เพื่อใครที่ขี้เกรียจเข้าไปอ่าน เพราะเป็น ENG ล้วน มันยาว แต่สรุปให้
สั้นๆเลย
ทางด้าน นักวิเคราะห์ ชื่อ
เค้าออกมาแฉเวียดนามเองว่า
ทางเวียดนาม หลายเดือนที่ผ่านมา กำลังโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง โดยการจ้าง พวกสื่อและโซเชี่ยลทางเวียดนามประโคมข่าวทุกช่องทางว่า
(การท่องเที่ยวของไทย กำลังตาย และเวียดนามขึ้นมาครองแชมป์ของภูมิถาคSEAนี้แทนไทย)

ซึ่งนักวิเคราะห์ ได้เอาตัวเลขดัชนี มากางชี้วัดและก็พูดถึงปัจจัยโครงสร้าง กทท ของทั้ง2ประเทศนี้ ใครแข็งแกร่งกว่ากัน (ด้าน การท่องเที่ยว)
ซึ่งเค้าบอกว่า ประเทสศไทยเป็น มหาอำนาจ กทท.อันดับ1มายาวนาน ปีที่แล้วไทยมียอด นทท ถึง 35 ล้านคน (ยอดจริง จะ40 ล้านคะคุณ อัพเดทข้อมูลหน่อย)
เทียบกับ เวียดนามผ่านมา ไม่ได้ติดอันดับห่าอะไรกับเค้าเลยซักอย่าง
แต่กลับกัน ปีนี้2025 เวียดนาม (ประกาศตัวชัดเจน ในสื่อเวียดนาม ทุกช่องทางและเป็นโฆษณาชวนเชื่อpropaganda เกินจริง) ว่า กทท ของไทยกำลังล่มสลาย!!! และ นทท.แห่มาเวียดนามแทน และก็เคลมว่า เวียดนามมีราคาที่ถูกกว่า และมี กทท ที่น่าเที่ยวมากกว่าไทย ทำให้ นทท.แห่เข้าเวียดนามแทนไทย
ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ชี้แจงและยกอ้างว่า ในประเทศไทย ที่ปัญหาสำหรับ กทท ในไทยมาจาก ไทยมีจำนวน นทท.ของจีนเป็นอันดับ1มาตลอด แต่ นทท.จีนลดลงไปอย่างมากเนื่องจากปัญหาภายในประเทศไทย และสื่อโซเชียล เรื่มจาก
.
1.ปัญหา ดาราจีนถูกลักพาตัว ไปพม่า ทำให้ซเชียลจีนลุกฮือ ว่าไทยไม่ปลอดภัย (และสังคมจีนก็เป็นสังคมแบบหมู่คณะ คือ คิดอะไรจะคิดเป็นทางเดียวหมด) ทางโซเชียลจีนและคนที่ไม่หวังดีกับไทยก็ช่วยประโคมข่าวนี้ เลยทำให้ไทยเสียหายอย่างหนักเรื่องไม่ปลอดภัย
.
.
2. แผ่นดินไหว ในไทย ปลายเดือน มีนา จึงทำให้เกิดความวิตก ใน กทท ที่เป็นเทศกาลใหญ่ของไทยคือ (สงกรานต์) ที่มี นทท ทั่วโลกมางานนี้ ทำให้ยอดยกเลิก รร มีมากกว่า50%.
.
.
