พระ​พุทธ​เจ้า​สอน​ สมาธิเพื่อสติสัมปชัญญะ/ดูจิต

กระทู้คำถาม
สมาธิเพื่อสติสัมปชัญญะ/ดูจิต

ปัญหา จะบำเพ็ญสมาธิภาวนาแบบไหน อย่างไร จึงจะเป็นเหตุให้สติสัมปชัญญะเจริญไพบูลย์ ?

พุทธดำรัสตอบ...
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมรู้แจ้งเวทนา ที่กำลังเกิดขึ้น
รู้แจ้งเวทนา ที่กำลังตั้งอยู่
รู้แจ้งเวทนา ที่กำลังดับไป

รู้แจ้งสัญญา ที่กำลังเกิดขึ้น
รู้แจ้งสัญญา ที่กำลังตั้งอยู่
รู้แจ้งสัญญา ที่กำลังดับไป

รู้แจ้งวิตก ที่กำลังเกิดขึ้น
รู้แจ้งวิตก ที่กำลังตั้งอยู่
รู้แจ้งวิตก ที่กำลังดับไป

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สมาธิภาวนาอย่างนี้ ที่บุคคลเจริญพัฒนาแล้วย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ

สมาธิสูตร จ. อํ.
------------------------------------------------------------------

วิตก
กุศลวิตก ความตริตรึกที่เป็นกุศล,
ความนึกคิดที่ดีงามมี ๓ คือ
๑. เนกขัมมวิตก ความตรึกปลอดจากกาม
๒. อพยาบาทวิตก ความตรึกปลอดจากพยาบาท
๓. อวิหิงสาวิตก ความตรึกปลอดจากการเบียดเบียน

-อกุศลวิตก ความตริตรึกที่เป็นอกุศล,
ความนึกคิดที่ไม่ดี มี ๓ อย่าง คือ
๑. กามวิตก คิดแส่ไปในทางกาม หาทางปรน
ปรือตน
๒. พยาบาทวิตก คิดในทางพยาบาท
๓. วิหิงสาวิตก คิดในทางเบียดเบียนผู้อื่น
------------------------------------------------------------------

"จงเฝ้าดู...จิตของท่าน
พิจารณาให้รู้เห็นว่า...ความรู้สึกต่างๆ
เกิดขึ้น และดับไปอย่างไร  
ความนึกคิด เกิดขึ้น และดับไปอย่างไร
อย่าได้ผูกพัน อยู่...กับสิ่งใดเลย  

จงมีสติ...อยู่เสมอ
เมื่อมีอะไรๆเกิดขึ้น ให้ได้รู้ได้เห็น
นี่คือ...ทางที่จะบรรลุถึงสัจจธรรม
ของพระพุทธองค์

ที่เรียกว่า เกิดๆ ดับๆ นี้คืออะไร
คืออารมณ์ ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้ว...มันก็ดับไป
ดับแล้ว...มันก็เกิดขึ้นมา
ในทางธรรมะ เรียกว่า...การเกิด-ดับ มันก็มี
เท่านี้...

ทุกข์ มันเกิดขึ้นแล้ว...ทุกข์ มันก็ดับไป
ทุกข์ ดับไปแล้ว...ทุกข์ ก็เกิดขึ้นมา
นอกเหนือจากนี้ไป ก็ไม่มี...อะไร
มีแต่...ทุกข์เกิดแล้ว...ทุกข์.ก็ดับไป มีเท่านี้

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว...
จิตของเรา ก็จะเห็นแต่การเกิด-ดับ อยู่เสมอ เมื่อเห็นการเกิด-ดับ อยู่เสมอ ทุกวัน ทุกเวลา  ตลอดทั้งกลางวัน ตลอดทั้งกลางคืน ตลอดทั้งการยืน เดิน นั่ง นอน
ก็จะเห็นได้ว่า...มันไม่มี...อะไรจริงๆ
มีแต่...เกิด-ดับ อยู่...เท่านี้เอง แล้วทุกอย่าง
มันก็จบ อยู่...ตรงนี้

เมื่อเห็นอารมณ์เกิด-ดับ อย่างนี้
อยู่...เสมอไปแล้ว  
จิตใจ ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย
เพราะเมื่อคิดไปแล้ว ก็ไม่มี...อะไรมากมาย
มันมีแต่...
การเกิดแล้ว...ก็ดับ  ดับแล้ว...ก็เกิด
เกิดแล้ว...ก็ดับ  มันมีอยู่...เท่านี้..."
-------------------------------------------------------------------
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่