Hakuba (4 วัน 3 คืน ปลายเดือนเมษายน 2568)
ตอนแรกที่ไปเมือง Hakuba เพราะอยากไปเดิน trail happo one หาข้อมูลไปทุกอย่าง ค้าง 3 คืน กะรอวัดดวงวันฟ้าใสขึ้นเขา สรุปทริปดีทุกอย่างยกเว้นคือไม่ได้เดิน Happo one เพราะช่วงที่ไปหิมะยังไม่ละลาย ดีนะเอะใจก่อนขึ้นกระเช้าเลยถามเจ้าหน้าที่เพราะตรงทางขึ้นเห็นมีแต่คนเดินแบกสกีกันหมดเลย (ฮา) เขาบอกว่าตอนนี้เดินไม่ได้จ้า หิมะเต็มเลย ยกเว้นจ้างไกด์พิเศษ ก็เลยเที่ยวที่อื่นๆแทน อยากไปเขียวๆแต่เจอหิมะกับซากุระแทนก็ถือว่าโชคดีอยู่บ้าง
ทริปนี้บินไปลงสนามบินนาริตะ นั่งชิงกันเซ็งไปสถานี Nagano แล้วเช่ารถไปจาก Nagano ไปเมือง Hakuba ขากลับก็คืนรถที่ Nagano แล้วนั่งชิงกันเซ็งไปสนามบิน ระหว่างทางขาไปแวะ Togakoshi shrine เจอจังหวะหิมะกำลังละลาย พื้นแฉะ กับเริ่มมีใบไม้แล้วก็หญ้าเขียวๆ คนน้อยมาก เดินชิลๆ บรรยากาศดี ฟังเสียงน้ำไหลตลอดทาง สวยแบบที่ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่สวยเท่าตอนที่อยู่ตรงนั้น ตอนถ่ายรูปรู้สึกเขินๆคนญี่ปุ่นนิดนึง เขาดูจริงจังกับการเคารพศาลเจ้ามากอยู่ เรามีเวลาไม่เยอะเลยแวะศาลเจ้าที่เป็น highlight คือ Okusha ที่เดียวเลย จริงๆอยากลอง Ninja museum ด้วยแต่เวลาไม่พอ กลัวไปถึง Hakuba แล้วจะมืดเกินไป
ทางเป็นผ่านไป Hakuba เป็นหมู่บ้านชนบทในภูเขา
ถึง Hakuba ช่วงเย็นๆ เห็นภูเขาหิมะเต็มๆระหว่างทางเลย

สิ่งที่อยากจะบอกเกี่ยวกับเมือง Hakuba คือปกติถ้าจะมาดูภูเขาหิมะ เรื่องวิสัยทัศน์ดูจะเป็นอุปสรรคสำคัญ ซึ่งถ้าอยากเพิ่มโอกาสการมองเห็นก็เลือกเมืองที่มันอยู่ใกล้ชิดติดตีนเขาหิมะไปเลยค่ะ วิสัยทัศน์แย่ยังไงส่วนใหญ่ก็ยังเห็นจริงๆนะ ให้เห็นจนสะใจไปเลย (ฮา) ซึ่ง Hakuba เป็นเมืองนึงที่เข้าเกณฑ์นี้ ค่าที่พักแอบแพงกว่าเมืองอื่นเล็กน้อย แต่เราว่าค่อนข้างคุ้มเพราะเห็นภูเขาไปเลยทั้งวันแถมสำรวจเมืองดีๆจะเจอจุดชมวิวที่สวยมากๆซ่อนอยู่เต็มไปหมด อันนี้คือแต่ละจุดที่เราไปพบมาจากการขับรถผ่านเฉยๆกับสุ่มจิ้มมากจาก google map หลายอันสวยจนอึ้งเลย
1. Matsukawa Bridge
อันนี้ขับผ่าน เบรกจอดแทบไม่ทัน วิวภูเขากับแม่น้ำสวยอลังการมากๆ ข้างๆเป็นร้านขายเหล้า(ที่แอบหน้าตาเหมือนโบสถ์) กับมีถนนต้นซากุระสายนึงอยู่ข้างๆ ลังเหล้าสีสันสดใสเข้ากันได้ดีกับดอกซากุระเลย
2. Oide Park
เป็นสวนสาธารณะที่สวยมากกกกก เราได้ไอเดียไปดักดูแสงเช้ากระทบยอดเขาตอนเช้ามืด ไม่ผิดหวังเลย เห็นภาพแม่น้ำ ภูเขาหิมะกับซากุระอยู่ร่วมกันลงตัวจนเหมือนองค์ประกอบของภาพวาดมากกว่าของจริง สวนใหญ่จะเจอคุณตาคุณยายคนญี่ปุ่นแบบกล้องตัวใหญ่ๆไปจองจุดถ่ายรูปพอให้บรรยากาศคึกคักแต่ไม่แออัด คนหนุ่มสาวมีบ้างแต่จะมากันพร้อมกล้องโปรตัวใหญ่ โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ช่วงบ่ายกลับไปอีกรอบคนเยอะขึ้น ต่างชาติเริ่มเยอะ แต่ก็บรรยากาศดีอยู่ดี ช่วงบ่ายจะย้อนแสงหน่อยๆเพราะพระอาทิตย์ตกหลังเทือกเขา
3. Observatory desk: MVV9+3G Hakuba, จังหวัดนะงะโนะ ญี่ปุ่น
อันนี้จิ้มมาจาก google map ที่มีคนปักหมุดไว้ สวยมากๆเหมือนเมืองเทพนิยายเลย คิดว่าถ้าไปช่วงที่หน้าร้อนที่มีน้ำในทุ่งนาตอนเช้าน่าจะได้ภาพเงาภูเขาหิมะสะท้อนน้ำคงสวยมากกว่านี้อีก
4. Nodaira No Ippon (ขอตั้งชื่อเองว่าซากุระเดียวดาย)
อีกอันที่จิ้มมาจาก google map คือสวยแบบตะลึง เหมือนหลุดมาจากการ์ตูน พึ่งรู้ว่ามีที่แบบนี้ด้วย ตอนแรกมาเพราะเวลาเหลือเฉยๆแบบไม่ได้คาดหวังเท่าไหร่เพราะดูเป็นจุดชมวิวที่ไม่ค่อยมาใครพูดถึง สรุปโชคดีมากที่ฟ้าเปิดแล้วต้นซากุระบานพอดี วิวอลังการมากๆ แต่ต้องขับรถไกลออกมากจากตัวเมืองเล็กน้อย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น กับมีหมู่บ้านทำเกษตรเล็กๆอยู่ข้างๆ คาดว่าน่าจะถูกรบกวนจากนักท่องเที่ยวปีละครั้งเวลาซากุระเดียวดายต้นนี้บานนั้นแหละ แต่ถึงซากุระไม่บาน รู้สึกว่าวิวเทือกเขาหิมะมุมกว้างก็สวยมากอยู่ดีประกอบกับฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกไม้บานนานาชนิดบานแข่งกันอยู่แล้ว
5. สนาม soccer
อยู่ตรงที่จุดจอดรถของซากุระเดียวดาย รู้สึกว่าเก๋ดี ไม่รู้ว่าพอจะส่งเข้าประกวดสนาม soccer ที่สวยที่สุดในโลกได้บ้างไหม(ฮา)
6. Iwatage Gondola
ที่เที่ยวสุดแมส จนภาษาไทยได้รับเกียรติให้ถูกแปะร่วมกับภาษาอื่นๆบนป้ายประชาสัมพันธ์ เดินง่าย พาเด็กไปได้ ถึงจะแมสยังไงแต่ก็สวยจริงค่ะ
ร้าน Hakuba Moutain Harbor คือไม่ได้สวยอย่างเดียว แต่เครื่องดื่มและ bakery ก็อร่อยจริงด้วย ประทับใจ
ส่วนอันนี้วิธีซื้อตั๋ว yahoo swing ซึ่งหลายคนบ่นว่างงเหลือเกินสรุปมันซื้อตั๋วตรงไหนนะ
-ตรงทางเดินไป yahoo swing มันจะมีป้ายนี้เขียนอยู่
-ให้หันเดินย้อนไปข้างหลังตามที่ป้ายบอก จะมือเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติ กดซื้อตามรอบเวลาที่ว่างได้

เราลองไปเล่นดูก็รู้สึกว่าเหมือนชิงช้านี่แหละ แต่วิวสวยดี แต่ตอนเล่นก็เกร็งๆรู้สึกคนมองเยอะ แต่คนญี่ปุ่นก็เล่นกันนะ ขนาดผู้สูงอายุยังเล่นเลย น่ารักดี มีคุณลุงคนญี่ปุ่นคนนึงแกว่งสูงมากจนเสียวว่ามันจะตีลังกาได้มั๊ย คนก็เฮกัน หมดกันความมุ้งมิ้ง
7. ถนนซากุระหน้าโรงเรียน Hakuba Kita
กับขอแถมเมืองข้างเคียง เป็นวันที่ Hakuba อากาศไม่แจ่มใสเท่าไหร่ เลยจะลองไปสำรวจเมืองอื่น ตอนแรกลังเลระหว่าง Kamikochi กับ Asahi สุดท้ายเพราะเห็นว่าช่วงที่เราไป Kamikochi ยังไม่ค่อยเขียวแบบที่อยากเห็น เลยไป Asahi Funakawa Park ที่ Asahi แทน ซากุระก็หมดแล้วแต่ทิวลิปยังอยู่ ภูเขาหิมะเห็นร่างๆเพราะเมฆเยอะหละเมืองก็อยู่ไกล ทุ่งดอกไม้สวนน่ารักตะมุตะมิมาก จริงๆถ้าอากาศดีฟ้าใสๆก็คงสวยอลังการมากเหมือนกัน
ที่พักที่ Hakuba เราจองเป็น Airbnb 3 คืน แบบมีห้องครัว ประหยัดไปได้เยอะถ้าทำอาหารกินเอง แนะนำซุปเปอร์ A-COOP Hakuba ของเยอะมากๆ ปลาดิบถ้าซื้อแบบมาแล่เองราคาดีมากจริงๆ กับเนื้อวัวคือสุดยอด ฉ่ำมาก อร่อยทุกมื้อ มีกินร้านท้องที่บ้างพอให้ได้สัมผัสความน่ารักฟิลจิบลิ สรุปถือเป็นเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่น่ารัก สวยทุกมุม สวยโกงไปหมด คุ้มค่ากับการมาเยือน
เที่ยว 4 วัน 3 คืน ที่ Hakuba เมืองเล็กและรอบๆที่มีอะไรมากกว่าที่คิด
ตอนแรกที่ไปเมือง Hakuba เพราะอยากไปเดิน trail happo one หาข้อมูลไปทุกอย่าง ค้าง 3 คืน กะรอวัดดวงวันฟ้าใสขึ้นเขา สรุปทริปดีทุกอย่างยกเว้นคือไม่ได้เดิน Happo one เพราะช่วงที่ไปหิมะยังไม่ละลาย ดีนะเอะใจก่อนขึ้นกระเช้าเลยถามเจ้าหน้าที่เพราะตรงทางขึ้นเห็นมีแต่คนเดินแบกสกีกันหมดเลย (ฮา) เขาบอกว่าตอนนี้เดินไม่ได้จ้า หิมะเต็มเลย ยกเว้นจ้างไกด์พิเศษ ก็เลยเที่ยวที่อื่นๆแทน อยากไปเขียวๆแต่เจอหิมะกับซากุระแทนก็ถือว่าโชคดีอยู่บ้าง
ทริปนี้บินไปลงสนามบินนาริตะ นั่งชิงกันเซ็งไปสถานี Nagano แล้วเช่ารถไปจาก Nagano ไปเมือง Hakuba ขากลับก็คืนรถที่ Nagano แล้วนั่งชิงกันเซ็งไปสนามบิน ระหว่างทางขาไปแวะ Togakoshi shrine เจอจังหวะหิมะกำลังละลาย พื้นแฉะ กับเริ่มมีใบไม้แล้วก็หญ้าเขียวๆ คนน้อยมาก เดินชิลๆ บรรยากาศดี ฟังเสียงน้ำไหลตลอดทาง สวยแบบที่ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่สวยเท่าตอนที่อยู่ตรงนั้น ตอนถ่ายรูปรู้สึกเขินๆคนญี่ปุ่นนิดนึง เขาดูจริงจังกับการเคารพศาลเจ้ามากอยู่ เรามีเวลาไม่เยอะเลยแวะศาลเจ้าที่เป็น highlight คือ Okusha ที่เดียวเลย จริงๆอยากลอง Ninja museum ด้วยแต่เวลาไม่พอ กลัวไปถึง Hakuba แล้วจะมืดเกินไป
1. Matsukawa Bridge
อันนี้ขับผ่าน เบรกจอดแทบไม่ทัน วิวภูเขากับแม่น้ำสวยอลังการมากๆ ข้างๆเป็นร้านขายเหล้า(ที่แอบหน้าตาเหมือนโบสถ์) กับมีถนนต้นซากุระสายนึงอยู่ข้างๆ ลังเหล้าสีสันสดใสเข้ากันได้ดีกับดอกซากุระเลย
2. Oide Park
เป็นสวนสาธารณะที่สวยมากกกกก เราได้ไอเดียไปดักดูแสงเช้ากระทบยอดเขาตอนเช้ามืด ไม่ผิดหวังเลย เห็นภาพแม่น้ำ ภูเขาหิมะกับซากุระอยู่ร่วมกันลงตัวจนเหมือนองค์ประกอบของภาพวาดมากกว่าของจริง สวนใหญ่จะเจอคุณตาคุณยายคนญี่ปุ่นแบบกล้องตัวใหญ่ๆไปจองจุดถ่ายรูปพอให้บรรยากาศคึกคักแต่ไม่แออัด คนหนุ่มสาวมีบ้างแต่จะมากันพร้อมกล้องโปรตัวใหญ่ โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ช่วงบ่ายกลับไปอีกรอบคนเยอะขึ้น ต่างชาติเริ่มเยอะ แต่ก็บรรยากาศดีอยู่ดี ช่วงบ่ายจะย้อนแสงหน่อยๆเพราะพระอาทิตย์ตกหลังเทือกเขา
3. Observatory desk: MVV9+3G Hakuba, จังหวัดนะงะโนะ ญี่ปุ่น
อันนี้จิ้มมาจาก google map ที่มีคนปักหมุดไว้ สวยมากๆเหมือนเมืองเทพนิยายเลย คิดว่าถ้าไปช่วงที่หน้าร้อนที่มีน้ำในทุ่งนาตอนเช้าน่าจะได้ภาพเงาภูเขาหิมะสะท้อนน้ำคงสวยมากกว่านี้อีก
4. Nodaira No Ippon (ขอตั้งชื่อเองว่าซากุระเดียวดาย)
อีกอันที่จิ้มมาจาก google map คือสวยแบบตะลึง เหมือนหลุดมาจากการ์ตูน พึ่งรู้ว่ามีที่แบบนี้ด้วย ตอนแรกมาเพราะเวลาเหลือเฉยๆแบบไม่ได้คาดหวังเท่าไหร่เพราะดูเป็นจุดชมวิวที่ไม่ค่อยมาใครพูดถึง สรุปโชคดีมากที่ฟ้าเปิดแล้วต้นซากุระบานพอดี วิวอลังการมากๆ แต่ต้องขับรถไกลออกมากจากตัวเมืองเล็กน้อย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น กับมีหมู่บ้านทำเกษตรเล็กๆอยู่ข้างๆ คาดว่าน่าจะถูกรบกวนจากนักท่องเที่ยวปีละครั้งเวลาซากุระเดียวดายต้นนี้บานนั้นแหละ แต่ถึงซากุระไม่บาน รู้สึกว่าวิวเทือกเขาหิมะมุมกว้างก็สวยมากอยู่ดีประกอบกับฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกไม้บานนานาชนิดบานแข่งกันอยู่แล้ว
5. สนาม soccer
อยู่ตรงที่จุดจอดรถของซากุระเดียวดาย รู้สึกว่าเก๋ดี ไม่รู้ว่าพอจะส่งเข้าประกวดสนาม soccer ที่สวยที่สุดในโลกได้บ้างไหม(ฮา)
6. Iwatage Gondola
ที่เที่ยวสุดแมส จนภาษาไทยได้รับเกียรติให้ถูกแปะร่วมกับภาษาอื่นๆบนป้ายประชาสัมพันธ์ เดินง่าย พาเด็กไปได้ ถึงจะแมสยังไงแต่ก็สวยจริงค่ะ
ร้าน Hakuba Moutain Harbor คือไม่ได้สวยอย่างเดียว แต่เครื่องดื่มและ bakery ก็อร่อยจริงด้วย ประทับใจ
-ตรงทางเดินไป yahoo swing มันจะมีป้ายนี้เขียนอยู่
เราลองไปเล่นดูก็รู้สึกว่าเหมือนชิงช้านี่แหละ แต่วิวสวยดี แต่ตอนเล่นก็เกร็งๆรู้สึกคนมองเยอะ แต่คนญี่ปุ่นก็เล่นกันนะ ขนาดผู้สูงอายุยังเล่นเลย น่ารักดี มีคุณลุงคนญี่ปุ่นคนนึงแกว่งสูงมากจนเสียวว่ามันจะตีลังกาได้มั๊ย คนก็เฮกัน หมดกันความมุ้งมิ้ง
7. ถนนซากุระหน้าโรงเรียน Hakuba Kita
กับขอแถมเมืองข้างเคียง เป็นวันที่ Hakuba อากาศไม่แจ่มใสเท่าไหร่ เลยจะลองไปสำรวจเมืองอื่น ตอนแรกลังเลระหว่าง Kamikochi กับ Asahi สุดท้ายเพราะเห็นว่าช่วงที่เราไป Kamikochi ยังไม่ค่อยเขียวแบบที่อยากเห็น เลยไป Asahi Funakawa Park ที่ Asahi แทน ซากุระก็หมดแล้วแต่ทิวลิปยังอยู่ ภูเขาหิมะเห็นร่างๆเพราะเมฆเยอะหละเมืองก็อยู่ไกล ทุ่งดอกไม้สวนน่ารักตะมุตะมิมาก จริงๆถ้าอากาศดีฟ้าใสๆก็คงสวยอลังการมากเหมือนกัน
ที่พักที่ Hakuba เราจองเป็น Airbnb 3 คืน แบบมีห้องครัว ประหยัดไปได้เยอะถ้าทำอาหารกินเอง แนะนำซุปเปอร์ A-COOP Hakuba ของเยอะมากๆ ปลาดิบถ้าซื้อแบบมาแล่เองราคาดีมากจริงๆ กับเนื้อวัวคือสุดยอด ฉ่ำมาก อร่อยทุกมื้อ มีกินร้านท้องที่บ้างพอให้ได้สัมผัสความน่ารักฟิลจิบลิ สรุปถือเป็นเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่น่ารัก สวยทุกมุม สวยโกงไปหมด คุ้มค่ากับการมาเยือน