JJNY : ชาวโคราชชี้รถไฟฟ้า 20 บาทไม่ยุติธรรม│โอดมะนาวราคาตก ลอตเตอรี่เหลือเต็มแผง│ลำปางอ่วม!│ปูตินไม่หวั่นคำขู่ทรัมป์

.

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา เกี่ยวกับประเด็น ที่ทางรัฐบาลเตรียมที่จะประกาศนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อลดภาระคนกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยครอบคลุมระบบรถไฟฟ้าทั้งหมด 8 สาย ในพื้นที่กรุงเทพฯและเขตปริมณฑลซึ่งจะเริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ตุลาคม นี้

.

ซึ่งจากการสอบถามประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและอยากให้ทางรัฐบาลนั้น มีการสร้างรถไฟฟ้าที่จังหวัดนครราชสีมาบ้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เนื่องจากตอนนี้จังหวัดนครราชสีมานั้นมีปัญหาการจราจรไม่แพ้กรุงเทพฯ รถขนส่งสาธารณะที่มีอยู่ก็จะมีรถบัส รถ 2 แถว แท็กซี่ รวมไปถึงรถรับจ้างสาธารณะอื่นๆ นอกจากนี้ประชาชนบางคนยังมองว่านโดยบายดังกล่าวนั้นไม่ยุติธรรมกับประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวของทางรัฐบาล

.

โดยนางสาวชิดชนก อินเคน นักศึกษา บอกว่า ตนเดินทางไปกลับระหว่างบ้านและมหาวิทยาลัยทุกวันรวมระยะทางกว่า 80 กิโล โดยขึ้นรถจากอำเภอโชคชัยมาลงที่อำเภอเมืองก่อนที่จะนั่ง 2 แถวต่อไปยังมหาวิทยาลัย ค่ารถไปกลับประมาณ 54 บาท ซึ่งถ้าโคราชมีรถไฟฟ้าก็จะเพิ่มเรื่องความสะดวกในการเดินทางให้กับตนเป็นอย่างมากเนื่องจากรถ 2 แถวที่วิ่งไปมหาวิทยาลัยนั้นคนเยอะแต่เที่ยวรถมีน้อยทำให้เกิดปัญหารถ 2 แถว ที่โดยสารนั้นแน่นจนเกินไป

.

ขณะเดียวกัน นางสาวจิราภา กริ่งดอนนอก ชาวโคราชรายหนึ่งบอกว่า ถ้าโคราชมีรถไฟฟ้าก็จะทำให้การเดินทางมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่ต้องเดินทางไปเรียนทุกวัน และยังจะช่วยรถปัญหา การจราจรในพื้นที่เขตเมืองได้ด้วยเนื่องจากปัจจุบันนี้ในพื้นที่เขตเมืองนครราชสีมาประสบปัญหาการจราจรโดยเฉพาะช่วงเช้าก่อนเข้าเรียนและช่วงหลังเลิกเรียนรถจะติดเป็นพิเศษไม่แพ้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ

.

แต่ก็อาจจะส่งกระทบต่อรถสารณะในโคราชทำให้ขาดรายได้ อย่างไรก็ตามจากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้นตนมองว่าไม่ยุติธรรมกับคนต่างจังหวัดทั้งๆที่คนต่างจังหวัดก็เลือกรัฐบาลนี้เข้าไปเช่นกันแต่กับไม่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าวเลย

.

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายสินค้าและอาหารท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อ อีกทั้งราคาผักบางชนิด โดยเฉพาะมะนาว ก็ราคาตกต่ำลงอย่างมากในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ที่มีผลผลิตมะนาวออกมาจำนวนมาก ทำให้บางพื้นที่ราคาขายมะนาวลดลงเหลือเพียงลูกละ 1 บาทเท่านั้น

.

อย่างเช่นที่ ตลาดพิมายเมืองใหม่ หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นางมะลิ จันทร์ดา อายุ 76 ปี แม่ค้าขายมะนาวรายหนึ่ง กล่าวว่า ราคามะนาวในช่วงตกต่ำลงมาก ซึ่งตนจะขาย 100 ลูก ในราคา 60 บาทเท่านั้น เฉลี่ยลูกละไม่ถึง 1 บาทด้วยซ้ำ เพราะผลผลิตออกมาเยอะมาก เมื่อก่อนยังขายได้ราคาดีกว่านี้ 100 ลูก จะขายอยู่ที่ 70-80 บาท อยากให้รัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคาด้วย ตอนนี้ราคาตกต่ำมาก เพราะหน้าฝนปีนี้มะนาวออกลูกเยอะ ผลผลิตล้นตลาด อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลช่วยเหลือ ทำเศรษฐกิจให้ดีขึ้นโดยเร็ว

.