ดังนั้น ช่วงเดือน 5/6 นทท.ส่วนใหญ่ที่จองมาไทยก็เบนเข็มไป เวียดนามแทนหมด (เลยทำให้ กทท ของเวียดนามกระโดดแบบรวดเร็วกว่า70%ภายใน2เดือน ที่ไทยเจอปัญหาภายใน)
สื่อเวีดนามก็เลยใช้ช่วงนี้ประโคมข่าวไปทั่วประเทสว่า นทท ไม่มาไทยแล้ว แต่มาเวียดนามหมด ตอนนี้เวียดนามกำลังก้าวเป็นผู้นะ กทท.แทนไทย และสื่อเวียดนามก็พยายามบรั๊ฟไทยว่า (เวียดนาม มี นักลุงทุนมากมาย GDP มากกว่าไทย แถมตอนนี้ไทยล้าหลังกว่าเวียดนาม ซึ่งประชาชนหลายล้านคน ที่ไม่เคยมาไทย ก้คิดว่า ไทยล้าหลังกว่าเวียดนาม ด้านโครงสร้างประเทศ)
ซึ่งเรื่องนี้ ในโซเชียลเวียดนาม ก็จะพยายามบอกว่า เวียดนามเจริญกว่าไทย ก็เราจะได้เห็นคลิบ คนเวียดนาม มาไทยก็บอก เหมือนพวกเค้ากำลังโดนหลอกมาตลอด เพราะเวลามาเห็น กทม. โครงสร้างประเทศเจริญกว่าเวียดนาม ทั้งตึกอาหาร ห้างร้าน รถไฟฟ้าครอบครุมใน กทม. และถนนหนทาง อย่างที่หลายคนเห็นมากมายในคลิบโซเชียล)
ทีนี่นักวิเคราะห์มาสรุปบอกว่า ช่วงเดือน 5/6 ของไทยที่ นทท แบนเข็มไปที่อื่นทำให้ยอด นทท ไทยหดตัวลง60%
แต่เดือน 7 ยอดรวมของไทย มี นททเพิ่มขึ้นมา และยอดสมบทรวมมากกว่าเวียดนามอยู่ดี ทำไมมีมากกว่า เวียดนาม

.
https://www.youtube.com/watch?v=lsiCEZc948U&t=393s&ab_channel=STLZeroChannel
(รูปนี้ เป็นพวกยูทูปที่อัพเดท นทท ในสนามบินไทยทุกวัน ซึ่งหน้านี่คือ โลว์ซีซั่น แต่ไทยดันกลับ มี นททเพิ่มขึ้นไม่หยุด)
รูปภาพวันที่20/7/68 สามารถหาดูได้ ว่าช่วงนี้ไทยมี นทท แห่เข้าทุกวัน ทั้งที่โลว์ซีซั่นแต่ดันมีมากกว่า เดือน 5 เดือน6 ที่ นทท.เราหายไปจริงๆ
.
.
.
ซึ่งยอดปัจจุบันที่ไทยเรามีปัญหา
แต่ยอดรวมเราตอนนี้ มี นทท เข้าประมาณราวๆ
18ล้านคน (นี่ยังไม่รวมปลายปี ที่เป็นช่วยพีคของ การท่องเที่ยวไทยทุกปี)
แต่เวียดนามตอนนี้ ที่บอกว่าแซงไทยแล้ว แต่กลับมี
นทท.10ล้านคน (ซึ่งเป็นเดือน 5/6 ที่พีคของเวียดนาม)
ทางด้านนักวิเคราะห์แฉต่อว่า ประเทศไทย จุดแข็ง กทท. ของไทยคือ ขาย วัฒนธรรม มวยไทย วัด ธรรมชาติทะเล Bangkok Street Food MICHELIN Restaurants
ทางเวียดนาม ขาย ธะรมชาติ และราคาถูก
ด้านนักวิเคราะห์บอกต่อ่า ในด้านนักท่องเที่ยวมองคือ ถ้าคุณจ่ายเงินไปเที่ยวเวียดนาม5วัน เพื่อไปเที่ยวธรรมชาติ แล้วนักท่องเที่ยวถามกลับต่อว่า แล้วพวกเราจะไปทำอะไรต่อจากนี้
นักวิเคราะห์ได้เสนอว่า เพราะเหตุใด
(ชาวต่างชาติ 50% จะกลับมาประเทศไทย แต่มีเพียง5% เท่านั้น ที่จะกลับไปเวียกนาม) ตามสถิฐิที่สำรวจ
