สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics): แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ (รถไฟฟ้าใต้ดินMRTเชียงใหม่ พ.ศ. 2536)
บทคัดย่อ
บทความนี้นำเสนอ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ “สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics)” ปรัชญาของฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนที่ 5 ปี 2536-2537 ประธานองค์การรถไฟฟ้ามหานคร คนที่ 3 ปี 2537 รองนายกรัฐมนตรี ปี 2537โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างความเสมอภาคทางโอกาสผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบรางและขนส่งมวลชนในภูมิภาคนอกเหนือจาก กรุงเทพมหานคร
แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ ปี 2536 รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินเชียงใหม่ ถือเป็นนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่ใช้ รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ก่อนโครงการ MRT กรุงเทพมหานคร ปี2537
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์: สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) มีเป้าหมายระยะยาวเพื่อกระจายโอกาสด้านการศึกษา สาธารณสุข เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และคุณภาพชีวิตให้ทั่วถึงทั้งประเทศ อย่างเท่าเทียม
ความต่อเนื่องถูกตัดตอนจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในปี พ.ศ. 2544 ประเทศไทยเปลี่ยนแนวทางพัฒนาประเทศไปสู่ประชานิยมระยะสั้น แผนยุทธศาสตร์หลายโครงการจึงไม่ถูกสานต่อ ส่งผลให้ภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะเมืองรอง เช่น เชียงใหม่ สูญเสียโอกาสในการพัฒนาเชิงโครงสร้าง และตกขบวนการแข่งขันระดับภูมิภาค เช่น เทียบกับกรณีเมืองเซินเจิ้นของจีน
บทความนี้เสนอให้มีการ รื้อฟื้นแผนระบบราง 8 เมือง, ส่งเสริมการลงทุนแบบ PPP อย่างยั่งยืน, และใช้โครงสร้างพื้นฐานเป็นเครื่องมือในการสร้างศักดิ์ศรีและอนาคตให้กับประชาชนในภูมิภาคอย่างแท้จริง
1. บทนำ: ปัญหาเชิงโครงสร้างก่อนปี 2538
ก่อนการอภิวัฒน์การศึกษาใน พ.ศ. 2538 ประเทศไทยประสบปัญหาโครงสร้างแรงงานอย่างหนัก โดยแรงงานถึง 79.1% มีการศึกษาเพียงระดับประถมหรือต่ำกว่า ส่งผลให้ประชากรในชนบทอพยพเข้าสู่เมืองใหญ่เพื่อหาโอกาสการจ้างงานและการศึกษาที่ดีขึ้น สิ่งนี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อ โครงสร้างครอบครัว, ชุมชนท้องถิ่น, และความสามารถในการพัฒนาภูมิภาคอย่างยั่งยืน
2. ปรัชญาเศรษฐศาสตร์: สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics)
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในฐานะผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนที่ 5 ปี 2536-2537
ประธานองค์การรถไฟฟ้ามหานคร คนที่ 3 ปี 2537 และรองนายกรัฐมนตรี ปี 2537
ได้เสนอปรัชญา สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) เน้นการกระจายโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ โดยใช้ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบรางและขนส่งมวลชน เป็นพันธกิจหนึ่งเพื่อ เชื่อมเศรษฐกิจภูมิภาคกับเมืองหลวง
3. แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่
ภายใต้ Sukavichinomics มีการจัดทำ แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนใน 8 เมืองหลัก ได้แก่:
เชียงใหม่
พิษณุโลก
ขอนแก่น
นครราชสีมา
สงขลา (หาดใหญ่)
ภูเก็ต
ชลบุรี
ฉะเชิงเทรา
วัตถุประสงค์คือ การกระจายศูนย์กลางการพัฒนา ออกจากกรุงเทพมหานคร ด้วยการลงทุนในระบบราง เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่น และลดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสู่เมืองหลวง
4. เชียงใหม่: เมืองนำร่องแห่งอนาคต
เชียงใหม่ได้รับการเลือกเป็น เมืองนำร่อง (Pilot City) ของแผนในปี 2536 ด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่ขาดระบบขนส่งทันสมัยและสะดวกสบายทั่วถึง ทำให้ รายได้จากการท่องเที่ยวต่ำ การวางโครงข่ายรถไฟฟ้าใต้ดินจึงเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ในการสร้างโอกาสใหม่ให้คนท้องถิ่น
5. การทางพิเศษฯ กับบทบาทระบบราง: MRT และ PPP
ในปี 2536 การทางพิเศษฯ ยังทำหน้าที่เป็นหน่วยงานแม่ของ องค์การรถไฟฟ้ามหานคร (MRTA)
โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT กรุงเทพฯ ได้รับอนุมัติ ครม. เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2537
ใช้มาตรฐานเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินเชียงใหม่
รวมระยะทาง 341 กม. แบ่งเป็นระบบหลัก 135 กม. และระบบรอง 206 กม.