ด้านนางณัฐชยา พงศ์เศรษฐวุฒิ อายุ 58 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ใน อ.พิมาย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหวยออก แต่ลอตเตอรี่ยังเหลืออยู่เต็มแผง ขายไม่ออก เดินไปไหนก็เจอแต่คนขายด้วยกัน รัฐบาลบอกให้ขายใบละ 80 บาท ตนรับมาก็ใบละ 90 บาทแล้ว จะให้ทำยังไง อยากถามรัฐบาลว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งงวดนี้เหลือเยอะ ตนทำใจยอมรับการขาดทุนไว้แล้ว เพราะไม่มีคนซื้อ

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ฝนที่ตกหนักมากกว่า 100 มิลลิเมตรในทุกพื้นที่ ตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของอำเภองาว จ.ลำปาง สถานการณ์หนักๆ เกิดขึ้นในทั้งในพื้นที่ ตำบลบ้านร้อง ตำบลหลวงเหนือ และตำบลบ้านแหง ตำบลปงเตา บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบไปแล้วกว่า 600 หลังคาเรือน กว่า 30 หมู่บ้าน กระจายใน 5 ตำบล

.

โดยเฉพาะที่ ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง พื้นที่ ม.3 สบป้อน และ ม.10 บ้านร้องพัฒนา, ม.4 บ้านข่อย และที่ บ้านวังควาย ม.6 ต.หลวงใต้ น้ำท่วมหนักมาก กระแสน้ำไหลเชี่ยว ท่วมบ้านเรือนราษฎรสูงกว่า 1 เมตร ไปจนถึงกว่า 2 เมตร มีสัตว์เลี้ยงไหลไปกับกระแสน้ำเป็นจำนวนมาก รถจักรยานยนต์ รถยนต์ จมอยู่ในน้ำ

.

ผู้คนติดตามบ้านเรือน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก เกิดความกลัวต่อสถานการณ์น้ำเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งน้ำป่าหลากลงมา และแม่น้ำงาว ท่วมบ้านเรือนชั้นเดียวอย่างหนัก มีการร้องขอให้ทางเจ้าที่เข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ตั้งแต่เกิดภัย เวลา 04.00 น. แต่การช่วยเหลือก็ยากลำบาก เนื่องจากเข้าไม่ถึงและเจ้าหน้าที่ก็มีไม่เพียงพอโดยเฉพาะเรือท้องแบน

.

ในขณะที่ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 19 (แม่โป่ง) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.20 (แม่หวด) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภองาว กองร้อย อส.อ.งาว ผู้ใหญ่บ้านบ้านสบป๋อน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้รีบ ให้การช่วยเหลือ ราษฎรบ้านสบป๋อน หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านร้อง อำเภองาว จังหวัดลำปาง และราษฎรบ้านวังควาย หมู่ที่ 6 ตำบลหลวงใต้ อำเภองาว เนื่องจากแม่น้ำงาว ท่วมขึ้นสูงกว่า 2 เมตร เพราะบ้านตั้งอยู่ริมน้ำ

.

ในขณะที่ มีกำลังสนับสนุน ประกอบด้วย สมาคมกู้ภัยอำเภองาว กู้ภัยตำรวจทางหลวงงาว เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสว่างนครลำปาง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปาง กระจายกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัย ในแต่ละพื้นที่ มีการใช้เรือท้องแบน เข้าไปสำรวจและได้รับ ชาวบ้านออกมา บางจุดที่ไม่รอก็เรือท้องแบน ก็ได้ขึงเชือกเข้าไปช่วยเหลือ พาชาวบ้านจับเชือกและเดินลุยน้ำออกมา

.

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังช่วยกันยกสิ่งของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้าตามครัวเรือน และมีการช่วยกันนำรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่จมน้ำออกมาจากบ้านที่ประสบภัย เพราะเกรงว่าสถานการณ์จะหนักขึ้น ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกหนักลงมาและมีน้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วยสาขาอยู่อย่างต่อเนื่อง นับเป็นภัยธรรมชาติที่หนักกว่าปีก่อน บางหมู่บ้านไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 20 ปี