30 ปี ไฟต์ป
ระวัติศาสตร์ สมาน ส.จาตุรงค์ VS ฮุมแบร์โต้ กอนซาเลส
15 กรกฎาคม 2538 - 15 กรกฎาคม 2568

(ภาพของสมาน หลังจากการชกเสร็จสิ้น)
"วันที่เด็กบ้านนอกจากคลองขลุง ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์โลกสองสถาบัน พร้อมเขย่าวงการมวยโลกด้วยสองมือของเขาเอง"
สมาน ส.จาตุรงค์ หรือชื่อจริงว่า สมาน ศรีประเทศ เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2511 ที่บ้านคลองสุขใจ ต.ทุ่งทราย อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เป็นบุตรชายคนที่ 2 จากพี่น้อง 4 คนของ นายจำนงค์ และ นางละไม ศรีประเทศ
สมานเป็นห
นึ่งในนักชกไทยเพียงไม่กี่คนที่ ไม่เคยผ่านเวทีมวยไทยมาก่อนเลย เขาเลือกเส้นทาง “มวยสากลล้วน” ตั้งแต่เริ่มต้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก ม.ร.ว.นริศ กฤดากร และถูกส่งตัวไปที่ค่าย ส.จาตุรงค์ ภายใต้การดูแลของ สุชาติ ธีรวุฒิชูวงศ์
ก่อนเข้าสู่วงการมวย สมานเคยอุปสมบทและเรียนพระปริยัติธรรม จนจบ เปรียญธรรม 3 ประโยค ได้รับสมณศักดิ์เป็น “มหา” และเมื่อสึกออกมาก็ตัดสินใจเดินตามความฝัน: “อยากเป็นแชมป์โลก”
แม้จะเริ่มชกมวยตอนอายุ 21 ปี ซึ่งนับว่าช้าเกินไปสำหรับนักชกทั่วไป แต่สมานมีฝัน มีวินัย และหัวใจนักสู้เต็มร้อยและหัวใจนักสู้เต็มร้อย
ไฟต์พลิกชีวิต – สมาน vs ฮุมแบร์โต้
วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ที่ The Forum, อินเกิลวูด แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สมานในฐานะรองแชมป์อันดับ 5 ของโลก WBC รุ่นไลท์ฟลายเวต ได้ขึ้นชกกับยอดมวยจอมโหด ฮุมแบร์โต้ “ชิกิตา” กอนซาเลซ อดีตแชมป์โลก 3 สมัยผู้ไร้เทียมทานชาวเม็กซิกัน
การชก ไม่มีใครคาดหวังว่าสมานจะสามารถคว้าแชมป์โลกกลับมาได้
แต่ไฟต์นั้น กลับกลายเป็นหนึ่งในไฟต์ที่พลิกประวัติศาสตร์วงการมวยไทยและมวยโลก
สมาธิ ความกล้า และแผนในหัวของ “หมาน”
สมานเผยในภายหลังว่า วันนั้นเขามีสมาธิดีมาก รู้สึกว่า “เห็นหมัดของกอนซาเลซออกมาชัดเจน” ตั้งแต่ยกแรก
ยก 2 สมานชกขวาสวนจนกอนซาเลซล้ม กรรมการนับถึง 8
ยก 4-6 สมานโดนถล่มหนัก คิ้วแตก ตาขวาบวมปิด กรรมการเตรียมจะจับแพ้
ยก 7 เสียงจากหัวใจ:
"หมาน สู้ตายนะ!" เสียงครูฝึกและผู้จัดการกระตุ้นจิตใจ สมานลุกขึ้นมาและแลกหมัดแบบหมดหน้าตัก
และแล้ว...เขาส่งหมัดขวาเข้าเต็มหน้ากอนซาเลซ จนล้มลงกับพื้น
"กรรมการ(Lufilippo
) โบกมือให้สมานชนะ TKO ยก 7
พร้อมครองแชมป์โลก 2 สถาบัน (WBC + IBF) เป็นคนแรกของไทยและเอเชีย!"

