ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าเทียบคนทำ อาจจะลำบากนะครับ มาตรฐานคนไม่เท่ากัน 555
แต่หุ่นยนต์แต่ละรุ่น แต่ละค่าย มีคุณสมบัติต่างกันไป ตามความต้องการของเราครับ
1. ถ้าพวกถูกๆ ไม่เกิน 3 พัน คุณจะได้ผู้ช่วยดูดฝุ่นในห้อง แบบไม่ละเอียดนัก ยังหลบหลีกสิ่งกีดขวางไม่เก่ง แรงดูดน้อย แต่ก็ดูดฝุ่นผงทั่วไปสบายๆ เหมาะกับห้องเล็กๆ ของไม่เยอะ เน้นทำความสะอาดให้ฝุ่นน้อยๆ ทุกวัน
2. ถ้าคุณเพิ่มงบไปสักนิด 4-8 พัน คุณจะได้แบบตัวข้างบน ที่ฉลาดขึ้น เดินหลบสิ่งของได้ แรงดูดดีขึ้น เหมาะกับคอนโด 1 ห้องนอน ที่ของไม่เยอะมาก
3. ถ้าคุณขยับไป 9พัน-15000 คุณจะได้เครื่องพร้อม Station ขนาดเล็ก ที่อาจจะถูได้ เก็บฝุ่นไปทิ้งเองได้ ไม่ต้องมาคอยเคาะ บางรุ่นมีฟังก์ชั่นถูพื้นมาให้ด้วย แต่เป็นการถูแบบไม่ละเอียดเท่าไหร่ แค่พอมีน้ำลากผ่านได้ สะดวกขึ้นมาอีกหน่อย บางรุ่นอาจจะมีฟังก์ชั่น ซักผ้าถูพื้น ให้ด้วย
4. ถ้าขยับไป 16000-20000 คุณจะได้หุ่นที่มีความฉลาดมากขึ้น สามารถเข้าถึงซอกซอยได้ละเอียดกว่า การถูพื้น ฉลาดกว่า ซักผ้าถูด้วยน้ำร้อน มีสเตชั่นขนาดใหญ่ขึ้น เรียกได้ว่า ใกล้เคียงคุณนั่งกวาดห้องถูห้องทุกวันแล้วครับ
5. ถ้าคุณมีงบเกิน 2 หมื่น คุณจะได้เหมือนข้อ 4 แต่เพิ่มเติมความหรูหราของดีไซน์ และ พลังดูดมหาศาล ช่วยคุณประหยัดแรงได้มากๆ ที่เกินมาเป็นเรื่องการตลาดและความหรูหราครับ 555 ม้อบถูพื้นอาจจะยืดเข้ามุมได้ แปรงปัดยืดเข้ามุมได้ ยกตัวข้ามพื้นชันๆ ได้ ใส่น้ำยาถูพื้นได้ ฯลฯ
สรุปให้เลยครับ บ้านนึง ควรมีตัวใหญ่แบบข้อ 4 สัก 1 ตัวที่ชั้นล่าง หรือ พื้นที่ที่ใช้งานกันเยอะๆ เช่นห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนแต่ละห้อง หรือ ชั้นอื่นๆ ใช้เบอร์ 2 ได้ครับ
แต่หุ่นยนต์แต่ละรุ่น แต่ละค่าย มีคุณสมบัติต่างกันไป ตามความต้องการของเราครับ
1. ถ้าพวกถูกๆ ไม่เกิน 3 พัน คุณจะได้ผู้ช่วยดูดฝุ่นในห้อง แบบไม่ละเอียดนัก ยังหลบหลีกสิ่งกีดขวางไม่เก่ง แรงดูดน้อย แต่ก็ดูดฝุ่นผงทั่วไปสบายๆ เหมาะกับห้องเล็กๆ ของไม่เยอะ เน้นทำความสะอาดให้ฝุ่นน้อยๆ ทุกวัน
2. ถ้าคุณเพิ่มงบไปสักนิด 4-8 พัน คุณจะได้แบบตัวข้างบน ที่ฉลาดขึ้น เดินหลบสิ่งของได้ แรงดูดดีขึ้น เหมาะกับคอนโด 1 ห้องนอน ที่ของไม่เยอะมาก
3. ถ้าคุณขยับไป 9พัน-15000 คุณจะได้เครื่องพร้อม Station ขนาดเล็ก ที่อาจจะถูได้ เก็บฝุ่นไปทิ้งเองได้ ไม่ต้องมาคอยเคาะ บางรุ่นมีฟังก์ชั่นถูพื้นมาให้ด้วย แต่เป็นการถูแบบไม่ละเอียดเท่าไหร่ แค่พอมีน้ำลากผ่านได้ สะดวกขึ้นมาอีกหน่อย บางรุ่นอาจจะมีฟังก์ชั่น ซักผ้าถูพื้น ให้ด้วย
4. ถ้าขยับไป 16000-20000 คุณจะได้หุ่นที่มีความฉลาดมากขึ้น สามารถเข้าถึงซอกซอยได้ละเอียดกว่า การถูพื้น ฉลาดกว่า ซักผ้าถูด้วยน้ำร้อน มีสเตชั่นขนาดใหญ่ขึ้น เรียกได้ว่า ใกล้เคียงคุณนั่งกวาดห้องถูห้องทุกวันแล้วครับ
5. ถ้าคุณมีงบเกิน 2 หมื่น คุณจะได้เหมือนข้อ 4 แต่เพิ่มเติมความหรูหราของดีไซน์ และ พลังดูดมหาศาล ช่วยคุณประหยัดแรงได้มากๆ ที่เกินมาเป็นเรื่องการตลาดและความหรูหราครับ 555 ม้อบถูพื้นอาจจะยืดเข้ามุมได้ แปรงปัดยืดเข้ามุมได้ ยกตัวข้ามพื้นชันๆ ได้ ใส่น้ำยาถูพื้นได้ ฯลฯ
สรุปให้เลยครับ บ้านนึง ควรมีตัวใหญ่แบบข้อ 4 สัก 1 ตัวที่ชั้นล่าง หรือ พื้นที่ที่ใช้งานกันเยอะๆ เช่นห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนแต่ละห้อง หรือ ชั้นอื่นๆ ใช้เบอร์ 2 ได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
ต้องซื้อเครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ระดับราคาเท่าไร จึงจะเกือบเท่ากับคนทำงาน
ขอบคุณทุกความเห็น