ผมขอเสนอ 2 เรื่องสำคัญที่พระภิกษุควรยึดถือปฏิบัติ ไม่ขัดแย้งพระวินัย และถูกต้องตรงตามพระวินัย
เรื่องแรก พระห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ
โดยเด็ดขาด
ก่อนจะอธิบายรายละเอียด ต้องบอกก่อนว่า โทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบัน เป็นสมาร์ทโฟน มีทั้งรูปถ่าย ทั้งคลิปวิดีโอ ไม่ใช่ติดต่อกันด้วยเสียงอย่างเดียวแบบในอดีต (ซึ่งแม้แต่ในอดีตก็ตาม พระก็ไม่ได้ใช้มือถือส่วนตัว เพราะราคาแพง จึงไม่เกิดปัญหาเป็นวงกว้างอย่างทุกวันนี้)
แน่นอนว่า โทรศัพท์มือถือมันมีทั้งประโยชน์และมีทั้งโทษ แต่สำหรับพระภิกษุ ประโยชน์ที่ได้มันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโทษที่มากมายมหาศาล (ไม่รวมถึงการละเมิดพระวินัย แค่ละเมิดพระวินัยเรื่องเดียวก็จบแล้ว)
พระพุทธเจ้า ห้ามพระภิกษุเข้าใกล้สตรี ห้ามพูดคุยกับสตรีตามลำพัง เรียกว่า จุดประสงค์หลักของการบวชเป็นพระ ก็เพื่อหลีกเลี่ยงจากสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง แต่พอมีโทรศัพท์มือถือ ผมเชื่อว่าพระเกือบทุกรูป (ที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำ หรือพกติดตัว) ไม่ปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้าแน่นอน
บางคนอาจจะเถียงว่า พระพุทธเจ้าห้ามเข้าใกล้สตรีเฉพาะตัวเป็นๆ เท่านั้น พวกรูปภาพ รูปถ่าย คลิปวิดีโอ ไม่เป็นไร หรือการคุยกันสองต่อสองก็หมายถึงคุยด้วยปากเท่านั้น คุยกันต่อหน้า ถ้าเป็นคุยผ่านแชท ผ่านวิดีโอคอล ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้เขียนในพระไตรปิฏก ซึ่งผมจะไม่ขออธิบายเรื่องนี้
เรื่องที่สอง อาจจะสำคัญน้อยกว่าเรื่องแรก แต่เป็นข้อเสนอหรือข้อแนะนำของผม นั่นคือ สีของจีวรพระมหานิกาย ไม่ควรเป็นสีที่ฉูดฉาด ไม่แปร๋น สีส้มสดใสแบบคนทั่วไปใส่ไปเที่ยว ถ้าเป็นเสื้อโปโลออกโทนสีแบบนี้ สีร้อนแรง แสบตา ผมเองยังไม่กล้าใส่เลย
สีจีวรควรจะออกสีหม่นๆ ทืมๆ ดูสงบ สมถะ ไม่ยั่วกิเลส ไม่ยั่วอารมณ์ ทั้งคนใส่และคนมอง
สีของพระวัดธรรมยุต คือสีที่เหมาะสม ถูกต้องตรงตามพระวินัย แต่สีของพระวัดมหานิกายบางวัดที่ถูกต้องตามพระวินัยก็มี เช่น วัดหนองป่าพงหลวงพ่อชา รวมถึงวัดของคึกฤทธิ์ และน่าจะมีอีกหลายวัด
เป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับความเห็นผม สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ วางลงได้ตั้งแต่วินาทีนี้ ถ้าใครยังจำเป็นต้องใช้อยู่ ฟันธงไปเลยว่าตัวเรายังไม่เหมาะสมกับการบวชพระ รับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบพระพุทธศาสนา อย่าเห็นแก่ประโยชน์ตน
ส่วนสีจีวร บางคนอาจจะมองว่าไม่มีผล เป็นเรื่องเล็กน้อย พระท่านควบคุมตัวเองได้ ผมก็ยอมรับ แต่ถ้าทำให้ถูกต้องตามพระวินัยก็จะดีมาก เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย
