เรื่องย่อ
"The Godfather" เป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรม ดราม่า ระทึกขวัญ ออกฉายในปี 1972 กำกับโดย
Francis Ford Coppola และสร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ
Mario Puzo ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
เรื่องราวเกิดขึ้นในมหานครนิวยอร์ก ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และนำเสนอเรื่องราวของ
ครอบครัว Corleone หนึ่งในห้าตระกูลมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุด Don Vito Corleone (Marlon Brando) คือ "เจ้าพ่อ" หรือ "Don" ผู้เป็นหัวหน้าตระกูลผู้ฉลาดสุขุม มีอำนาจ และยึดมั่นในหลักการของครอบครัวและความยุติธรรมในแบบของเขา ธุรกิจหลักของครอบครัวคือการพนันและกิจการผิดกฎหมายอื่นๆ แต่ Don Vito มักจะให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้คนในชุมชน ทำให้เขาได้รับความเคารพอย่างสูงจากทั้งโลกใต้ดินและผู้คนทั่วไป
จุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Don Vito ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมธุรกิจยาเสพติด ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับตระกูลมาเฟียอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดความพยายามลอบสังหารเขา ผู้ที่ต้องก้าวเข้ามาแบกรับภาระและปกป้องครอบครัวในสถานการณ์วิกฤตนี้คือ
Michael Corleone (Al Pacino) ลูกชายคนเล็กของ Don Vito ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึกผู้เคยตั้งใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจมืดของครอบครัว แต่เหตุการณ์ต่างๆ ได้บีบบังคับให้ Michael ต้องค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองจากชายหนุ่มผู้บริสุทธิ์ไปสู่ผู้นำที่โหดเหี้ยมและเด็ดขาด เพื่อรักษาอำนาจและปกป้องครอบครัวของเขา
ภาพยนตร์สำรวจประเด็นของครอบครัว ความภักดี อำนาจ การแก้แค้น และความเสื่อมทรามของศีลธรรมในโลกอาชญากรรม ที่มักจะมาพร้อมกับความรุนแรงและผลลัพธ์ที่ไม่อาจย้อนคืนได้
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Godfather" ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่เป็นประสบการณ์ทางศิลปะที่ลึกซึ้งและน่าจดจำ การกำกับของ Francis Ford Coppola นั้นยอดเยี่ยมไร้ที่ติ เขาสร้างสรรค์บรรยากาศที่เข้มข้น หรูหรา แต่ก็แฝงไปด้วยความมืดมนและอันตราย บทภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายของ Mario Puzo มีความซับซ้อน ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยบทสนทนาที่คมคาย
การแสดงของนักแสดงทุกคนคือระดับมาสเตอร์พีซ Marlon Brando ในบท Don Vito Corleone นั้นตราตรึงใจและกลายเป็นสัญลักษณ์ของตัวละครเจ้าพ่อไปโดยปริยาย เขาถ่ายทอดความสุขุม ความเฉลียวฉลาด และความน่าเกรงขามได้อย่างไร้ที่ติ ส่วน
Al Pacino ในบท Michael Corleone ก็แสดงพัฒนาการของตัวละครได้อย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่ชายหนุ่มผู้ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจครอบครัว ไปจนถึงผู้นำที่เย็นชาและโหดเหี้ยม แววตาที่เปลี่ยนไปของเขาเต็มไปด้วยพลัง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมจาก James Caan (Sonny), Robert Duvall (Tom Hagen), และ Diane Keaton (Kay Adams) ซึ่งเสริมให้ภาพยนตร์มีมิติที่สมบูรณ์แบบ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเพียงแค่ฉากแอ็คชั่น แต่เน้นไปที่การสำรวจจิตวิทยาของตัวละคร ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และการช่วงชิงอำนาจในโลกมาเฟีย เพลงประกอบที่แต่งโดย Nino Rota ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศและเสริมอารมณ์ของเรื่องราวให้ทรงพลังยิ่งขึ้น
"The Godfather" เป็นภาพยนตร์ที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับธรรมชาติของอำนาจ ความภักดี และผลกระทบของทางเลือกที่มนุษย์กระทำ มันไม่ใช่แค่หนังอาชญากรรม แต่เป็นการศึกษาความเป็นมนุษย์ที่ซับซ้อนและงดงามในเชิงศิลปะ
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 9.2/10 (ติดอันดับ 2 ของภาพยนตร์ที่คะแนนสูงสุดตลอดกาล)
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 97% , คะแนนจากผู้ชม 98%
สรุป
"The Godfather" คือภาพยนตร์มหากาพย์ที่ได้รับการยกย่องและยอมรับในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของโลกภาพยนตร์ ด้วยการกำกับที่ไร้ที่ติ การแสดงที่ยอดเยี่ยมจากทีมนักแสดงระดับตำนาน บทภาพยนตร์ที่ลึกซึ้ง และการสำรวจประเด็นเกี่ยวกับครอบครัว อำนาจ และศีลธรรมที่ยังคงเป็นสากล ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังมาเฟีย แต่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับชีวิตและโชคชะตา ด้วยคะแนนที่สูงเป็นประวัติการณ์ทั้งจาก IMDb และ Rotten Tomatoes เป็นเครื่องยืนยันถึงสถานะความเป็นมาสเตอร์พีซที่เหนือกาลเวลา "The Godfather" คือภาพยนตร์ที่คอหนังทุกคนต้องดูสักครั้งในชีวิต และจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นต่อๆ ไปอย่างไม่สิ้นสุด.
