JJNY : 5in1 ปชน.ย้ำจุดยืนค่าโดยสาร│ส่งออกข้าว 6 ด.ร่วง│ตาเมือนธมเดือด!│ขนยางให้ชายแดน│อสเตรเลียลั่น"ไม่มีผูกมัดล่วงหน้า"

ปชน. ย้ำจุดยืนค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท ภาษีประชาชนต้องถูกใช้สมเหตุสมผลและยั่งยืน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2870150
.
.
พรรคประชาชน ย้ำจุดยืนค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท หลังถูกวิจารณ์ไม่หนุนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ชี้ ภาษีประชาชนต้องถูกใช้อย่างสมเหตุสมผลและยั่งยืน เพื่อประโยชน์ผู้โดยสารทุกกลุ่ม ต่างจากนโยบายเพื่อไทย
.
เมื่อเวลา 15.14 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 พรรคประชาชนยืนยันจุดยืนผ่านทาง เฟซบุ๊ก หลังจากกรณีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยประกาศจะทำนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2568 นี้ และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่พรรคประชาชนไม่หนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่า 
.
พรรคประชาชนเห็นด้วยว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีราคาแพง ควรถูกปรับลดเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของพรรคเพื่อไทยที่ใช้เงินของรัฐ ซึ่งก็คือเงินภาษีประชาชนทั้งประเทศไปอุดหนุนให้นายทุนรถไฟฟ้าอย่างไร้ฐานคิด กล่าวคือรัฐบาลไม่ทราบต้นทุนของรถไฟฟ้าแต่ละสายด้วยซ้ำ แต่กลับตั้งราคาขึ้นมาลอยๆ ที่ 20 บาท
.
อีกทั้งการทำแบบนี้ จะส่งผลให้ 1. รัฐต้องทุ่มเงินอุดหนุนจำนวนมาก ที่สุดท้ายเข้ากระเป๋านายทุนรถไฟฟ้าเต็มๆ 2. เป็นนโยบายที่คิดไม่ครบ ใช้งบประมาณจำนวนมากโดยละเลยผู้ใช้รถเมล์ซึ่งมีความยากลำบากและฐานรายได้ต่ำกว่าผู้ใช้รถไฟฟ้า 3. ขาดความยั่งยืน นโยบายนี้ต้องลุ้นแบบปีต่อปี เพราะไม่ได้ออกเป็นกฎหมาย ขึ้นอยู่กับรัฐบาลต่อไปจะทำต่อหรือไม่
.
สำหรับข้อเสนอพรรคประชาชน คือ การทำค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท รวมระบบรถไฟฟ้าและระบบรถเมล์ ผ่านร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... เสนอโดย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งตอนนี้ผ่านคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แล้ว กำลังรอเข้าสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2
.
ข้อดีของ “ค่าโดยสารร่วม” (Common Fare) คือผู้เดินทางไม่ต้องจ่ายค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน สามารถเดินทางข้ามสายหรือข้ามระบบ เช่น จากรถไฟฟ้าไปรถเมล์อย่างไร้รอยต่อ อาทิ ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว 5 สถานี ต่อด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 5 สถานี ต่อด้วยรถเมล์จนถึงจุดหมาย ทั้งหมดนี้ราคาไม่เกิน 45 บาท อีกสิ่งสำคัญที่จะเกิดขึ้นหากร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ของพรรคประชาชนผ่านสภาฯ คือจะมี “ตั๋วร่วม” (Common Ticket) หรือตั๋วใบเดียวที่ใช้ได้ทุกขนส่งสาธารณะเพื่อความสะดวก ประชาชนไม่ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันให้วุ่นวายยุ่งยาก เช่นเดียวกับกรุงลอนดอนที่มีบัตร Oyster สิงคโปร์มีบัตร EZ-Link ฮ่องกงมีบัตร Octopus