ซึ่งจะเห็นได้ว่า สิ่งที่ไทยมีเหนือเวียดนามก็คือ มีความหลากลาย ในการเที่ยวมากกว่า เวียดนาม ไม่ว่า ในกทม.คุณเลือกการเที่ยวไนท์ราตรีใน กทม หรือไทยก็มีมากมาย Rooftop Bar bangkok ขายวิวและความLuxurk มากมายในตึกอาหารสูงใน กทม ทั้งหมด ที่บาร์มากมายในเลือก ห้างในไทยก็มีความหลากหลายหรูหรามากมาย วัฒนธรรม วัด ก็สามารถหาเที่ยวได้ง่าย ใน กทท. ธรรมชาติทะเลในไทยก็ติดอันดับโลก เรื่องราคาก็มีความหลากหลายมากมายให้เลือก
นักวิเคราะห์พูดต่อ นี่คือข้อเท็จจริง ที่เวีดนาม ต้องยอมรับความจริง อย่างเห็นได้ชัดคือปัญหาใหญ่ของ กทท เวียดนามคือ
นั้นดิทำไม...เป็นเช่นนั้น นักวิเคราะห็เลยบอกต่อว่า ปัญหาแรกสุดของเวีดยามคือ
1.เรื่องวีซ่า ของเวียดนาม ซึ่งไทย(เปิดฟรีวีซ่า 93 ประเทศ) สามารถพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วัน แต่เวียดนามไม่ใช่แบบนี้ นั้นก็คือ มีวีซ่าหลายแบบ ซึ่ง ยุ่งยากเกินไปสำหรับ นทท
2.ช่องว่างคุณภาพการบริการ ของเวียดนาม เช่น พนักงานเวียดนามโรงแรม1คนทำหน้าที่หลายอย่าง ซึ่งในประเทศไทยจะมีตำแหน่งชัดเจน ผู้จัดการ พนักงานรับสาย พนักงานดูแลส่วนนี่นั้นแยกชัดเจน รวมทั้งการบริการของไทยก็มีคุณภาพมากกว่า ยิ่งโรงแรม ระดับบนๆด้วย ยิ่งเหนือกว่าเวียดนาม
3.ความแออัดของประชากรในเวียดนาม และ นทท.จะเห็นได้ชัดว่า เรือรำราญในอ่าว ฮาลอง เน้นเรือปาร์ตี้ คาราโอเก๊ะ ที่เสียงดังระกวนแขกคนอื่น แถมมีขยะขยะมากมายที่ทิ้งลงในหาด[img][/img]

ตัดภาพมาที่ไทย หาดอุทยาน ในไทยชื่อดัง (เช่น อ่าวมาหยา) ระบุชัดเจน และมีมีการปิดอ่าวเพื่อซ่อมแซมธรรมชาติทุกปี และมีป้ายเตือนชัดเจน ห้ามลงเล่นน้ำ ห้ามทิ้งพลาสติก การควบคุมอยู่ตลอด ดังนั้น การเคารพและดูแลธรรมชาติในการท่องเที่ยว ไทยดูมีมากกว่า เวียดนาม ที่เน้น นทท เยอะๆ
ดังนั้น ข้อสรุปทั้งหมด จะเห็นได้ว่า แค่หลักการตัวเลข นั้นคือ ความจริงที่ต้องยอมรับ
ทำไม 50% ของ นททต่างชาติจะกลับมาไทย แต่ทำไมมีเพียง 5% ที่จะกลับไปเวียดนาม รวมทั้งยอดปัจจุบันที่ไทยมีอุปสรรคในเดือน 5/6 ที่นทท.จีนลดลงไป50% แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ กทท ของไทยล่มแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันยอดรวม นทท.ในไทย ดันมีมากกว่า นทท ในเวียดนามอยู่ดี.
.
.
.
และนี่คือความจริงว่า โษณาชวนเชื่อ ของเวียดนาม ที่ใช้สื่อมีเดียอวยประเทศตัวเองนั้นเกินจริงไปมาก เราต้องมองรวมรวมและดัชนีตัวเลขที่แน่นอนได้ว่า ไทยยังเป็นมหาอำนาจ กทท. อยู่ดี
ซึ่ง ส่วน คอมเม้นท์ ก็
ว่ากันตามจริง
