ปลวกกินฝ้าเพดาน เพราะไม้แบบที่ช่างโครงการลืมเอาออก... ใครรับผิดชอบ?
บ้านของผมคือบ้านจัดสรรจากโครงการขนาดกลางในย่าน XXXX จังหวัดขอนแก่น
ซื้อมาใหม่มือหนึ่ง เข้าอยู่เมื่อ 4 ปีก่อน ด้วยความมั่นใจในแบรนด์และทีมช่างของโครงการ
แต่วันนี้ ผมต้องแบกค่าซ่อมแซมกว่าแสนบาทเพราะ “ไม้แบบที่ช่างลืมเอาออก”
และที่น่าตกใจคือ ทางโครงการกลับเสนอช่วยค่าใช้จ่ายให้เพียง
30,000 บาท
ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมด แสนกว่าบาท
🔨 จุดเริ่มต้นของปัญหา: ไม้แบบที่ไม่ถูกรื้อ กลายเป็นอาหารปลวก
จากการตรวจสอบพบว่า...โครงการไม่ได้รื้อ “ไม้แบบ” ที่ใช้ในการเทคอนกรีตออก
ยังมีเศษไม้
ติดอยู่กับเสาและคาน ถึงประมาณ 10–15 จุดทั่วบ้าน
ซึ่งกลายเป็น
แหล่งอาหารของปลวก และเป็นจุดเริ่มของปัญหาทั้งหมด
ปลวกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บุกฝ้าเพดานชั้นล่าง กัดกินงานบิ้วอินทั้งหมดจนเสียหายหนักต้องรื้อทิ้งทั้งหมด
⚡ จุดที่อันตรายยิ่งกว่า: ระบบไฟฟ้าในฝ้า
เมื่อปลวกแพร่กระจายไปทั่วบริเวณฝ้าเพดาน ฝ้าถูกปลวกกัดกินจนเสียหาย และเกิดความชื้นสะสมภายในฝ้าเพดาน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ
ระบบสายไฟภายในฝ้า และพบว่าสายไฟบางจุดมีสภาพเปื่อยและเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังพบว่าการเดินสายไฟลอยบนฝ้าที่ไม่ร้อยท่อ ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน วสท. และ TIS 11-2553 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านพักอาศัย การติดตั้งในลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการชำรุด เสื่อมสภาพ และอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทางผมได้รื้อถอนสายไฟเดิม และเดินสายใหม่โดยร้อยท่อ PVC พร้อมติดตั้งกล่องพักสายไฟตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้าและเพื่องช่อง service 2 จุด
💸 ค่าใช้จ่ายในการแก้ไข: ผมต้องแบกไว้ทั้งหมด
สุดท้ายผมต้องจ่ายเงิน
1 แสนกว่าบาท
เพื่อรื้อฝ้าเพดานทั้งหมด ทำฝ้าใหม่ และเดินสายไฟใหม่โดยร้อยท่อ PVC ติดตั้งกล่องพักสายไฟให้ได้มาตรฐาน
ผลได้ลดให้โครงการจ่าย สามหมื่นกว่าบาท เพื่อแสดงความร่วมมือ
แต่ทางโครงการกลับเสนอให้เพียง
30,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอและไม่สะท้อนความรับผิดชอบเลยครับ
⚖️ ผมจะไม่เงียบ และไม่ยอม
ผมกำลังเตรียมเอกสารร้องเรียนไปยัง
สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
และหากไม่ได้รับการดูแลที่เป็นธรรม อาจดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกค่าสินไหมจากโครงการ
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ “โชคร้าย” แต่มันคือ “ความบกพร่องที่เกิดจากความประมาท”
และผู้บริโภคไม่ควรต้องจ่ายค่าความผิดพลาดที่ตัวเองที่ไม่ได้ก่อ.