โมเดล PPP (Public–Private Partnership) ได้ถูกนำมาใช้ เช่น:
ปี 2537: สะพานมิตรภาพไทย-ลาว (ร่วมกับออสเตรเลีย)
ปี 2537: MRT กรุงเทพฯ (ร่วมกับญี่ปุ่น)
ปี 2539: ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ร่วมกับญี่ปุ่น)
6. ความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่: จากเชียงใหม่ถึงเซินเจิ้น
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล แถลงการณ์แผนระบบรางเชียงใหม่ในปี 2536 เมือง เซินเจิ้น ของจีนยังเป็นหมู่บ้านประมง แต่ภายหลังจีนเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง ส่งผลให้เซินเจิ้นกลายเป็นมหานครเศรษฐกิจอันดับ 3 ของจีน ขณะที่ไทย หยุดพัฒนา ด้านโครงสร้างพื้นฐานหลังเปลี่ยนนโยบายไปสู่ ประชานิยมในปี 2544
เมืองเซินเจิ้น นักการเมืองปากพล่อยเคยอ้างถึงเรื่องเซินเจิ้น เมืองของก๊อปเกรด C เปรียบเทียบ ยกตนข่ม พลเอก ประยุทธ์ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย
เมืองเซินเจิ้น ในอดีต
เมืองเซินเจิ้น ปัจจุบัน
7. Sukavichinomics กับแนวคิด “อยู่ที่บ้าน ก็มีงาน มีอนาคต”
หัวใจสำคัญของแนวคิด สุขวิชโนมิกส์ คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องอพยพสู่เมืองหลวง ผ่านการวางโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นธรรม ครอบคลุม และยั่งยืน เพื่อให้คนสามารถ “มีงาน” และ “มีอนาคต” ได้ในถิ่นฐานของตนเอง
แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนสมการ 3 ประการ:
การเดินทางที่ดี = โอกาสทางการศึกษานักเรียนในต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงสถานศึกษาที่มีคุณภาพผ่านระบบขนส่งที่เชื่อถือได้
ระบบรางและถนนทั่วถึง = โอกาสทางเศรษฐกิจผู้ประกอบการท้องถิ่นสามารถเข้าถึงตลาด แหล่งวัตถุดิบ และแรงงานได้ง่ายขึ้น
ขนส่งมวลชนคุณภาพ = คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนลดความแออัดในเมืองหลวง ลดมลภาวะ และกระจายโอกาสทางชีวิตให้ทั่วถึงมากขึ้น
ระบบถนนขนสินค้าอุปโภคบริโภค
สุขวิชโนมิกส์ จึงไม่ได้เป็นเพียงแนวทางด้านเศรษฐศาสตร์ แต่คือ ยุทธศาสตร์แห่งความเท่าเทียมทางพื้นที่ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศไทย
8. โครงการยังไม่เริ่ม เพราะประเทศไทยเริ่มใช้นโยบายประชานิยม ตั้งแต่ ปี 2544 แทน ปรัชญาเศรษฐศาสตร์:สุขวิชโนมิกส์ 2536 - 2543
แผนแม่บทในปี 2536 จะวางรากฐานไว้อย่างชัดเจนและได้รับการสนับสนุนในเชิงนโยบายระดับต้นแบบ แต่โครงการหลัก ๆ จำนวนมากกลับ หยุดชะงัก หรือ ยังไม่เริ่มดำเนินการ เช่น:
แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน8 เมืองใหญ่ ปี 2536
Sukavichinomics: The 1993 Mass Transit Systems in 8 Regional Cities
โครงการขุดคลอง 200,000 กม. (2536)
The 1993 Sukavichinomics 200000 Kilometers Canel
The 1994 Bangkok Ocean Terminal (2537)
The 1994 Bangkok Smart Sports City (2537)
Thailand National Olympic Complex (ชะอำ, 2539)
เพราะ การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในปี 2544 เปลี่ยนแนวทางการพัฒนาประเทศจากการลงทุนระยะยาวในโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และ ฯลฯ จาก 4 เสาหลัก Sukavichinomics Education Health Justice and Security อ้างอิง
https://web.archive.org/web/20060504185549/http://www.seameo.org/vl/library/dlwelcome/publications/report/thematic/97sym32/97syman3.htm
ไปสู่แนวทาง ประชานิยมระยะสั้น ที่มุ่งตอบสนองความพึงพอใจเฉพาะหน้าในระดับมหาชน แทนที่จะวางรากฐานเพื่ออนาคตในระยะยาว ตั้งแต่ปี 2544
9. สุขวิชโนมิกส์( Sukavichinomics) เริ่มไปบางส่วนก่อนจะหยุดในปี 2544 เนื่องจากรัฐไทย เปลี่ยนมาใช้แนวทางประชานิยมจนถึงปัจจุบัน (2568)
9.1 กรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล
9.1.1 แผนแม่บททางพิเศษ กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล ปี 2536
9.1.2 แผนแม่บท MRT 2537
บรรณานุกรม
แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่ ปี 2536 ถูกซ่อนลิ๊งค์ เกิน 10 ครั้ง tag วิธีการใช้งานพันทิปถูกซ่อนลิ้งค์ครับ?
สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics): แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ (รถไฟฟ้าใต้ดินMRTเชียงใหม่ พ.ศ. 2536)
บทคัดย่อ
บทความนี้นำเสนอ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ “สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics)” ปรัชญาของฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนที่ 5 ปี 2536-2537 ประธานองค์การรถไฟฟ้ามหานคร คนที่ 3 ปี 2537 รองนายกรัฐมนตรี ปี 2537โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างความเสมอภาคทางโอกาสผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบรางและขนส่งมวลชนในภูมิภาคนอกเหนือจาก กรุงเทพมหานคร
แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ ปี 2536 รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินเชียงใหม่ ถือเป็นนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่ใช้ รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ก่อนโครงการ MRT กรุงเทพมหานคร ปี2537
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์: สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) มีเป้าหมายระยะยาวเพื่อกระจายโอกาสด้านการศึกษา สาธารณสุข เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และคุณภาพชีวิตให้ทั่วถึงทั้งประเทศ อย่างเท่าเทียม
ความต่อเนื่องถูกตัดตอนจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในปี พ.ศ. 2544 ประเทศไทยเปลี่ยนแนวทางพัฒนาประเทศไปสู่ประชานิยมระยะสั้น แผนยุทธศาสตร์หลายโครงการจึงไม่ถูกสานต่อ ส่งผลให้ภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะเมืองรอง เช่น เชียงใหม่ สูญเสียโอกาสในการพัฒนาเชิงโครงสร้าง และตกขบวนการแข่งขันระดับภูมิภาค เช่น เทียบกับกรณีเมืองเซินเจิ้นของจีน
บทความนี้เสนอให้มีการ รื้อฟื้นแผนระบบราง 8 เมือง, ส่งเสริมการลงทุนแบบ PPP อย่างยั่งยืน, และใช้โครงสร้างพื้นฐานเป็นเครื่องมือในการสร้างศักดิ์ศรีและอนาคตให้กับประชาชนในภูมิภาคอย่างแท้จริง
1. บทนำ: ปัญหาเชิงโครงสร้างก่อนปี 2538
ก่อนการอภิวัฒน์การศึกษาใน พ.ศ. 2538 ประเทศไทยประสบปัญหาโครงสร้างแรงงานอย่างหนัก โดยแรงงานถึง 79.1% มีการศึกษาเพียงระดับประถมหรือต่ำกว่า ส่งผลให้ประชากรในชนบทอพยพเข้าสู่เมืองใหญ่เพื่อหาโอกาสการจ้างงานและการศึกษาที่ดีขึ้น สิ่งนี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อ โครงสร้างครอบครัว, ชุมชนท้องถิ่น, และความสามารถในการพัฒนาภูมิภาคอย่างยั่งยืน
2. ปรัชญาเศรษฐศาสตร์: สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics)
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในฐานะผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนที่ 5 ปี 2536-2537
ประธานองค์การรถไฟฟ้ามหานคร คนที่ 3 ปี 2537 และรองนายกรัฐมนตรี ปี 2537
ได้เสนอปรัชญา สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) เน้นการกระจายโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ โดยใช้ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบรางและขนส่งมวลชน เป็นพันธกิจหนึ่งเพื่อ เชื่อมเศรษฐกิจภูมิภาคกับเมืองหลวง
3. แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่
ภายใต้ Sukavichinomics มีการจัดทำ แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนใน 8 เมืองหลัก ได้แก่:
เชียงใหม่
พิษณุโลก
ขอนแก่น
นครราชสีมา
สงขลา (หาดใหญ่)
ภูเก็ต
ชลบุรี
ฉะเชิงเทรา
วัตถุประสงค์คือ การกระจายศูนย์กลางการพัฒนา ออกจากกรุงเทพมหานคร ด้วยการลงทุนในระบบราง เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่น และลดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสู่เมืองหลวง
4. เชียงใหม่: เมืองนำร่องแห่งอนาคต
เชียงใหม่ได้รับการเลือกเป็น เมืองนำร่อง (Pilot City) ของแผนในปี 2536 ด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่ขาดระบบขนส่งทันสมัยและสะดวกสบายทั่วถึง ทำให้ รายได้จากการท่องเที่ยวต่ำ การวางโครงข่ายรถไฟฟ้าใต้ดินจึงเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ในการสร้างโอกาสใหม่ให้คนท้องถิ่น
5. การทางพิเศษฯ กับบทบาทระบบราง: MRT และ PPP
ในปี 2536 การทางพิเศษฯ ยังทำหน้าที่เป็นหน่วยงานแม่ของ องค์การรถไฟฟ้ามหานคร (MRTA)
โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT กรุงเทพฯ ได้รับอนุมัติ ครม. เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2537
ใช้มาตรฐานเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินเชียงใหม่
รวมระยะทาง 341 กม. แบ่งเป็นระบบหลัก 135 กม. และระบบรอง 206 กม.