นทท.หายคนออกมาฉแเอง ไม่ว่า เรื่อง การโดนโกง การทิ้งขยะบททางเท้าในร้านอาหาร(เหมือนวัฒนธรรม คือแดกแล้วทิ้งลงพื้น เดี๋ยวร้านเลิกพวกกูเก็บกวาดเอง ปัญหาคือคนกำลังแดกอาหารอยู่ โต๊ะข้างๆทิ้งกันเกลื่อนมันสกปรกคะ

ไม่ใช่วัฒนธรรม ก็แค่เอาถังขยะมาก็จบ) ทางเท้าฟุตบาทเดินไม่ได้ไว้จอดมอร์เตอร์ไซด์ทำให้ นทท.ต้องลงไปเดินลงถนน แล้วก็เสียงโดนมอไซด์ชน การข้ามถนนที่เวียดนามเหมือนการเอาชีวิตไปเสี่ยง และอีกหลายอย่าง เสียงแตรสนั่นหวั่นไหวทั้งวัน
นทท หลายคนบอก เครียดเกินไป


เวียดนาม หน้าแตกยับ โดนนักเศรษศาสตร์ วิเคราะเรื่องโฆษณาชวนเชื่อของเวียดนามว่า( กทท.เวียดนาม แซงไทย แล้ว) ไม่เป็นความจริง
เพื่อใครที่ขี้เกรียจเข้าไปอ่าน เพราะเป็น ENG ล้วน มันยาว แต่สรุปให้
สั้นๆเลย
ทางด้าน นักวิเคราะห์ ชื่อ
เค้าออกมาแฉเวียดนามเองว่า
ทางเวียดนาม หลายเดือนที่ผ่านมา กำลังโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง โดยการจ้าง พวกสื่อและโซเชี่ยลทางเวียดนามประโคมข่าวทุกช่องทางว่า
(การท่องเที่ยวของไทย กำลังตาย และเวียดนามขึ้นมาครองแชมป์ของภูมิถาคSEAนี้แทนไทย)
ซึ่งนักวิเคราะห์ ได้เอาตัวเลขดัชนี มากางชี้วัดและก็พูดถึงปัจจัยโครงสร้าง กทท ของทั้ง2ประเทศนี้ ใครแข็งแกร่งกว่ากัน (ด้าน การท่องเที่ยว)
ซึ่งเค้าบอกว่า ประเทสศไทยเป็น มหาอำนาจ กทท.อันดับ1มายาวนาน ปีที่แล้วไทยมียอด นทท ถึง 35 ล้านคน (ยอดจริง จะ40 ล้านคะคุณ อัพเดทข้อมูลหน่อย)
เทียบกับ เวียดนามผ่านมา ไม่ได้ติดอันดับห่าอะไรกับเค้าเลยซักอย่าง
แต่กลับกัน ปีนี้2025 เวียดนาม (ประกาศตัวชัดเจน ในสื่อเวียดนาม ทุกช่องทางและเป็นโฆษณาชวนเชื่อpropaganda เกินจริง) ว่า กทท ของไทยกำลังล่มสลาย!!! และ นทท.แห่มาเวียดนามแทน และก็เคลมว่า เวียดนามมีราคาที่ถูกกว่า และมี กทท ที่น่าเที่ยวมากกว่าไทย ทำให้ นทท.แห่เข้าเวียดนามแทนไทย
ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ชี้แจงและยกอ้างว่า ในประเทศไทย ที่ปัญหาสำหรับ กทท ในไทยมาจาก ไทยมีจำนวน นทท.ของจีนเป็นอันดับ1มาตลอด แต่ นทท.จีนลดลงไปอย่างมากเนื่องจากปัญหาภายในประเทศไทย และสื่อโซเชียล เรื่มจาก
.
1.ปัญหา ดาราจีนถูกลักพาตัว ไปพม่า ทำให้ซเชียลจีนลุกฮือ ว่าไทยไม่ปลอดภัย (และสังคมจีนก็เป็นสังคมแบบหมู่คณะ คือ คิดอะไรจะคิดเป็นทางเดียวหมด) ทางโซเชียลจีนและคนที่ไม่หวังดีกับไทยก็ช่วยประโคมข่าวนี้ เลยทำให้ไทยเสียหายอย่างหนักเรื่องไม่ปลอดภัย
.
.
2. แผ่นดินไหว ในไทย ปลายเดือน มีนา จึงทำให้เกิดความวิตก ใน กทท ที่เป็นเทศกาลใหญ่ของไทยคือ (สงกรานต์) ที่มี นทท ทั่วโลกมางานนี้ ทำให้ยอดยกเลิก รร มีมากกว่า50%.
.
.
