[CR] [ManatC, 2025] Review hostel Osaka/ Tokyo and Fukushima

สวัสดีค่ะ หลังจากห่างหายการเขียนกระทู้ไปนาน ปีนี้ก็ยังเป็นอีกปีที่เที่ยวเยอะมากเช่นเคย โดยแพลนปีนี้ เราไปมาแล้ว 3 ทริปจาก 5 ทริปที่แพลนของปีนี้ โดยเมื่อเดือน 3 และ 5 ไปจีนกันมา แต่ยังไม่มีโอากาสมารีวิวในกระทู้สักที ก็ขอข้ามมารีวิวทริปญี่ปุ่นกันเลย 55555 แต่ถ้ามีคนอยากให้รีวิวทริป กวางโจว-เซินเจิ้น หรือ ฉงชิ่ง-เฉิงตู บอกได้นะคะ เพิ่งไปมาเมื่อปีนี้ 

มาพูดถึงญี่ปุ่นกันดีกว่า อันนี้ก็เป็นปีที่ 3 ที่ไปญี่ปุ่นมาแล้ว ซึ่งปีนี้พิเศษหน่อยตรงที่ว่าเป็นปีแรกที่ไปญี่ปุ่นคนเดียว 2 ปีก่อนหน้า จะเป็นการไปกับเพื่อนและแยกตัวไปเที่ยว แต่ปีนี้คือไปญี่ปุ่นคนเดียว ใช้ชีวิต 9 วันคนเดียวสุดๆ มาก ประสบการณ์เยอะสุดๆ และเช่นเคยเป็นการไปคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นถึง 4 รอบ 2 เมือง (osaka / sendai) ทริปนี้เลยเป็นรูท Osaka - Tokyo - Sendai บินลง Osaka และบินกลับจาก Tokyo

ซึ่งกระทู้ขอมารีวิวเกี่ยวกับ Hostel ที่ไปนอนกันค่ะ หาข้อมูลค่อนข้างยากเลย  Osaka ค่อนข้างไม่ห่วงเพราะว่า เคยไปนอนมาแล้ว แต่กับ tokyo และ sendai ต้องบอกว่าเคยไป แต่ไม่เคยไปนอนเลย ก็หาข้อมูลทั้งการเดินทาง และรีวิวของแต่ละที่พักกันมา และสรุปออกมาเป็น

- Osaka : White Hostel Shinsaibashi (3 nights) - 1,654.17 บาท

- Tokyo : Plat Hostel Keikyu Asakusa Station (3 nights) - 2,106.43 บาท

- Fukushima : La Union (1 night) - 1,295.91 บาท

จริงๆ แล้วอีกอย่างคือ จริงๆ เราไม่จำเป็นต้องนอนอยู่ที่ Fukushima เลยก็ได้ค่ะ เพราะว่ามีการซื้อตั๋ว  JR Pass Tohoku ไว้แล้วสามารถนั่งชินคันเซนไปกลับ โตเกียว-เซนได (คอนเสิร์ต เสาร์ และอาทิตย์ที่ Sendai) เลยก็ได้ แต่ตอนแพลนคือ ถ้าเรานอนโตเกียวทั้ง 4 คืนก็จะน่าเบื่อไป (ห้ะ 55555) ก็เลยออกมาเป็นแพลน งงๆ นอน tokyo 2 คืน ไปนอน fukushima 1 คืน และกลับมานอน tokyo 1 คืน ที่พักทั้งหมดจองจาก Agoda ทั้งหมดเลยค่ะ ที่พักทั้งหมดนี้เป็นแบบห้องพักรวมนะคะ แบบ Dormitory ค่ะ พวก Facility ส่วนใหญ่มีเป็นพื้นฐานเหมือนกันทั้งหมดค่ะ มาพูดถึงแต่ละที่พักดีกว่าค่ะ

