ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ -
สุขวิชโนมิกส์: กรุงเทพมหานครเมืองกีฬาอัจฉริยะ
ปี 2537 คำนวณด้วยเศรษฐมิติ (Econometrics)
บทคัดย่อ
โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในเขตเมืองไม่ได้เป็นเพียงตัวเร่งทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วย กรุงเทพมหานครเมืองกีฬาอัจฉริยะ ปี 2537 (The 1994 Bangkok Smart Sports City) ซึ่งเสนอให้ก่อสร้างเหนือพื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ถนนพระราม 9 (ประมาณ 1,000 ไร่) เป็นแผนพัฒนาแบบบูรณาการที่ริเริ่มขึ้นในสมัย ฯพณฯ นายสุขวิช รังสิตพล ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน (พ.ศ. 2537) ในฐานอดีตประธานองค์การรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ2 มติคือ
1) คูณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 17 พฤษภาคม 2537พืนที่ "ต้อง" สร้างระบบใต้ดินคือ ส่วนกลาง 25 ตารางเมตร
และ พีนที่ "ควร" สร้างระบบไต้ดิน คือ 87 ตารางกิโลเมตร# เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดอุบัติเหตุต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างถึงต่อเนื่องตลอดอายุการใช้งาน
2) คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 27 กันยายน 2537 แผนแม็บทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (MTMP) ระยะทาง 135กิโลเมตร
ขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร MRT) และ ระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อเข้าสู่ระบบหลัก
11 สายระยะทาง 206 กิโลเมตร รวมเป็น 341 กิโลเมตร
รถไฟฟ้า BTS ได้รับสัมปทาน 9 เมษายน 2535 จัดทำแผนแม่บทไม่สำเร็จ เริ่มงานไม่ได้ กรณีเดียวกับ ลาวาลิน โฮปเวลล์ และ รถไฟ 3 สนามบินใน ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 11 ธันวาคม 2537 ส่งผลให้ BTS สามารถตัดแบ่งส่วนกำไรสูงสุด ของ แผนแม่บท MRT ด้วยการสนับสนุนของ พรรคพลังธรรม (คล้ายกรณี ทักษิณ อภิสิทธิ์ ฮุนเซ็น ปี 2568 เปลี่ยนจาก การเปิดเผยข้อมูลกับต่างชาติ (เขมร)
เป็นเอกชน (BTS)
แผนการพัฒนาของฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล รวมถึง The 1993 Bangkok Ocean Terminal (ใต้สะพานพระราม 9) ในฐานะ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปี 2536- 2537 ได้รวมเอาแนวคิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบระบบขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development: TOD) ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา การย้ายและฟื้นฟูชุมชนแออัด (โดยเฉพาะการย้ายชุมชนคลองเตย) และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ปี 1998
ในรัฐบาลต่อมา ท่านได้นำแนวคิดเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในระดับย่อยผ่านการพัฒนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
และ จนถึงปี 2025 หมู่บ้านนักกีฬาสำหรับเอเชียนเกมส์ยังคงถูกใช้เป็นหอพักนิสิตที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเป็นมรดกที่ยั่งยืนของวิสัยทัศน์ หรือ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์: สุขวิชโนมิกส์
นอกจากนี้ ระหว่างปี 2539–2540 ขณะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ฯพณฯ สุขวิช เป็นผู้บัญญัติวลี “มิตรภาพไร้พรมแดน” (Friendship Beyond Frontiers) ซึ่งกลายเป็นคำขวัญที่สะท้อนความร่วมมือระดับภูมิภาคและการทูตเชิงกีฬา (soft diplomacy)
บทความนี้ อธิบายกรณี หากโครงการดังกล่าวในปี 1994 ได้รับการดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหภาคและสังคมเมืองที่สูญเสียไปเนื่องจากไม่ได้ดำเนินโครงการต่อ ด้วยการใช้เครื่องมือเศรษฐมิติสมัยใหม่และคลาสสิก เช่น แบบจำลอง ARIMA, การทดสอบจุดเปลี่ยนโครงสร้าง (Chow test) และฟังก์ชันการผลิต Cobb-Douglas เราได้ประเมิน “มูลค่าที่หายไป” จากโครงการที่ถูกยุติไป