โมเดล PPP (Public–Private Partnership) ได้ถูกนำมาใช้ เช่น:
ปี 2537: สะพานมิตรภาพไทย-ลาว (ร่วมกับออสเตรเลีย)
ปี 2537: MRT กรุงเทพฯ (ร่วมกับญี่ปุ่น)
ปี 2539: ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ร่วมกับญี่ปุ่น)
6. ความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่: จากเชียงใหม่ถึงเซินเจิ้น
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล แถลงการณ์แผนระบบรางเชียงใหม่ในปี 2536 เมือง เซินเจิ้น ของจีนยังเป็นหมู่บ้านประมง แต่ภายหลังจีนเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง ส่งผลให้เซินเจิ้นกลายเป็นมหานครเศรษฐกิจอันดับ 3 ของจีน ขณะที่ไทย หยุดพัฒนา ด้านโครงสร้างพื้นฐานหลังเปลี่ยนนโยบายไปสู่ ประชานิยมในปี 2544
นักการเมืองปากพล่อยเคยอ้างถึงเรื่องเซินเจิ้น เมืองของก๊อปเกรด C เปรียบเทียบ ยกตนข่มพลเอก ประยุทธ์ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย7. Sukavichinomics กับแนวคิด “อยู่ที่บ้าน ก็มีงาน มีอนาคต”
หัวใจสำคัญของแนวคิด สุขวิชโนมิกส์ คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องอพยพสู่เมืองหลวง ผ่านการวางโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นธรรม ครอบคลุม และยั่งยืน เพื่อให้คนสามารถ “มีงาน” และ “มีอนาคต” ได้ในถิ่นฐานของตนเอง
แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนสมการ 3 ประการ:
การเดินทางที่ดี = โอกาสทางการศึกษานักเรียนในต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงสถานศึกษาที่มีคุณภาพผ่านระบบขนส่งที่เชื่อถือได้
ระบบรางและถนนทั่วถึง = โอกาสทางเศรษฐกิจผู้ประกอบการท้องถิ่นสามารถเข้าถึงตลาด แหล่งวัตถุดิบ และแรงงานได้ง่ายขึ้น
ขนส่งมวลชนคุณภาพ = คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนลดความแออัดในเมืองหลวง ลดมลภาวะ และกระจายโอกาสทางชีวิตให้ทั่วถึงมากขึ้น
ระบบถนนขนสินค้าอุปโภคบริโภค
สุขวิชโนมิกส์ จึงไม่ได้เป็นเพียงแนวทางด้านเศรษฐศาสตร์ แต่คือ ยุทธศาสตร์แห่งความเท่าเทียมทางพื้นที่ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศไทย
8. โครงการยังไม่เริ่ม เพราะประเทศไทยเริ่มใช้นโยบายประชานิยม ตั้งแต่ ปี 2544 แทน ปรัชญาเศรษฐศาสตร์:สุขวิชโนมิกส์ 2536 - 2543
แผนแม่บทในปี 2536 จะวางรากฐานไว้อย่างชัดเจนและได้รับการสนับสนุนในเชิงนโยบายระดับต้นแบบ แต่โครงการหลัก ๆ จำนวนมากกลับ หยุดชะงัก หรือ ยังไม่เริ่มดำเนินการ เช่น:
แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน8 เมืองใหญ่ ปี 2536
Sukavichinomics: The 1993 Mass Transit Systems in 8 Regional Cities
โครงการขุดคลอง 200,000 กม. (2536)
The 1993 Sukavichinomics 200000 Kilometers Canel
The 1994 Bangkok Ocean Terminal (2537)
ไปสู่แนวทาง ประชานิยมระยะสั้น ที่มุ่งตอบสนองความพึงพอใจเฉพาะหน้าในระดับมหาชน แทนที่จะวางรากฐานเพื่ออนาคตในระยะยาว ตั้งแต่ปี 2544