บทความจากผู้ใหญ่ใจดี ตอนที่ 1 ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก​

จขกท. มักจะชอบฟังวิทยุ ตอนเช้าๆ ถ้ามีโอกาสจะชอบฟัง มีรายการนึง ช่วงท้ายๆ จะมีผู้ใหญ่ มาเล่าเรื่อง ดีดีให้ฟัง  ผมเลยอยากนำมาแชร์ ในพันทิป
คนอ่านคงจะไม่ค่อยมี  กท.สาระ ไม่ได้เหมือนกท.เรียกแขกอยู่แล้ว 555  แต่ตั้งใจว่าจะทำเก็บไว้ใช้ประโยชน์ ครับ

ผมพยายามติดต่อ ทาง คลื่น และ ช่อง 9 เพื่อขอนำเรื่องเล่า มาทำเป็นบทความ ลงในพันทิป  ติดต่อยากมากจริงๆ  จนวันนี้ได้ตอบรับมาแล้ว ขอเรียนทีมงาน แอดมิน พันทิป  จขกท.ตั้งกท. ไม่ได้มีเจตนา ในการ โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ขายสินค้า นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตอนที่1  
ททมาโน ปิโย โหติ   ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก​


ในสมัยราชวงศ์ซ่ง​ ฮ่องเต้ไท่จง​ใช้ชีวิตอย่างประหยัด​และพอเพียง
ครั้งนึง หลังจากเสร็จงานว่าราชการแผ่นดิน​ ระหว่างเดินทางกลับผ่านอุทยาน​เห็นขันทีผู้หนึ่ง ถูกว่ากล่าวตบตี​ลงโทษ ก็หยุดสอบถามว่า

เกิดอะไรขึ้น.....
​หน.ขันมี ก็กราบทูลว่า...
​เจ้าขันทีผู้นี้ ได้รดน้ำต้นไม้​ดอกซึ่งเป็นของบรรณาการจาก ตปท.​ตาย​

ฮ่องเต้​ ตรัสว่า ให้ปล่อยเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดเค้า​เพราะเค้าไม่คุ้นเคยกับดอกไม้ต่างแดนนี้  ​เค้าไม่ตั้งใจ​ เพราะข้ารู้มาว่าดอกไม้เติบโตในทางแดนใต้​สภาพแวดล้อมมันไม่เหมือนกัน​ มันโตไม่ได้อย่างใจหรอก​อย่าไปตี​ ตึก็ตายเปล่า​ แล้วตรัสต่อว่า  ต่อไปนี้เราขอตั้งกฎว่า​ห้ามทุบตีผู้คนพราะเรื่องแบบนี้อีก​

ขันทีผู้น้อยได้ฟังแล้วเกิดความซาบซึ้ง​จนกล่าวสรรเสริญให้ฮ่องเต้อาุยยืนหมื่นๆปี


*อีกเหตุการณ์นึง
เกิดในช่วงเดือน7 ​เป็นช่วงที่อากาศร้อน​มาก  ฮ่องเต้เสด็จออกจากห้องบนรรทมก็รู้สึกคอแห้ง​แล้วอยากดื่มน้ำบ๊วยเย็นๆ แต่พออ้าปากจะเอ่ยกลับนิ่ง
และพยักหน้าให้ตัวเองและเงียบไป​  จากนั้นสักพักขันทีก็ถามว่าเมื่อสักครู่นึ้พระองค์ต้องการรับสั่งสิ่งใด​ ข้าน้อยเห็นว่าจะเอ่ยพระโอษฐ์ แต่กลับนิ่งเงียบ​ท่านต้องการสิ่งใดทรงบอกข้าน้อยได้ไหมพระเจ้าค่ะ​

ฮ่องเต้ไท่จงจึงตรัสว่า ข้าอยากกินน้ำบ้วยเย็นๆแต่นึกไปนึกมาในวังเราไม่มีของสิ่งนี้​ก็เลยไม่เอ่ยปากเพราะถ้าบอกไป วันนี้ไม่มี แต่วันหน้าพวกเจ้าก็จะตระเตรียมหาไว้เพื่อข้า​ ถ้าข้าเรียกหาทุกๆวันพวกเจ้าก็ต้องหาเตรียมไว้  แต่ข้าไม่อยากดื่มทุกวัน​ดังนั้นมันก็เป็นการฟุ่มเฟือยสิ้นเปลือง​ ข้าเลยหยุดไว้​ ข้าเป็นพระเจ้าแผ่นดินต้องไตร่ตรอง​ภาระประชาชนต่างหาก จะมาตามใจปากตนเองได้ยังไง
 

*อึกไม่นานต่อมาฤดูหนาวก็มาถึง​
พายุหิมะ​หนาวเย็นจับใจ​ขนาดฮ่องเต้ ฉลองพระองค์ด้วยหนังสุนัขจิ้งจอก​ยามเสด็จกลางแจ้งยังรู้สึกถึงความหนาวเย็น​ ถึงกับนับสั่งให้ก่อไฟ​ยังไม่พอต้องดื่มสุราเพื่อขับไล่ความหนาวถึงจะเอาอยู่

ยามต่อมาเมื่อรู้สึกความหนาวบรรเทาลงฮ่องเต้ ได้ทรงมองไปยังนอกกำแพงวัง​และทรงคิดว่าหิมะตกหนักเช่นนี้นี่ราษฎรของเรานี่สู้กับความหนาวเหน็บ ใครไม่พร้อมก็เหนื่อยลำบากนะ​ คงต้องมีหนาวตาย​ผู้คนที่ขาดแคลนถ่านไม้ย่อมลำบากกว่าข้าหลายเท่านัก

คิดได้ดังนั้นเลยรับสั่งให้ขุนนางเข้าเฝ้า​ และมีพระบรมราชโองการ นำถ่านไม้และข้าวสารไปแจกจ่ายให้ชาวเมืองที่ประสบความยากลำบาก​ เมื่อได้รับความช่วยเหลือ คนที่ตกอยู่ในความยากลำบากต่างก็ซาบซึ้งในความเมตตา​พากันแซ่ซ้องสรรเสริญฮ่องเต้ไท่จง​กันทั่วทั้งแผ่นดิน​ จนมีคำ คำนึงเกิดขึ้นในครั้งนี้​ คือ​
*มอบถ่านไม้กลางหิมะ​*
คือการบรรเทาทุก์ให้ราษฏรที่เดือดร้อนและยากจน​  จนถูกนำมาเปนียบเปรยในเวลาต่อมา​ เมื่อไรที่มีการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ด้านสิ่งของหรือจิตใจกับผู้ที่อยู่ในความยากลำบากก็จะใช้คำนี้​  *มอบถ่านไม้กลางหิมะ*​  จนเป็นตำนาน​ ของการให้​


การให้นั้นสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ​ ความสุขของผู้รับคือยินดี​ในขณะที่ผู้ให้ก็สุขใจที่ได้ช่วยเหลือและแบ่งเบาความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ ​เพราะฉะนั้นการให้ที่ปราศจาคเงื่อนไข​ คือการให้ที่ทำให้​ทั้งคนให้และคนรับต่างมีความสุข​ คนให้มีแต่ความปิติ​

ดังพระพุทธเจ้าท่านว่าไว้​  ททมาโน ปิโย โหติ  ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก​ ครับ​
พาพันขอบคุณ
Cr. บิ๊กแป๊ะ ถิรชัย วุฒิธรรม  รายการ Morning Talk FM.99
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่