แบบจำลองให้ความสำคัญกับมหานครกีฬาในฐานะ “จุดเติบโตแฝง” (latent growth node) ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยที่ทุนโครงสร้างพื้นฐาน (K), การบูรณาการแรงงาน (L) และความต่อเนื่องของสถาบัน (T) มีปฏิสัมพันธ์กันในเชิงคูณ ซึ่งสามารถประมาณการผลผลิตที่สูญเสียไปในระยะยาวด้วยสูตร:
Y = A · K^α · L^β · T^γ
โดยที่ Y คือผลผลิตเมืองที่สูญเสีย, A คือผลิตภาพรวมของปัจจัยการผลิต (TFP), และ α, β, γ คือสัมประสิทธิ์ความยืดหยุ่นที่ได้จากการเปรียบเทียบกับกรณีศึกษาในภูมิภาคอื่น สมมุติให้อัตราการเติบโตของการลงทุนด้านทุนอยู่ที่ 7% ต่อปี การดูดซับประชากรชุมชนแออัดประมาณ 80,000 คน และใช้ตัวคูณประโยชน์จากระบบรถไฟฟ้า MRT ระยะที่ 1 คาดว่าเศรษฐกิจเมืองกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2000–2020 จะเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ได้มากกว่าเดิมประมาณ 1.2%
เมื่อรวมตัวแปรด้านสังคม การย้ายชุมชนคลองเตยเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่เน้นกีฬา จะส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาทุนมนุษย์ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาสามารถสร้างระบบการศึกษาเชิงร่างกาย เสริมสร้างอัตลักษณ์ชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจผ่านแบบอย่าง ทำให้ลดอาชญากรรมและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในชุมชนชายขอบ งานวิจัยเชิงสังคมวิทยาเมืองระบุว่า การเข้าถึงสนามกีฬาและโอกาสในการแข่งขันสามารถลดความเสี่ยงในการออกนอกระบบ ช่วยสร้างระเบียบวินัย และเปิดเส้นทางสู่อาชีพในสายกีฬา
หากโครงการปี 1994 สำเร็จ เป็นไปได้ว่าเด็กจากคลองเตยบางคน—ซึ่งถูกตีตราจากวัฏจักรความยากจนและความรุนแรงในเมือง—อาจกลายเป็นนักกีฬา ทีมโค้ช หรือครูพละในระดับประเทศได้ ด้วยโอกาสที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกฝนอย่างมีโครงสร้างในชุมชน บันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวยังชี้ว่าคลองเตยมีอาชญากรรมรุนแรงหลายคดี รวมถึงการฆาตกรรมครูหญิงหน้าเครื่อง ATM ซึ่งสะท้อนถึงการล่มสลายของระเบียบสาธารณะในพื้นที่ที่รัฐละเลย
บทความยังตรวจสอบ “ความไม่ต่อเนื่องของนโยบาย” ว่าเป็นจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้างในเส้นทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย โดยมีการปฏิเสธสมมติฐานศูนย์จากการทดสอบ Chow ที่ไตรมาสแรกของปี 2001 สะท้อนถึงผลตอบแทนที่ไม่เกิดขึ้นจริงจากโครงการกีฬา เช่น มูลค่าที่ดินที่ไม่เพิ่มขึ้น รายได้การท่องเที่ยวที่ไม่ได้รับ และการคงอยู่ของชุมชนแออัดในใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีการเติบโตแบบกำเนิดภายใน (endogenous growth theory) ที่ชี้ว่า ความไม่ต่อเนื่องของสถาบันจะขัดขวางนวัตกรรมในเมือง และทำลายผลสะสมจากการลงทุนภาครัฐระยะยาว
งานวิจัยนี้จึงมีส่วนร่วมกับวรรณกรรมด้านนโยบายเมือง ด้วยการชี้วัด “ต้นทุนเชิงโอกาส” ที่เกิดจากความไม่มั่นคงทางการเมือง และแสดงให้เห็นว่าโครงการเมกะโปรเจกต์ในเมืองที่ไม่ได้รับการสานต่อ อาจสร้างช่องว่างระยะยาวต่อการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง พร้อมเสนอให้มีการรักษาความต่อเนื่องของโครงการข้ามรัฐบาล เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานจากความผันผวนทางการเมือง
คำสำคัญ: ต้นทุนโอกาสของเมือง; รถไฟฟ้า MRT กรุงเทพฯ; สุขวิชโนมิกส์; การย้ายชุมชนแออัด; การทดสอบจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง; Chow test; Cobb-Douglas; ความไม่ต่อเนื่องของโครงสร้างพื้นฐาน; กีฬาเอเชียนเกมส์ 1998; การป้องกันอาชญากรรมในเยาวชน; กีฬาและการเคลื่อนย้ายทางสังคม; การพยากรณ์เมืองแบบ ARIMA