(สมาน ชนะทีเคโอ กอนซาเลซ ได้ในยกที่7 ขอขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กของพี่สมานครับ)
ปาฏิหาริย์จากคลองขลุง
สมาน ส.จาตุรงค์ กลายเป็น แชมป์โลกคนที่ 21 ของไทย และเป็นนักมวยไทย คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์โลก 2 สถาบันในคราวเดียวกัน
ชัยชนะของเขาในวันนั้น ทำให้ ฮุมแบร์โต้ กอนซาเลซ ประกาศแขวนนวมถาวรทันทีหลังไฟต์
ชีวิตหลังแชมป์
หลังจากเป็นแชมป์โลก สมานสามารถ ป้องกันแชมป์ได้ 10 ครั้ง ก่อนเสียตำแหน่งในปี 2542 และเลิกชกในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน สมานอายุ 57 ปี ได้มีธุรกิจเล็กๆส่วนตัว ทำกับครอบครัวคือ ร้านข้าวมันไก่ สมานมีครอบครัวแต่งงานมีบุตรสาว1คน
เรื่องราวของสมาน ส.จาตุรงค์ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์วงการมวย แต่คือบทพิสูจน์ของ ความพยายาม ความกล้าหาญ และศรัทธาในตัวเอง
จากเด็กบ้านนอก...สู่ยอดนักชกโลก
จาก "ไม่มีใครคาดหวัง"…สู่การเป็นตำนาน
"30 ปีผ่านไป…แชมป์โลกยังอยู่ในหัวใจคนไทยเสมอ"

(สมานกำลังขี่คอ "เฮียจิว" สุชาติ ธีรวุฒิชูวงศ์ หัวหน้าค่ายมวย "ส.จาตุรงค์" ท่ามกลางความยินดีดีใจของคณะ)

("บิ๊กอึ่ง" สหสมภพ ศรีสมวงศ์ ผู้ล่วงลับ 1ในผู้มีพระคุณของสมาน ชูมือแสดงความยินดี)

(กรรมการ"Lufilippo" ชูมือสมานร่วมแสดงความยินดี)