ดังนั้น ช่วงเดือน 5/6 นทท.ส่วนใหญ่ที่จองมาไทยก็เบนเข็มไป เวียดนามแทนหมด (เลยทำให้ กทท ของเวียดนามกระโดดแบบรวดเร็วกว่า70%ภายใน2เดือน ที่ไทยเจอปัญหาภายใน)
สื่อเวีดนามก็เลยใช้ช่วงนี้ประโคมข่าวไปทั่วประเทสว่า นทท ไม่มาไทยแล้ว แต่มาเวียดนามหมด ตอนนี้เวียดนามกำลังก้าวเป็นผู้นะ กทท.แทนไทย และสื่อเวียดนามก็พยายามบรั๊ฟไทยว่า (เวียดนาม มี นักลุงทุนมากมาย GDP มากกว่าไทย แถมตอนนี้ไทยล้าหลังกว่าเวียดนาม ซึ่งประชาชนหลายล้านคน ที่ไม่เคยมาไทย ก้คิดว่า ไทยล้าหลังกว่าเวียดนาม ด้านโครงสร้างประเทศ)
ซึ่งเรื่องนี้ ในโซเชียลเวียดนาม ก็จะพยายามบอกว่า เวียดนามเจริญกว่าไทย ก็เราจะได้เห็นคลิบ คนเวียดนาม มาไทยก็บอก เหมือนพวกเค้ากำลังโดนหลอกมาตลอด เพราะเวลามาเห็น กทม. โครงสร้างประเทศเจริญกว่าเวียดนาม ทั้งตึกอาหาร ห้างร้าน รถไฟฟ้าครอบครุมใน กทม. และถนนหนทาง อย่างที่หลายคนเห็นมากมายในคลิบโซเชียล)
ทีนี่นักวิเคราะห์มาสรุปบอกว่า ช่วงเดือน 5/6 ของไทยที่ นทท แบนเข็มไปที่อื่นทำให้ยอด นทท ไทยหดตัวลง60%
แต่เดือน 7 ยอดรวมของไทย มี นททเพิ่มขึ้นมา และยอดสมบทรวมมากกว่าเวียดนามอยู่ดี ทำไมมีมากกว่า เวียดนาม
.
https://www.youtube.com/watch?v=lsiCEZc948U&t=393s&ab_channel=STLZeroChannel
(รูปนี้ เป็นพวกยูทูปที่อัพเดท นทท ในสนามบินไทยทุกวัน ซึ่งหน้านี่คือ โลว์ซีซั่น แต่ไทยดันกลับ มี นททเพิ่มขึ้นไม่หยุด)
รูปภาพวันที่20/7/68 สามารถหาดูได้ ว่าช่วงนี้ไทยมี นทท แห่เข้าทุกวัน ทั้งที่โลว์ซีซั่นแต่ดันมีมากกว่า เดือน 5 เดือน6 ที่ นทท.เราหายไปจริงๆ
.
.
.
ซึ่งยอดปัจจุบันที่ไทยเรามีปัญหา
แต่ยอดรวมเราตอนนี้ มี นทท เข้าประมาณราวๆ18ล้านคน (นี่ยังไม่รวมปลายปี ที่เป็นช่วยพีคของ การท่องเที่ยวไทยทุกปี)
แต่เวียดนามตอนนี้ ที่บอกว่าแซงไทยแล้ว แต่กลับมี นทท.10ล้านคน (ซึ่งเป็นเดือน 5/6 ที่พีคของเวียดนาม)
ทางด้านนักวิเคราะห์แฉต่อว่า ประเทศไทย จุดแข็ง กทท. ของไทยคือ ขาย วัฒนธรรม มวยไทย วัด ธรรมชาติทะเล Bangkok Street Food MICHELIN Restaurants
ทางเวียดนาม ขาย ธะรมชาติ และราคาถูก
ด้านนักวิเคราะห์บอกต่อ่า ในด้านนักท่องเที่ยวมองคือ ถ้าคุณจ่ายเงินไปเที่ยวเวียดนาม5วัน เพื่อไปเที่ยวธรรมชาติ แล้วนักท่องเที่ยวถามกลับต่อว่า แล้วพวกเราจะไปทำอะไรต่อจากนี้
นักวิเคราะห์ได้เสนอว่า เพราะเหตุใด (ชาวต่างชาติ 50% จะกลับมาประเทศไทย แต่มีเพียง5% เท่านั้น ที่จะกลับไปเวียกนาม) ตามสถิฐิที่สำรวจ
ซึ่งจะเห็นได้ว่า สิ่งที่ไทยมีเหนือเวียดนามก็คือ มีความหลากลาย ในการเที่ยวมากกว่า เวียดนาม ไม่ว่า ในกทม.คุณเลือกการเที่ยวไนท์ราตรีใน กทม หรือไทยก็มีมากมาย Rooftop Bar bangkok ขายวิวและความLuxurk มากมายในตึกอาหารสูงใน กทม ทั้งหมด ที่บาร์มากมายในเลือก ห้างในไทยก็มีความหลากหลายหรูหรามากมาย วัฒนธรรม วัด ก็สามารถหาเที่ยวได้ง่าย ใน กทท. ธรรมชาติทะเลในไทยก็ติดอันดับโลก เรื่องราคาก็มีความหลากหลายมากมายให้เลือก
นักวิเคราะห์พูดต่อ นี่คือข้อเท็จจริง ที่เวีดนาม ต้องยอมรับความจริง อย่างเห็นได้ชัดคือปัญหาใหญ่ของ กทท เวียดนามคือ
นั้นดิทำไม...เป็นเช่นนั้น นักวิเคราะห็เลยบอกต่อว่า ปัญหาแรกสุดของเวีดยามคือ
1.เรื่องวีซ่า ของเวียดนาม ซึ่งไทย(เปิดฟรีวีซ่า 93 ประเทศ) สามารถพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วัน แต่เวียดนามไม่ใช่แบบนี้ นั้นก็คือ มีวีซ่าหลายแบบ ซึ่ง ยุ่งยากเกินไปสำหรับ นทท
2.ช่องว่างคุณภาพการบริการ ของเวียดนาม เช่น พนักงานเวียดนามโรงแรม1คนทำหน้าที่หลายอย่าง ซึ่งในประเทศไทยจะมีตำแหน่งชัดเจน ผู้จัดการ พนักงานรับสาย พนักงานดูแลส่วนนี่นั้นแยกชัดเจน รวมทั้งการบริการของไทยก็มีคุณภาพมากกว่า ยิ่งโรงแรม ระดับบนๆด้วย ยิ่งเหนือกว่าเวียดนาม
3.ความแออัดของประชากรในเวียดนาม และ นทท.จะเห็นได้ชัดว่า เรือรำราญในอ่าว ฮาลอง เน้นเรือปาร์ตี้ คาราโอเก๊ะ ที่เสียงดังระกวนแขกคนอื่น แถมมีขยะขยะมากมายที่ทิ้งลงในหาด[img][/img]
ตัดภาพมาที่ไทย หาดอุทยาน ในไทยชื่อดัง (เช่น อ่าวมาหยา) ระบุชัดเจน และมีมีการปิดอ่าวเพื่อซ่อมแซมธรรมชาติทุกปี และมีป้ายเตือนชัดเจน ห้ามลงเล่นน้ำ ห้ามทิ้งพลาสติก การควบคุมอยู่ตลอด ดังนั้น การเคารพและดูแลธรรมชาติในการท่องเที่ยว ไทยดูมีมากกว่า เวียดนาม ที่เน้น นทท เยอะๆ
ดังนั้น ข้อสรุปทั้งหมด จะเห็นได้ว่า แค่หลักการตัวเลข นั้นคือ ความจริงที่ต้องยอมรับ
ทำไม 50% ของ นททต่างชาติจะกลับมาไทย แต่ทำไมมีเพียง 5% ที่จะกลับไปเวียดนาม รวมทั้งยอดปัจจุบันที่ไทยมีอุปสรรคในเดือน 5/6 ที่นทท.จีนลดลงไป50% แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ กทท ของไทยล่มแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันยอดรวม นทท.ในไทย ดันมีมากกว่า นทท ในเวียดนามอยู่ดี.
.
.
.
และนี่คือความจริงว่า โษณาชวนเชื่อ ของเวียดนาม ที่ใช้สื่อมีเดียอวยประเทศตัวเองนั้นเกินจริงไปมาก เราต้องมองรวมรวมและดัชนีตัวเลขที่แน่นอนได้ว่า ไทยยังเป็นมหาอำนาจ กทท. อยู่ดี
ซึ่ง ส่วน คอมเม้นท์ ก็
ว่ากันตามจริง
นทท.หายคนออกมาฉแเอง ไม่ว่า เรื่อง การโดนโกง การทิ้งขยะบททางเท้าในร้านอาหาร(เหมือนวัฒนธรรม คือแดกแล้วทิ้งลงพื้น เดี๋ยวร้านเลิกพวกกูเก็บกวาดเอง ปัญหาคือคนกำลังแดกอาหารอยู่ โต๊ะข้างๆทิ้งกันเกลื่อนมันสกปรกคะ
นทท หลายคนบอก เครียดเกินไป