สาขาวิชา: สุขวิชโนมิกส์, ธุรกิจ, เศรษฐศาสตร์ และการจัดการ — เศรษฐมิติและการพัฒนาเมือง
เศรษฐมิติ: กรุงเทพมหานครเมืองกีฬาอัจฉริยะ ปี 2537
บทคัดย่อ
โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในเขตเมืองไม่ได้เป็นเพียงตัวเร่งทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วย กรุงเทพมหานครเมืองกีฬาอัจฉริยะ ปี 2537 (The 1994 Bangkok Smart Sports City) ซึ่งเสนอให้ก่อสร้างเหนือพื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ถนนพระราม 9 (ประมาณ 1,000 ไร่) เป็นแผนพัฒนาแบบบูรณาการที่ริเริ่มขึ้นในสมัย ฯพณฯ นายสุขวิช รังสิตพล ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน (พ.ศ. 2537) ในฐานอดีตประธานองค์การรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ2 มติคือ
1) คูณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 17 พฤษภาคม 2537พืนที่ "ต้อง" สร้างระบบใต้ดินคือ ส่วนกลาง 25 ตารางเมตร
และ พีนที่ "ควร" สร้างระบบไต้ดิน คือ 87 ตารางกิโลเมตร# เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดอุบัติเหตุต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างถึงต่อเนื่องตลอดอายุการใช้งาน
2) คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 27 กันยายน 2537 แผนแม็บทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (MTMP) ระยะทาง 135กิโลเมตร
ขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร MRT) และ ระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อเข้าสู่ระบบหลัก
11 สายระยะทาง 206 กิโลเมตร รวมเป็น 341 กิโลเมตร
รถไฟฟ้า BTS ได้รับสัมปทาน 9 เมษายน 2535 จัดทำแผนแม่บทไม่สำเร็จ เริ่มงานไม่ได้ กรณีเดียวกับ ลาวาลิน โฮปเวลล์ และ รถไฟ 3 สนามบินใน ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 11 ธันวาคม 2537 ส่งผลให้ BTS สามารถตัดแบ่งส่วนกำไรสูงสุด ของ แผนแม่บท MRT ด้วยการสนับสนุนของ พรรคพลังธรรม (คล้ายกรณี ทักษิณ อภิสิทธิ์ ฮุนเซ็น ปี 2568 เปลี่ยนจาก การเปิดเผยข้อมูลกับต่างชาติ (เขมร) เป็นเอกชน (BTS)
แผนการพัฒนาของฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล รวมถึง The 1993 Bangkok Ocean Terminal (ใต้สะพานพระราม 9) ในฐานะ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปี 2536- 2537 ได้รวมเอาแนวคิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบระบบขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development: TOD) ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา การย้ายและฟื้นฟูชุมชนแออัด (โดยเฉพาะการย้ายชุมชนคลองเตย) และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ปี 1998
ในรัฐบาลต่อมา ท่านได้นำแนวคิดเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในระดับย่อยผ่านการพัฒนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
และ จนถึงปี 2025 หมู่บ้านนักกีฬาสำหรับเอเชียนเกมส์ยังคงถูกใช้เป็นหอพักนิสิตที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเป็นมรดกที่ยั่งยืนของวิสัยทัศน์ หรือ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์: สุขวิชโนมิกส์
นอกจากนี้ ระหว่างปี 2539–2540 ขณะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ฯพณฯ สุขวิช เป็นผู้บัญญัติวลี “มิตรภาพไร้พรมแดน” (Friendship Beyond Frontiers) ซึ่งกลายเป็นคำขวัญที่สะท้อนความร่วมมือระดับภูมิภาคและการทูตเชิงกีฬา (soft diplomacy)
บทความนี้ อธิบายกรณี หากโครงการดังกล่าวในปี 1994 ได้รับการดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหภาคและสังคมเมืองที่สูญเสียไปเนื่องจากไม่ได้ดำเนินโครงการต่อ ด้วยการใช้เครื่องมือเศรษฐมิติสมัยใหม่และคลาสสิก เช่น แบบจำลอง ARIMA, การทดสอบจุดเปลี่ยนโครงสร้าง (Chow test) และฟังก์ชันการผลิต Cobb-Douglas เราได้ประเมิน “มูลค่าที่หายไป” จากโครงการที่ถูกยุติไป