The Godfather: เจ้าพ่อ บัญญัติมาเฟียแห่งครอบครัว อำนาจ และโชคชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยง
เรื่องย่อ
"The Godfather" เป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรม ดราม่า ระทึกขวัญ ออกฉายในปี 1972 กำกับโดย Francis Ford Coppola และสร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Mario Puzo ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
เรื่องราวเกิดขึ้นในมหานครนิวยอร์ก ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และนำเสนอเรื่องราวของ ครอบครัว Corleone หนึ่งในห้าตระกูลมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุด Don Vito Corleone (Marlon Brando) คือ "เจ้าพ่อ" หรือ "Don" ผู้เป็นหัวหน้าตระกูลผู้ฉลาดสุขุม มีอำนาจ และยึดมั่นในหลักการของครอบครัวและความยุติธรรมในแบบของเขา ธุรกิจหลักของครอบครัวคือการพนันและกิจการผิดกฎหมายอื่นๆ แต่ Don Vito มักจะให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้คนในชุมชน ทำให้เขาได้รับความเคารพอย่างสูงจากทั้งโลกใต้ดินและผู้คนทั่วไป
จุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Don Vito ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมธุรกิจยาเสพติด ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับตระกูลมาเฟียอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดความพยายามลอบสังหารเขา ผู้ที่ต้องก้าวเข้ามาแบกรับภาระและปกป้องครอบครัวในสถานการณ์วิกฤตนี้คือ Michael Corleone (Al Pacino) ลูกชายคนเล็กของ Don Vito ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึกผู้เคยตั้งใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจมืดของครอบครัว แต่เหตุการณ์ต่างๆ ได้บีบบังคับให้ Michael ต้องค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองจากชายหนุ่มผู้บริสุทธิ์ไปสู่ผู้นำที่โหดเหี้ยมและเด็ดขาด เพื่อรักษาอำนาจและปกป้องครอบครัวของเขา
ภาพยนตร์สำรวจประเด็นของครอบครัว ความภักดี อำนาจ การแก้แค้น และความเสื่อมทรามของศีลธรรมในโลกอาชญากรรม ที่มักจะมาพร้อมกับความรุนแรงและผลลัพธ์ที่ไม่อาจย้อนคืนได้
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Godfather" ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่เป็นประสบการณ์ทางศิลปะที่ลึกซึ้งและน่าจดจำ การกำกับของ Francis Ford Coppola นั้นยอดเยี่ยมไร้ที่ติ เขาสร้างสรรค์บรรยากาศที่เข้มข้น หรูหรา แต่ก็แฝงไปด้วยความมืดมนและอันตราย บทภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายของ Mario Puzo มีความซับซ้อน ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยบทสนทนาที่คมคาย
การแสดงของนักแสดงทุกคนคือระดับมาสเตอร์พีซ Marlon Brando ในบท Don Vito Corleone นั้นตราตรึงใจและกลายเป็นสัญลักษณ์ของตัวละครเจ้าพ่อไปโดยปริยาย เขาถ่ายทอดความสุขุม ความเฉลียวฉลาด และความน่าเกรงขามได้อย่างไร้ที่ติ ส่วน Al Pacino ในบท Michael Corleone ก็แสดงพัฒนาการของตัวละครได้อย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่ชายหนุ่มผู้ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจครอบครัว ไปจนถึงผู้นำที่เย็นชาและโหดเหี้ยม แววตาที่เปลี่ยนไปของเขาเต็มไปด้วยพลัง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมจาก James Caan (Sonny), Robert Duvall (Tom Hagen), และ Diane Keaton (Kay Adams) ซึ่งเสริมให้ภาพยนตร์มีมิติที่สมบูรณ์แบบ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเพียงแค่ฉากแอ็คชั่น แต่เน้นไปที่การสำรวจจิตวิทยาของตัวละคร ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และการช่วงชิงอำนาจในโลกมาเฟีย เพลงประกอบที่แต่งโดย Nino Rota ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศและเสริมอารมณ์ของเรื่องราวให้ทรงพลังยิ่งขึ้น
"The Godfather" เป็นภาพยนตร์ที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับธรรมชาติของอำนาจ ความภักดี และผลกระทบของทางเลือกที่มนุษย์กระทำ มันไม่ใช่แค่หนังอาชญากรรม แต่เป็นการศึกษาความเป็นมนุษย์ที่ซับซ้อนและงดงามในเชิงศิลปะ
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 9.2/10 (ติดอันดับ 2 ของภาพยนตร์ที่คะแนนสูงสุดตลอดกาล)
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 97% , คะแนนจากผู้ชม 98%
สรุป
"The Godfather" คือภาพยนตร์มหากาพย์ที่ได้รับการยกย่องและยอมรับในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของโลกภาพยนตร์ ด้วยการกำกับที่ไร้ที่ติ การแสดงที่ยอดเยี่ยมจากทีมนักแสดงระดับตำนาน บทภาพยนตร์ที่ลึกซึ้ง และการสำรวจประเด็นเกี่ยวกับครอบครัว อำนาจ และศีลธรรมที่ยังคงเป็นสากล ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังมาเฟีย แต่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับชีวิตและโชคชะตา ด้วยคะแนนที่สูงเป็นประวัติการณ์ทั้งจาก IMDb และ Rotten Tomatoes เป็นเครื่องยืนยันถึงสถานะความเป็นมาสเตอร์พีซที่เหนือกาลเวลา "The Godfather" คือภาพยนตร์ที่คอหนังทุกคนต้องดูสักครั้งในชีวิต และจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นต่อๆ ไปอย่างไม่สิ้นสุด.