ผู้หญิงกัมพูชาที่ชี้หน้าด่าทหารไทย เมื่อวานที่ปราสาทตาเมือนธม คือ “นโรดม แพน โมนิก้า” หลานสาว ”นโรดมสีหนุ“

จากรณีที่ เมื่อวาน 15 ก.ค. 68 ที่ปราสาทตาเมือนธม มีผู้หญิงชาวกัมพุชา ได้มาชี้หน้าด่าทหารไทยนั่น
ล่าสุด ได้มีการเปิดเผยข้แอมูลออกมาว่า ผุ้หญิง กัมพูชาคนั้นคือ   “นโรดม แพน โมนิก้า” หลานสาว ”นโรดมสีหนุ“






ทั้งนี้ ล่าสุดกองทัพบกได้ออกเเถลงการณ์ชี้แจงเหตุการณ์เมื่อวานดังนี้
กองทัพบก ออกเอกสารชี้แจง ระบุว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชากับเจ้าหน้าที่ทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. นั้น กองทัพบกได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้




เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งแสดงความไม่พอใจ พร้อมกล่าวตำหนิด้วยเสียงดังต่อเจ้าหน้าที่ทหารไทย ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่นับจำนวนนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้ทางเข้าปราสาทฝั่งกัมพูชา

โดยกล่าวหาว่าทหารไทยได้รุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชาเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่า ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนอธิปไตยของประเทศไทย ฝ่ายไทยไม่ได้มีการรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชาตามที่ถูกกล่าวหา

ขณะเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงทราบเหตุ จึงได้เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยและช่วยระงับเหตุที่เกิดขึ้น
โดยในระหว่างการคลี่คลายสถานการณ์ ฝ่ายไทยจึงได้เชิญประชาชนออกจากบริเวณปราสาทในช่วงเวลานั้นชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยรอบ

ทั้งนี้ ภายหลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้มีความเข้าใจร่วมกัน และสถานการณ์ได้ยุติลงด้วยดี โดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

กองทัพบก ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ได้เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ซึ่งนอกจากจะเป็นการร่วมอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

พร้อมกันนี้ กองทัพบก ขอขอบคุณในทุกกำลังใจและการสนับสนุนที่มอบให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารมาโดยตลอด อันเป็นพลังสำคัญในการปฏิบัติภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยและปกป้องอธิปไตยของชาติบริเวณแนวชายแดนอย่างมั่นคง

การตรวจสอบกำลัง และการประเมินท่าทีของแต่ละฝ่าย ​ในด้านการทหารถือว่าเป็นการปฏิบัติโดยปกติของหน่วยข่าวกรองอยู่แล้ว ซึ่งต้องทำอย่างต่อเนื่อง​โดยใช้วิธีการต่างๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่