แบบจำลองให้ความสำคัญกับมหานครกีฬาในฐานะ “จุดเติบโตแฝง” (latent growth node) ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยที่ทุนโครงสร้างพื้นฐาน (K), การบูรณาการแรงงาน (L) และความต่อเนื่องของสถาบัน (T) มีปฏิสัมพันธ์กันในเชิงคูณ ซึ่งสามารถประมาณการผลผลิตที่สูญเสียไปในระยะยาวด้วยสูตร:
Y = A · K^α · L^β · T^γ
โดยที่ Y คือผลผลิตเมืองที่สูญเสีย, A คือผลิตภาพรวมของปัจจัยการผลิต (TFP), และ α, β, γ คือสัมประสิทธิ์ความยืดหยุ่นที่ได้จากการเปรียบเทียบกับกรณีศึกษาในภูมิภาคอื่น สมมุติให้อัตราการเติบโตของการลงทุนด้านทุนอยู่ที่ 7% ต่อปี การดูดซับประชากรชุมชนแออัดประมาณ 80,000 คน และใช้ตัวคูณประโยชน์จากระบบรถไฟฟ้า MRT ระยะที่ 1 คาดว่าเศรษฐกิจเมืองกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2000–2020 จะเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ได้มากกว่าเดิมประมาณ 1.2%
เมื่อรวมตัวแปรด้านสังคม การย้ายชุมชนคลองเตยเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่เน้นกีฬา จะส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาทุนมนุษย์ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาสามารถสร้างระบบการศึกษาเชิงร่างกาย เสริมสร้างอัตลักษณ์ชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจผ่านแบบอย่าง ทำให้ลดอาชญากรรมและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในชุมชนชายขอบ งานวิจัยเชิงสังคมวิทยาเมืองระบุว่า การเข้าถึงสนามกีฬาและโอกาสในการแข่งขันสามารถลดความเสี่ยงในการออกนอกระบบ ช่วยสร้างระเบียบวินัย และเปิดเส้นทางสู่อาชีพในสายกีฬา
หากโครงการปี 1994 สำเร็จ เป็นไปได้ว่าเด็กจากคลองเตยบางคน—ซึ่งถูกตีตราจากวัฏจักรความยากจนและความรุนแรงในเมือง—อาจกลายเป็นนักกีฬา ทีมโค้ช หรือครูพละในระดับประเทศได้ ด้วยโอกาสที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกฝนอย่างมีโครงสร้างในชุมชน บันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวยังชี้ว่าคลองเตยมีอาชญากรรมรุนแรงหลายคดี รวมถึงการฆาตกรรมครูหญิงหน้าเครื่อง ATM ซึ่งสะท้อนถึงการล่มสลายของระเบียบสาธารณะในพื้นที่ที่รัฐละเลย
บทความยังตรวจสอบ “ความไม่ต่อเนื่องของนโยบาย” ว่าเป็นจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้างในเส้นทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย โดยมีการปฏิเสธสมมติฐานศูนย์จากการทดสอบ Chow ที่ไตรมาสแรกของปี 2001 สะท้อนถึงผลตอบแทนที่ไม่เกิดขึ้นจริงจากโครงการกีฬา เช่น มูลค่าที่ดินที่ไม่เพิ่มขึ้น รายได้การท่องเที่ยวที่ไม่ได้รับ และการคงอยู่ของชุมชนแออัดในใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีการเติบโตแบบกำเนิดภายใน (endogenous growth theory) ที่ชี้ว่า ความไม่ต่อเนื่องของสถาบันจะขัดขวางนวัตกรรมในเมือง และทำลายผลสะสมจากการลงทุนภาครัฐระยะยาว
งานวิจัยนี้จึงมีส่วนร่วมกับวรรณกรรมด้านนโยบายเมือง ด้วยการชี้วัด “ต้นทุนเชิงโอกาส” ที่เกิดจากความไม่มั่นคงทางการเมือง และแสดงให้เห็นว่าโครงการเมกะโปรเจกต์ในเมืองที่ไม่ได้รับการสานต่อ อาจสร้างช่องว่างระยะยาวต่อการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง พร้อมเสนอให้มีการรักษาความต่อเนื่องของโครงการข้ามรัฐบาล เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานจากความผันผวนทางการเมือง
คำสำคัญ: ต้นทุนโอกาสของเมือง; รถไฟฟ้า MRT กรุงเทพฯ; สุขวิชโนมิกส์; การย้ายชุมชนแออัด; การทดสอบจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง; Chow test; Cobb-Douglas; ความไม่ต่อเนื่องของโครงสร้างพื้นฐาน; กีฬาเอเชียนเกมส์ 1998; การป้องกันอาชญากรรมในเยาวชน; กีฬาและการเคลื่อนย้ายทางสังคม; การพยากรณ์เมืองแบบ ARIMA
สาขาวิชา: สุขวิชโนมิกส์, ธุรกิจ, เศรษฐศาสตร์ และการจัดการ — เศรษฐมิติและการพัฒนาเมือง