ขณะเดียวกัน พรรคประชาชนยังชี้แจงถึงการทำค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท ว่า พรรคประชาชนคิดบนพื้นฐานสัญญาสัมปทานที่ผูกพันกับรัฐในปัจจุบันที่คิดเป็นเที่ยว (8-25 บาทสำหรับรถเมล์ และ 15-45 บาทสำหรับรถไฟฟ้า) แต่ช่วยคนที่ลำบากจริงๆ คือต้องเดินทางหลายเที่ยวก่อน โดยกำหนดเพดานสูงสุดที่ 45 บาท (เหมือนเดินทางเที่ยวเดียว แม้ต้องขึ้นรถไฟฟ้าหลายสาย ขึ้นรถเมล์หลายต่อ)
.
นโยบายของพรรคประชาชน รัฐต้องอุดหนุน แต่ไม่เหมือนกับพรรคเพื่อไทย โดยในนโยบายพรรคประชาชนคาดว่าใช้ 7,000 ล้านบาทต่อปี เงินอุดหนุนส่วนมากไปช่วยระบบรถเมล์ซึ่งฐานผู้ใช้มีรายได้น้อยกว่ารถไฟฟ้า และในส่วนรถไฟฟ้าไม่เอื้อนายทุนเพราะอยู่บนฐานของสัมปทานเดิม (15-45 บาท) เพียงแต่ช่วยอุดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน เพราะถือเป็นความผิดของรัฐไทยในอดีตที่มองปัญหาเป็นสายๆ แบ่งเค้กเป็นรายๆ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
.
“พรรคประชาชนออกแบบนโยบายค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท รวมระบบรถไฟฟ้าและระบบรถเมล์ เพื่อแก้ปัญหาที่โครงสร้าง คิดครบรอบด้านเพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารทุกกลุ่มภายใต้แนวคิดขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน โดยจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดเพื่อช่วยคนที่เดือดร้อนจริงๆ มากหน่อย ไม่ใช่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบปะผุ โปรยไปทั่วให้เหลือ 20 บาท แต่แท้จริงคือการประเคนผลประโยชน์ให้นายทุนรถไฟฟ้า ที่มีความสนิทสนมกับนายใหญ่ในรัฐบาล”
.
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อมั่นว่านโยบายค่าโดยสารร่วม 8-45 บาทตลอดทาง จะสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่ได้มีแค่รถไฟฟ้าให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก มีค่าโดยสารที่เป็นธรรม เงินทุกบาททุกสตางค์จากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ถูกใช้อย่างสมเหตุสมผลและมีความยั่งยืน.
.
https://www.facebook.com/PPLEThai/posts/pfbid02m2pPDb3kJ2zdeWrz7KFqV1WAjbeYXB4ZPJihwTVuXfVSSiq7wM4FuQX3e7nQriLJl
.

.
ส่งออกข้าวไทย 6 เดือนร่วง 28% ทำรายได้เข้าประเทศเหลือแค่ 7.4 หมื่นล้าน
https://www.khaosod.co.th/economics/news_9846390
.
พาณิชย์ เผย ส่งออกข้าว 6 เดือนร่วง 28% ทำรายได้เข้าประเทศ 7.4 หมื่นล้านบาท
.
วันที่ 13 กรกฎาคม 2568รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกข้าวไทยในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) 2568 ว่า ไทยมีปริมาณส่งออกข้าว รวมทั้งสิ้น 3.65 ล้านตัน มูลค่า 2,227 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 74,538 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณ 5.13 ล้านตัน มูลค่า 3,334 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือ ประมาณ 118,903 ล้านบาท
.
คิดเป็นปริมาณ และมูลค่าลดลง 28.85% และ 33.20% ตามลำดับ โดยอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย. 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 333.53 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่า ขึ้น7.35% จากช่วงเดียวกันของปี 2567
.
ทั้งนี้ ราคาส่งออกข้าวไทยเฉลี่ยของไทยในเดือนมิ.ย. 2568 ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากเดือนก่อนแต่ราคา ส่งออกข้าวหอม มะลิ ไทย และราคาปลายข้าวขาว ปรับตัว เพิ่มขึ้น โดยราคาข้าวหอมมะลิ เพิ่มขึ้น 1.48% จาก 1146 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 1163 เหรียญสหรัฐ/ตัน,
.
ข้าวหอมไทย ลดลง 2.72% จาก 699 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 680 เหรียญสหรัฐ/ตัน, ข้าวเหนียว ลดลง 1.30% จาก 769 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 759 เหรียญสหรัฐ/ตัน, ข้าวนึ่ง ลดลง 3.43% จาก 437 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 422 เหรียญสหรัฐ/ตัน และข้าวขาว 10% ลดลง 2.56% จาก 429 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 418 เหรียญสหรัฐ/ตัน
.
โดยไทยส่งออกข้าวขาวมากเป็นอันดับหนึ่งคิดเป็นสัดส่วน 44.59% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย 24.26% ข้าวนึ่ง 17.71% ข้าวหอมไทย 7.21% ข้าวเหนียว 4.26% และข้าวกล้อง 1.97% ตามลำดับ
.