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็น “ความปลอดภัยในการอยู่อาศัยของครอบครัว”
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังเลือกซื้อบ้าน หรือเคยเจอประสบการณ์คล้ายกันครับ หากใครมีคำแนะนำหรือคำถามเพิ่มเติม ยินดีแลกเปลี่ยนครับ 🙏



ปลวกกินฝ้าเพดาน เพราะไม้แบบที่ช่างโครงการลืมเอาออก.....ใครรับผิดชอบ? (ขอนแก่น)
บ้านของผมคือบ้านจัดสรรจากโครงการขนาดกลางในย่าน XXXX จังหวัดขอนแก่น
ซื้อมาใหม่มือหนึ่ง เข้าอยู่เมื่อ 4 ปีก่อน ด้วยความมั่นใจในแบรนด์และทีมช่างของโครงการ
แต่วันนี้ ผมต้องแบกค่าซ่อมแซมกว่าแสนบาทเพราะ “ไม้แบบที่ช่างลืมเอาออก”
และที่น่าตกใจคือ ทางโครงการกลับเสนอช่วยค่าใช้จ่ายให้เพียง 30,000 บาท
ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมด แสนกว่าบาท
🔨 จุดเริ่มต้นของปัญหา: ไม้แบบที่ไม่ถูกรื้อ กลายเป็นอาหารปลวก
จากการตรวจสอบพบว่า...โครงการไม่ได้รื้อ “ไม้แบบ” ที่ใช้ในการเทคอนกรีตออก
ยังมีเศษไม้ ติดอยู่กับเสาและคาน ถึงประมาณ 10–15 จุดทั่วบ้าน
ซึ่งกลายเป็น แหล่งอาหารของปลวก และเป็นจุดเริ่มของปัญหาทั้งหมด
ปลวกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บุกฝ้าเพดานชั้นล่าง กัดกินงานบิ้วอินทั้งหมดจนเสียหายหนักต้องรื้อทิ้งทั้งหมด
⚡ จุดที่อันตรายยิ่งกว่า: ระบบไฟฟ้าในฝ้า
เมื่อปลวกแพร่กระจายไปทั่วบริเวณฝ้าเพดาน ฝ้าถูกปลวกกัดกินจนเสียหาย และเกิดความชื้นสะสมภายในฝ้าเพดาน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ ระบบสายไฟภายในฝ้า และพบว่าสายไฟบางจุดมีสภาพเปื่อยและเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังพบว่าการเดินสายไฟลอยบนฝ้าที่ไม่ร้อยท่อ ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน วสท. และ TIS 11-2553 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านพักอาศัย การติดตั้งในลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการชำรุด เสื่อมสภาพ และอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทางผมได้รื้อถอนสายไฟเดิม และเดินสายใหม่โดยร้อยท่อ PVC พร้อมติดตั้งกล่องพักสายไฟตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้าและเพื่องช่อง service 2 จุด
💸 ค่าใช้จ่ายในการแก้ไข: ผมต้องแบกไว้ทั้งหมด
สุดท้ายผมต้องจ่ายเงิน 1 แสนกว่าบาท
เพื่อรื้อฝ้าเพดานทั้งหมด ทำฝ้าใหม่ และเดินสายไฟใหม่โดยร้อยท่อ PVC ติดตั้งกล่องพักสายไฟให้ได้มาตรฐาน
ผลได้ลดให้โครงการจ่าย สามหมื่นกว่าบาท เพื่อแสดงความร่วมมือ
แต่ทางโครงการกลับเสนอให้เพียง 30,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอและไม่สะท้อนความรับผิดชอบเลยครับ
⚖️ ผมจะไม่เงียบ และไม่ยอม
ผมกำลังเตรียมเอกสารร้องเรียนไปยัง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
และหากไม่ได้รับการดูแลที่เป็นธรรม อาจดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกค่าสินไหมจากโครงการ
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ “โชคร้าย” แต่มันคือ “ความบกพร่องที่เกิดจากความประมาท”
และผู้บริโภคไม่ควรต้องจ่ายค่าความผิดพลาดที่ตัวเองที่ไม่ได้ก่อ.
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็น “ความปลอดภัยในการอยู่อาศัยของครอบครัว”
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังเลือกซื้อบ้าน หรือเคยเจอประสบการณ์คล้ายกันครับ หากใครมีคำแนะนำหรือคำถามเพิ่มเติม ยินดีแลกเปลี่ยนครับ 🙏