เปิดเงื่อนไขลงทะเบียนใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทำยังไงบ้าง

เปิดเงื่อนไขลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาท ผ่านแอปทางรัฐ 8 สาย 12 เส้นทาง กทม.-ปริมณฑล เริ่ม 1 ต.ค.นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท (20 บาทตลอดสาย) ว่า ภายในวันที่ 1 ต.ค. 2568 ประชาชนจะได้ใช้มาตรการนี้อย่างแน่นอน โดยจะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 8 สาย รวม 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 276.84 กิโลเมตร ทั้งสิ้น 194 สถานี




นายสุริยะกล่าวว่า ทั้งนี้ วันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ประชุมหารือร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะทำงานรวมถึงภาคเอกชนผู้ได้รับสัมปทาน โดยในที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และยินดีสนับสนุนพร้อมผลักดันมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้เกิดผลสำเร็จ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการตามแผนที่กำหนดไว้
นายสุริยะกล่าวว่า สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. ในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม จะเตรียมนำเข้าในสภา ภายในวันที่ 7 ส.ค.นี้ และจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมกับออกกฎหมายลูกในการบังคับใช้ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อไป
นายสุริยะกล่าวว่า ส่วนแหล่งเงินทุนหลังจากแก้ไข พ.ร.บ.ตั๋วร่วมแล้ว ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะนำรายได้สะสมส่งเข้ากระทรวงการคลัง และนำเข้ากองทุนภายใต้ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม เพื่อนำเงินไปชดเชยส่วนต่างของรายได้ค่าโดยสารให้แก่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ จากการเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสาย

ลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาท เดือน ส.ค.นี้
ย้ำว่าภายในช่วงเดือน ส.ค. 2568 จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” โดยจะต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย ระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่ลงทะเบียน) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งบัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิโดยอัตโนมัติ
นายสุริยะกล่าวว่า นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ถือเป็นนโยบายที่ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากตัวเลขผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า ในอนาคตปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากนโยบายดังกล่าว ช่วยลดค่าครองชีพในการเดินทางให้กับประชาชน
อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียม มีความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดรถยนต์บนถนน ลดอุบัติเหตุ และมลพิษทางอากาศอย่างมีนัยสำคัญด้วย

ที่มา
https://www.prachachat.net/general/news-1848789?utm_source=msn_news&utm_medium=footer_click

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่