(เฮียจิว กอดคอ น้องหมาน ดีใจสุดขีด...)
"ความอดทน..ถึงแม้มันจะเหนื่อย มันจะเจ็บ มันจะขมขื่น แต่ผลของมันก็หวานชื่นเสมอ...." - สมาน ส.จาตุรงค์
30ปีรำลึก ไฟต์ประวัติศาสตร์ "สมาน ส.จาตุรงค์" แชมป์โลกปาฎิหารย์!!!
15 กรกฎาคม 2538 - 15 กรกฎาคม 2568
(ภาพของสมาน หลังจากการชกเสร็จสิ้น)
"วันที่เด็กบ้านนอกจากคลองขลุง ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์โลกสองสถาบัน พร้อมเขย่าวงการมวยโลกด้วยสองมือของเขาเอง"
สมาน ส.จาตุรงค์ หรือชื่อจริงว่า สมาน ศรีประเทศ เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2511 ที่บ้านคลองสุขใจ ต.ทุ่งทราย อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เป็นบุตรชายคนที่ 2 จากพี่น้อง 4 คนของ นายจำนงค์ และ นางละไม ศรีประเทศ
สมานเป็นหนึ่งในนักชกไทยเพียงไม่กี่คนที่ ไม่เคยผ่านเวทีมวยไทยมาก่อนเลย เขาเลือกเส้นทาง “มวยสากลล้วน” ตั้งแต่เริ่มต้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก ม.ร.ว.นริศ กฤดากร และถูกส่งตัวไปที่ค่าย ส.จาตุรงค์ ภายใต้การดูแลของ สุชาติ ธีรวุฒิชูวงศ์
ก่อนเข้าสู่วงการมวย สมานเคยอุปสมบทและเรียนพระปริยัติธรรม จนจบ เปรียญธรรม 3 ประโยค ได้รับสมณศักดิ์เป็น “มหา” และเมื่อสึกออกมาก็ตัดสินใจเดินตามความฝัน: “อยากเป็นแชมป์โลก”
แม้จะเริ่มชกมวยตอนอายุ 21 ปี ซึ่งนับว่าช้าเกินไปสำหรับนักชกทั่วไป แต่สมานมีฝัน มีวินัย และหัวใจนักสู้เต็มร้อยและหัวใจนักสู้เต็มร้อย
ไฟต์พลิกชีวิต – สมาน vs ฮุมแบร์โต้
วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ที่ The Forum, อินเกิลวูด แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สมานในฐานะรองแชมป์อันดับ 5 ของโลก WBC รุ่นไลท์ฟลายเวต ได้ขึ้นชกกับยอดมวยจอมโหด ฮุมแบร์โต้ “ชิกิตา” กอนซาเลซ อดีตแชมป์โลก 3 สมัยผู้ไร้เทียมทานชาวเม็กซิกัน
การชก ไม่มีใครคาดหวังว่าสมานจะสามารถคว้าแชมป์โลกกลับมาได้
แต่ไฟต์นั้น กลับกลายเป็นหนึ่งในไฟต์ที่พลิกประวัติศาสตร์วงการมวยไทยและมวยโลก
สมาธิ ความกล้า และแผนในหัวของ “หมาน”
สมานเผยในภายหลังว่า วันนั้นเขามีสมาธิดีมาก รู้สึกว่า “เห็นหมัดของกอนซาเลซออกมาชัดเจน” ตั้งแต่ยกแรก
ยก 2 สมานชกขวาสวนจนกอนซาเลซล้ม กรรมการนับถึง 8
ยก 4-6 สมานโดนถล่มหนัก คิ้วแตก ตาขวาบวมปิด กรรมการเตรียมจะจับแพ้
ยก 7 เสียงจากหัวใจ: "หมาน สู้ตายนะ!" เสียงครูฝึกและผู้จัดการกระตุ้นจิตใจ สมานลุกขึ้นมาและแลกหมัดแบบหมดหน้าตัก
และแล้ว...เขาส่งหมัดขวาเข้าเต็มหน้ากอนซาเลซ จนล้มลงกับพื้น
"กรรมการ(Lufilippo
) โบกมือให้สมานชนะ TKO ยก 7
พร้อมครองแชมป์โลก 2 สถาบัน (WBC + IBF) เป็นคนแรกของไทยและเอเชีย!"
(สมาน ชนะทีเคโอ กอนซาเลซ ได้ในยกที่7 ขอขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กของพี่สมานครับ)
ปาฏิหาริย์จากคลองขลุง
สมาน ส.จาตุรงค์ กลายเป็น แชมป์โลกคนที่ 21 ของไทย และเป็นนักมวยไทย คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์โลก 2 สถาบันในคราวเดียวกัน
ชัยชนะของเขาในวันนั้น ทำให้ ฮุมแบร์โต้ กอนซาเลซ ประกาศแขวนนวมถาวรทันทีหลังไฟต์
ชีวิตหลังแชมป์
หลังจากเป็นแชมป์โลก สมานสามารถ ป้องกันแชมป์ได้ 10 ครั้ง ก่อนเสียตำแหน่งในปี 2542 และเลิกชกในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน สมานอายุ 57 ปี ได้มีธุรกิจเล็กๆส่วนตัว ทำกับครอบครัวคือ ร้านข้าวมันไก่ สมานมีครอบครัวแต่งงานมีบุตรสาว1คน
เรื่องราวของสมาน ส.จาตุรงค์ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์วงการมวย แต่คือบทพิสูจน์ของ ความพยายาม ความกล้าหาญ และศรัทธาในตัวเอง
จากเด็กบ้านนอก...สู่ยอดนักชกโลก
จาก "ไม่มีใครคาดหวัง"…สู่การเป็นตำนาน
"30 ปีผ่านไป…แชมป์โลกยังอยู่ในหัวใจคนไทยเสมอ"
(สมานกำลังขี่คอ "เฮียจิว" สุชาติ ธีรวุฒิชูวงศ์ หัวหน้าค่ายมวย "ส.จาตุรงค์" ท่ามกลางความยินดีดีใจของคณะ)
("บิ๊กอึ่ง" สหสมภพ ศรีสมวงศ์ ผู้ล่วงลับ 1ในผู้มีพระคุณของสมาน ชูมือแสดงความยินดี)
(กรรมการ"Lufilippo" ชูมือสมานร่วมแสดงความยินดี)
(เฮียจิว กอดคอ น้องหมาน ดีใจสุดขีด...)
"ความอดทน..ถึงแม้มันจะเหนื่อย มันจะเจ็บ มันจะขมขื่น แต่ผลของมันก็หวานชื่นเสมอ...." - สมาน ส.จาตุรงค์