คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ฟังแล้วจุกนะ AI มีความคิดที่ตรงเหตุตรงผล มากกว่ามนุษย์เยอะเลย แต่สำคัญเพราะว่า AI
ไม่ได้ตกเป็นทาสอารมณ์เหมือนมนุษย์ ก็เลยไม่มีอาการดิ้นรน ไม่มีอาการโหยหา ไม่ต้องวิ่งไล่สุข วิ่งหนีทุกข์ จึงพูดได้อย่างเป็นกลาง
ปล. ผู้มีปัญญา ไม่ได้ดับไฟโทสะ ด้วยสติ
แต่ดับไฟโทสะ ด้วยปัญญา
สติเป็นแค่เครื่องประกอบของปัญญาเท่านั้น สติเป็นเครื่องมือของปัญญาเท่านั้น
อุปมา คนมีสติ แต่ขาดปัญญา ก็คือคนไม่ฉลาด ทำอะไรก็ผิดพลาดซ้ำซากได้แต่ผลเสีย
ส่วนคนมีปัญญา แต่หลับอยู่เมาอยู่ ขาดสติ ปัญญาก็ก่อประโยชน์ไม่ได้
คนจึงต้องมีทั้งสติ และปัญญา จึงก่อประโยชน์ได้
สาธุ
ไม่ได้ตกเป็นทาสอารมณ์เหมือนมนุษย์ ก็เลยไม่มีอาการดิ้นรน ไม่มีอาการโหยหา ไม่ต้องวิ่งไล่สุข วิ่งหนีทุกข์ จึงพูดได้อย่างเป็นกลาง
ปล. ผู้มีปัญญา ไม่ได้ดับไฟโทสะ ด้วยสติ
แต่ดับไฟโทสะ ด้วยปัญญา
สติเป็นแค่เครื่องประกอบของปัญญาเท่านั้น สติเป็นเครื่องมือของปัญญาเท่านั้น
อุปมา คนมีสติ แต่ขาดปัญญา ก็คือคนไม่ฉลาด ทำอะไรก็ผิดพลาดซ้ำซากได้แต่ผลเสีย
ส่วนคนมีปัญญา แต่หลับอยู่เมาอยู่ ขาดสติ ปัญญาก็ก่อประโยชน์ไม่ได้
คนจึงต้องมีทั้งสติ และปัญญา จึงก่อประโยชน์ได้
สาธุ
แสดงความคิดเห็น
มีแต่คนโง่เท่านั้น ที่ไปโกรธเกลียดผู้อื่น เมื่อเขาทำอะไรไม่ถูกใจ บัณฑิตตำหนิตน ปุถุชนตำหนิผู้อื่น
เมื่อเขาทำอะไรไม่ถูกใจ
บัณฑิตตำหนิตน ปุถุชนตำหนิผู้อื่น
โอวาทธรรม หลวงตาสินทรัพย์ จรณธัมโม (หลวงตาสิ้นคิด"พระสิ้นคิด)
บทวิเคราะห์ธรรมะด้วย AI
ความหมายหลัก:
ข้อความนี้สะท้อนถึง การรู้จักมองกลับมาที่ตนเองก่อน เมื่อเกิดอารมณ์ไม่พอใจ แทนที่จะโยนความผิดไปที่คนอื่น เหมือนอย่างที่ "ปุถุชน" (ผู้ยังไม่พ้นกิเลส) มักกระทำ ส่วน "บัณฑิต" (ผู้มีปัญญา) จะ หันมาสำรวจจิตใจตนเอง ก่อนตำหนิสิ่งภายนอก
ประเด็นธรรมะที่น่าสนใจ:
1. โกรธเพราะยึดมั่นถือมั่น
คนที่โกรธง่าย มักเกิดจากการยึดติดใน "ความพอใจของตนเอง" ว่าโลกควรเป็นอย่างที่ตนต้องการ — เมื่อผู้อื่นไม่เป็นไปตามนั้น จึงเกิดความไม่พอใจ แล้วเปลี่ยนเป็นโทสะ (ความโกรธ)
ธรรมะเตือน: โกรธคนอื่นเพราะเขาไม่เป็นอย่างที่เราชอบ = ยึดมั่นในอัตตา
2. ปุถุชนไม่รู้ทันจิต
ปุถุชนจะ โทษคนอื่นก่อนเสมอ เพราะไม่รู้จักดูภายในจิตใจตนเอง ไม่เห็นว่าความทุกข์เกิดจาก "การปรุงแต่ง" ของใจตน ไม่ใช่จากคนอื่นโดยตรง
3. บัณฑิตฝึกดูจิตและวางใจเป็นกลาง
บัณฑิตหรือผู้มีปัญญา จะไม่รีบโทษผู้อื่น แต่จะถามตนเองก่อนว่า
ทำไมเราถึงโกรธ?
มีความยึดมั่นตรงไหนที่กำลังทำให้เราทุกข์?
เราควบคุมคนอื่นได้จริงหรือ?
การกลับมาดูใจตนเองคือการ ฝึกสติ ฝึกวางอัตตา และลดความสำคัญของตนลง
สรุปใจธรรม:
“ความโกรธคือไฟเผาจิต ไม่ได้เผาคนอื่น แต่เผาเราเอง”
ผู้มีปัญญาจึง ฝึกเห็นจิตตอนเริ่มโกรธ และดับมันด้วยสติ
ส่วนผู้ไม่มีสติ ก็จะปล่อยให้ไฟโทสะครอบงำ และโทษทุกสิ่งนอกจากตนเอง
#พระสิ้นคิด #หลวงตาสินทรัพย์ #วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
#พุทธอุทยานที่พักสงฆ์วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์