ข้อเสนอ 2 เรื่องเร่งด่วน แก้ปัญหาพระภิกษุละเมิดพระวินัย
เรื่องแรก พระห้ามใช้โทรศัพท์มือถือโดยเด็ดขาด
ก่อนจะอธิบายรายละเอียด ต้องบอกก่อนว่า โทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบัน เป็นสมาร์ทโฟน มีทั้งรูปถ่าย ทั้งคลิปวิดีโอ ไม่ใช่ติดต่อกันด้วยเสียงอย่างเดียวแบบในอดีต (ซึ่งแม้แต่ในอดีตก็ตาม พระก็ไม่ได้ใช้มือถือส่วนตัว เพราะราคาแพง จึงไม่เกิดปัญหาเป็นวงกว้างอย่างทุกวันนี้)
แน่นอนว่า โทรศัพท์มือถือมันมีทั้งประโยชน์และมีทั้งโทษ แต่สำหรับพระภิกษุ ประโยชน์ที่ได้มันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโทษที่มากมายมหาศาล (ไม่รวมถึงการละเมิดพระวินัย แค่ละเมิดพระวินัยเรื่องเดียวก็จบแล้ว)
พระพุทธเจ้า ห้ามพระภิกษุเข้าใกล้สตรี ห้ามพูดคุยกับสตรีตามลำพัง เรียกว่า จุดประสงค์หลักของการบวชเป็นพระ ก็เพื่อหลีกเลี่ยงจากสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง แต่พอมีโทรศัพท์มือถือ ผมเชื่อว่าพระเกือบทุกรูป (ที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำ หรือพกติดตัว) ไม่ปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้าแน่นอน
บางคนอาจจะเถียงว่า พระพุทธเจ้าห้ามเข้าใกล้สตรีเฉพาะตัวเป็นๆ เท่านั้น พวกรูปภาพ รูปถ่าย คลิปวิดีโอ ไม่เป็นไร หรือการคุยกันสองต่อสองก็หมายถึงคุยด้วยปากเท่านั้น คุยกันต่อหน้า ถ้าเป็นคุยผ่านแชท ผ่านวิดีโอคอล ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้เขียนในพระไตรปิฏก ซึ่งผมจะไม่ขออธิบายเรื่องนี้
เรื่องที่สอง อาจจะสำคัญน้อยกว่าเรื่องแรก แต่เป็นข้อเสนอหรือข้อแนะนำของผม นั่นคือ สีของจีวรพระมหานิกาย ไม่ควรเป็นสีที่ฉูดฉาด ไม่แปร๋น สีส้มสดใสแบบคนทั่วไปใส่ไปเที่ยว ถ้าเป็นเสื้อโปโลออกโทนสีแบบนี้ สีร้อนแรง แสบตา ผมเองยังไม่กล้าใส่เลย
สีจีวรควรจะออกสีหม่นๆ ทืมๆ ดูสงบ สมถะ ไม่ยั่วกิเลส ไม่ยั่วอารมณ์ ทั้งคนใส่และคนมอง
สีของพระวัดธรรมยุต คือสีที่เหมาะสม ถูกต้องตรงตามพระวินัย แต่สีของพระวัดมหานิกายบางวัดที่ถูกต้องตามพระวินัยก็มี เช่น วัดหนองป่าพงหลวงพ่อชา รวมถึงวัดของคึกฤทธิ์ และน่าจะมีอีกหลายวัด
เป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับความเห็นผม สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ วางลงได้ตั้งแต่วินาทีนี้ ถ้าใครยังจำเป็นต้องใช้อยู่ ฟันธงไปเลยว่าตัวเรายังไม่เหมาะสมกับการบวชพระ รับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบพระพุทธศาสนา อย่าเห็นแก่ประโยชน์ตน
ส่วนสีจีวร บางคนอาจจะมองว่าไม่มีผล เป็นเรื่องเล็กน้อย พระท่านควบคุมตัวเองได้ ผมก็ยอมรับ แต่ถ้าทำให้ถูกต้องตามพระวินัยก็จะดีมาก เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย