== Love Reset (2023) ...จำเธอให้ได้ใน 30 วัน!!! ==



ดองยอลกับนารา เป็นคู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าทั้งสองจะหย่าร้างกันให้ได้
แม้ว่าจะเพิ่งผ่านการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ไม่นานนักก็ตาม
แต่ปัญหาหยุมหยิมต่างๆ ทั้งการใช้ชีวิต ทัศนคติ พื้นฐานครอบครัวทั้งสองฝ่าย
หลากหลายประเด็นทำให้ความสัมพันธ์มาถึงสุดทาง ดังนั้นหย่ากันซะดีที่สุดจะได้จบๆกันไป ต่างคนต่างไปมีชีวิตใหม่ของตน



แต่ที่เกาหลีใต้ไม่ใช่เมืองไทย จะจูงมือกันไปหย่าที่อำเภอเฉยๆไม่ได้
เพราะตามกฎหมายแพ่งเกาหลี การเลิกร้างต่อกัน ต้องยื่นคำร้องที่ศาลเท่านั้น แม้ทั้งสองฝ่ายจะสมัครใจที่จะหย่าก็ตามที..
ซึ่งศาลจะพิจารณาเรื่องทั้งคู่ในอีก 30 วัน การหย่าก็จะเรียบร้อย และช่วงที่ทั้งสองออกจากมาศาลนั่นเอง
ปรากฎว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นมา.. ดองยอลและนารา รอดตาย แต่ทั้งสองดันความจำเสื่อม!!!



Love Reset (30일แปลว่า 30 วัน) ภาพยนตร์ตลกโรแมนติกของเกาหลีใต้ กำกับโดยนัมแดจอง
นำแสดงโดยคังฮานึลและจองโซมิน  เรื่องของคู่รักที่สูญเสียความทรงจำเนื่องจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด 30 วัน
ก่อนชีวิตคู่ของพวกเขาจะสิ้นสุดลง ภาพยนตร์เกาหลีที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 6 ของปี 2023
แต่ถ้าวัดเฉพาะในสาย Romantic comedy เรื่องนี้ถือเป็นอันดับ 1 ของปีนั้นเลยนะครับ



หนังรักน่ารักที่มาสำรวจความสัมพันธ์ของคู่รักทุกคู่ที่กำลังอยู่ในสภาวะง่อนแง่นเจียนไปเจียนอยู่ในสังคมปัจจุบัน
ที่ต่างคนต่างเก่งกันซะเหลือเกิน ฉันไม่จำเป็นต้องทนอยู่กับใครสักคนที่ทำให้ฉันต้องปวดหัวจนแทบจะบ้าตาย
ชนิดที่เรียกได้ว่าไม่อยากจะใช้อากาศหายใจร่วมกันอีกล่ะ ต่างคนต่างไปดีที่สุด สรุปจบด้วยการหย่าร้าง ทางใครทางมัน



สังคมปัจจุบันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ ปัญหาการหย่าร้างบ้านเราก็สูงมาก สุดท้ายผลก็ตกมาอยู่ที่ลูกๆ ต้องขาดพ่อแม่
นั่นก็เป็นประเด็นทางสังคมอ่ะนะ ส่วนในหนังเรื่องนี้ดีอย่างที่ตัวเองทั้งสองเพิ่งแต่งงานยังไม่มีลูก
จะว่าไปแล้วมันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าข้าวใหม่ปลามันด้วยซ้ำ
แต่แล้วความอดทนก็กลับขาดผึง อันเนื่องมาจากทั้งสองฝ่ายทนรับพฤติกรรมที่แต่ละคนเป็นไม่ได้นั่นเอง



แน่นอนครับ ..เวลาเราชอบใครสักคน เราก็อยากทำให้เขาประทับใจ รู้สึกดีในตัวเรา First impression สำคัญมาก
เพราะมันจะทำให้อีกฝ่ายจดจำเราไปได้ตลอด เมื่อเราชอบกันแล้ว Step ต่อไปเมื่อเข้าสู่โหมดจริงจัง ก็คือการใช้ชีวิตร่วมกัน
และนั่นล่ะมันคือโลกความเป็นจริง การอยู่ด้วยกันมันจะทำให้เราได้รู้เช่นเห็นชาติกันและกันในด้านที่อีกฝ่ายไม่เคยรับรู้มาก่อน
ทั้งหมด รู้ไส้รู้พุง อ้าปากก็เห็นขี้ฟัน เอ๊ย ลิ้นไก่กันเลยทีเดียว..



