห้างที่น่าเชื่อถือและเขาน่าจะมีวิธีการช่วยเหลือที่โอเค
ปรากฏว่า พอกลับมา ไปติดต่อประชาสัมพันธ์ มีหลักฐานชัดเจนว่าเราต้องการจะออกแล้ว และห้างก็ควรจะรู้ว่ารถติดสุด ๆ จริง ๆ ในช่วงนั้น แต่คำตอบที่ได้คือ ต้องจ่ายค่าที่จอดเต็ม และไม่สามารถกลับไปใช้ส่วนลดจากการใช้จ่ายในห้างได้ เพราะเราสแกนจ่ายไปรอบนึงแล้ว
มาตรงทางออก คนที่ดูแลต้องรู้แน่ ๆ ว่าตอนนั้นรถติดขนาดไหน แต่กลับเป็น react ประมาณว่า "ไม่ได้ นี่คือกฎ อย่ามาหาข้ออ้าง" ... เขาไม่ได้พูดแบบนี้นะ แต่ว่าความยืนกรานด้วยคำพูด และ ท่าทางมันทำให้รู้สึกได้แบบนั้นอย่างเดียวเลยจริง ๆ
ตอนช่วงที่รถติดทั้งขาเข้าและขาออก ก็ไม่ได้มีพนักงานช่วยดู ช่วยจัดการเท่าที่ควรจะเป็น ตอนติด 60 นาที เราไม่เจอพนักงานระหว่างทางแยกใด ๆ เลย พอเล่าให้ใครฟังก็บอกว่า... อ๋อ ลานจอด central world วันก่อนนู้น ติดเป็นชั่วโมง .... เราอยากรู้ว่านี่มันคือเรื่องที่ควรเป็นปกติหรอคะ!!!!!!
1. ช่วงรถติด ห้างควรจัดการอะไรหน่อยมั้ย ประกาศหรือมีข้อความแจ้งลูกค้าก็ได้ว่าช่วงนี้รถติดมาก หากไม่จำเป็นสามารถ shopping ก่อน จะเพิ่มไม่เก็บค่าบริการในช่วงชั่วโมงนั้นด้วยก็ได้ น่าจะได้ทั้งความรู้สึกที่ดีและอาจมีการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย หรือ วันนั้นมี event ทำให้รถติด แต่ลูกค้าก็อาจไม่ได้ติดตามข่าว ก็มีประกาศ มีป้ายอะไรสักหน่อยมั้ย กับจุดที่คิดว่ามันควรจะต้องมีพนักงานช่วยโบก ก็ควรจะจัดให้มีมั้ย (จริง ๆ ถ้าเทียบกับ paragon มีจราจร / อาสาจราจร ช่วยดูแทบจะทุกจุดที่จะช่วยได้)
2. กรณีของเรา ที่มีทั้งหลักฐานว่าเราจะออกจากห้างแล้วจริง ๆ แล้วเราไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องจอดที่ห้างต่อ แต่รถมันติดแบบสาหัสจริง ๆ เมื่อเราไปขอลดหย่อน ขอความช่วยเหลือ สิ่งที่ห้างทำ มันควรเป็นอย่างนี้จริง ๆ หรอ เราก็ผิดที่เราไม่ติดตาม event เอง ไม่รู้ว่าไม่ควรมาห้างนี้ วันนี้ แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปแถวนั้นบ่อย แล้วก็เชื่อถือในห้างว่าจะมีระบบการจัดการที่ดี เราจำเป็นต้องจอดต่อแบบไม่เต็มใจ แล้วการเดินทางของเราก็ลำบากกว่าเอารถออกไปเลยมาก ไปงานก็เลท ต้องแวะกลับมาห้างอีก หรือห้างควรจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยแบบนี้แหละถูกแล้ว เราไม่ค่อยเข้าเมืองเอง
(ค่าจอดรถที่เพิ่มขึ้นมา 200 กว่าเลยค่ะ เป็นชั่วโมงที่เริ่ม 50 บาท/ชม. แล้ว รถติดบนอาคารจอด 1 ชม. กว่าๆ เดินทางไปจุฬา ทำธุระ 2 ชม. แล้วเดินทางกลับมา)