1. White Hostel Shinsaibashi 

​- สามารถเดินไป Dotonburi ได้เลยค่ะ สะดวกเดินไปช้อปปิ้งง่ายมาก 

- สามารถมาฝากกระเป๋าเดินทางก่อนเวลา check in และหลัง check out ได้เลยค่ะ 

- ผ้าเช็ดตัวจะต้องนำมาเองนะคะ แต่สามารถเช่าได้ค่ะ มีบริการ 

- ที่นี่จะไม่มีกุญแจหรือคีย์การ์ดนะคะ ตอนเช็คอินจะมีการแจ้งรหัสประตูทางเข้า (ประตูปิดหลัง 23:00) รหัสสำหรับใช้งานลิฟต์ แต่ละรหัส จะเข้าใช้งานได้แค่ชั้นนั้นค่ะ และก็รหัสประตูห้อง

- มีลิฟต์บริการ

- พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บริเวณชั้น 1 ค่ะ

- ห้องอาบน้ำจะอยู่ชั้นใครชั้นมันแยกกันค่ะ

- ต้องปูผ้าปูเตียงเองนะคะ

2. Plat Hostel Keikyu Asakusa Station

- สามารถเดินไปวัด Sentoji , Asakusa ได้เลยค่ะ และสามารถเดินไป Donki  ได้เช่นเดียวกันค่ะ สาขานี้เปิด 24 hrs เลยค่ะ

- กระเป๋าสามารถนำมาฝากก่อนเวลา check in ได้ค่ะ แต่จะไม่สามารถฝากหลัง check out ได้ ถ้าจะฝากมีค่าบริการ

- ผ้าเช็ดตัวจะต้องนำมาเองนะคะ แต่สามารถเช่าได้ค่ะ มีบริการ 

- ไม่มีคีย์การ์ดเหมือนกัน แต่จะมีแค่รหัสสำหรับประตูทางเข้าสำหรับการเข้าออกหลัง 23:00 

- มีลิฟต์บริการ

- พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ชั้น 2 ค่ะ เครื่องซักผ้า และอบผ้าเช่นกัน 

- ทางที่พักนี้จะมีห้องน้ำในชั้นที่ตัวเองพัก แต่อาบน้ำจะต้องลงมาอาบที่ชั้น 2 ค่ะ

- อยากจะ remark Staff ที่พักที่นี่ nice มาก ด้วยความที่เป็นคนกลับที่พักดึกๆ จะเจอ staff หรือ คนพัก มานั่ง drink กับคุยกันที่ชั้น 2 ทุกวัน ละเขา nice กันมาก

3. La Union

- อยู่ไม่ไกลจาก Fukushima station ค่ะ สามารถเดินไปได้

- ปกติช่วงกลางวันที่พักจะปิดไว้ ถ้าอยากฝากกระเป๋า จะมีตู้ locker นอกที่พักให้บริการอยู่ค่ะ ก่อนวันเข้าพักจะมีเมลล์แแจ้งเข้ามา สำหรับ รหัส locker สำหรับคนจะฝาก

- ผ้าเช็ดตัวกับรองเท้ามีบริการอยู่ที่นอนค่ะ

- ไม่มีลิฟต์บริการ

- ห้องอาบน้ำอยู่ชั้นเดียวกับที่พักค่ะ ที่พักจะอยู่ชั้น 3, reception ชั้น 2

- ส่วนตัวชอบบรรยากาศในห้องที่พักกับที่อาบน้ำ ของที่พักนี่ที่สุดใน 3 ที่พักค่ะ แบบดูตกแต่ง แบบเรียบง่ายดี มีพื้นที่มากกว่า 2 ที่พักที่ผ่านมา

ก็ขอจบกระทู้นี้เพียงเท่านี้ค่าา ไว้มาต่อรีวิวญี่ปุ่น 9 วัน คนเดียวไปทำอะไรมาบ้าง ถ้ามีคนสนใจนะคะ