ดองยอลและนารา ก็เป็นตัวแทนของคู่รักปัจจุบันที่กำลังติดหล่มนั้นอยู่ จากยามแรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน
ค่อยเจอการกัดกร่อนทั้งคำพูดบางคำที่ออกจากปากแบบไม่คิดดูให้ดีก่อน การกระทำเล็กๆน้อยๆที่ดูขัดใจ
และค่อยสั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆทีละนิด สุดท้ายเมื่อไม่ได้ปรับความเข้าใจ
ทุกอย่างก็ระเบิดบู้มมมม ความรักของทั้งสองก็กลายเป็นโกโก้ครั้นช์...



แต่อย่างที่บอกไว้ตอนต้นครับว่าการหย่าร้างในเกาหลีใต้เนี่ย เขาไม่ได้จัดการง่ายแบบไทยเรา
ซึ่งหากทั้งสองโอเคยินยอมพากันไปหย่าได้เลยที่อำเภอ แต่ที่เกาหลีเขาต้องไปที่ศาลครับ
เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากศาลครอบครัวซะก่อนจึงจะถูกต้องตามขั้นตอนและมีผลบังคับใช้ตามกฏหมายได้
อีกนัยยะนึงก็หมายความว่าเขาต้องการให้ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาให้รอบคอบอีกครั้งที่จะยุติชีวิตคู่จริงๆ หรือไม่นั่นเอง



และหนังก็มามีจุดเปลี่ยนตรงเรื่องความทรงจำเสื่อมนี่ล่ะ ซึ่งมันไม่ได้แฟนตาซีอะไรเลยนะครับ
แถมมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงเลยล่ะ ลองคิดดูถ้าคนที่เคยเกลียดกันถึงปานนั้น กลับความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้เลย
ทั้งสองจะเป็นอย่างไรต่อไป ในเมื่อทุกอย่างมันว่างเปล่าขาวโพลนไปหมดแล้ว..
เราก็ควรสร้างความทรงจำใหม่ที่ดีต่อกันได้แล้วสิ จริงมั้ย นี่ล่ะ โอกาสที่ 2



Love Reset สาดความรั่วผ่านเรื่องราวรอยร้าวในชีวิตรักได้ออกมาน่าดูมาก ตลก ฮากระจาย
ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวพระนางเท่านั้น รอบๆตัวของทั้งคู่ก็เพี้ยนไม่แพ้ ครอบครัวทั้งสองฝ่าย เพื่อนๆอีก เป็นความสนุกที่มีสาระ
ทำให้เรามองย้อนดูถึงความสัมพันธ์ของตัวเราว่าที่ผ่านมา เรามองคนข้างๆเราเช่นไร
เราเคยรักเขามากแค่ไหน จดจำวันคืนเหล่านั้นให้ดี และคิดว่าเราได้ปรับตัว ได้ทำความเข้าใจกับอีกฝ่ายมากแค่ไหน
ก่อนที่จะโทษแต่ตัวเขา เราได้ดูตัวเองดีแล้วหรือยัง



ส่วน จองโซมิน  นางเอกเรื่องนี้ในบทของนาราผมว่าคาแรคเตอร์มีความคล้ายคลึงกับช็อน จี ฮย็อน
นางเอกดังจากเรื่อง My Sassy Girl หรือ ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม หนังดังกระหึ่มในบ้านเราเมื่อปี 2001
ด้วยนิสัยที่ไม่สนใจสังคม เหมือนผู้ชายในบางครั้ง ตรงกันข้ามกับพระเอกซึ่งจะออกแนวเงียบๆ นิ่งๆ ติ๋ม ไม่ค่อยทัน
มักจะเป็นลูกไล่มากกว่า แถมโปสเตอร์ออกมายังดูแล้วคล้ายๆกันอีก



ทิ้งท้ายอีกนิดนะครับ ในทุกความสัมพันธ์มันมีทั้งดีและแย่ปนกันไปนั่นล่ะ หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า  bittersweet
ถ้าบ้านเราก็หวานอมขมกลืน แต่ก็นั่นล่ะรสชาติของความรัก สำคัญแค่ของเรามีความทรงจำที่ดีต่อกันให้มันมากกว่าความทรงจำแย่ๆ
รักษาประคับประคองดูแลใจกันไว้นะครับ คู่รักทุกคู่ควรดูหนังเรื่องนี้ ถ้าไม่มีคู่.... ก็ดูคนเดียวต่อไป 555


เพราะหนังมันฝังใจ


=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่