.
ปราสาทตาเมือนธมเดือด! เขมรใช้ผ้าขาวม้าโชว์ธงชาติ ท้าทายกฎห้ามแสดงสัญลักษณ์
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/252559
.
เขมรแห่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมมากขึ้น พบคล้องผ้าขาวม้า สบจังหวะจนท.ไทยเผลอ ถ่ายรูปโชว์ธงชาติแสดงเชิงสัญลักษณ์อีก
.
วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้าที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมามอบสิ่งของให้กำลังทหารและเข้าชมปราสาทตาเมือนธมอย่างคึกคัก คาดว่าจะมีจำนวนไม่น้อยกว่าเมื่อวานนี้
.
และในวันนี้ หลังจากที่ชาวไทยแห่มาเที่ยววันละกว่า 5-6 พันคน ตลอดช่วงวันหยุดยาว พบว่าชาวกัมพูชาเริ่มทยอยเข้ามาเที่ยวมากขึ้นเช่นกัน 

โดยในจำนวนนี้พบหญิงกัมพูชารายหนึ่ง ที่มากับครอบครัว คล้องผ้าขาวม้าเขมรที่คอซึ่งมีรูปธงชาติกัมพูชา และพยายามใช้จังหวะที่เจ้าหน้าที่ไทยเผลอ ยืนถ่ายรูปด้วยการใช้มือยกเปิดผ้าขาวม้าโชว์รูปธงชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงห้ามแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ 
.
ทั้งนี้ ผู้หญิงคนดังกล่าวสามารถเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ไทยไปได้ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากที่มาเที่ยว อีกทั้งเมื่อสังเกตเห็นผู้สื่อข่าวแอบมองและถ่ายภาพ ก็ยืนมองและพยายามหลบเลี่ยงการกระทำท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมากดังกล่าว
.

.
กลุ่มรวมเพื่อนสี่ภาค ขนยางให้โรงเรียน ค่ายทหาร อบต. พื้นที่ชายแดน เผยมอบแล้วกว่า 10,000 เส้น
.
พลังชาวไทยยังเข็มแข็ง กลุ่มรวมเพื่อนสี่ภาคมอบให้โรงเรียน ค่ายทหาร อบต. พื้นที่ชายแดน เผยขนยางมอบให้ครั้งที่ 7 แล้ว กว่า 10,000 เส้น ลั่นไม่ทอดทิ้งทหารไทย สนับสนุนต่อเนื่อง

เวลา 08.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 นายธนา เจริญสุข อายุ 40 ปี ประธานกลุ่มรวมเพื่อนสี่ภาค นำทีมสมาชิกจากจังหวัดสมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด นำยางรถยนต์กว่า 2,000 เส้น พร้อมข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ยากันยุง และของจำเป็นอื่น ๆ มอบให้กับทหารตามแนวชายแดน  โรงเรียนวัดสะพานหิน อบต.ท่ากุ่ม และ อบต.แหลมกลัด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหารแนวหน้า
.
โดยจุดแรกมอบยางรถยนต์และเครื่องดื่ม ที่ อบต.ท่ากุ่ม เพื่อให้ทางอบต. นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนตามแนวชายแดนที่ยังไม่เพียงพอในตอนนี้ 
.
จุดที่ 2 เดินทางไปยังฐานบ้านสะพานหิน ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 นำข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องดื่ม ยากันยุง และยางรถยนต์ มอบให้กับทหาร เพื่อสนับสนุนทหารที่กำลังลาดตะเวนอยู่บนเขาบรรทัด
.
จุดที่ 3 มอบยางรถยนต์ให้กับโรงเรียนวัดสะพานหิน เพื่อช่วยเสริมแนวป้องกันหลุมหลบภัยที่ตั้งอยู่ในโรงเรียนให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น 
.
จุดที่ 4 เดินทางไปยัง อบต.แหลมกลัด มอบยางรถยนต์เพิ่มเติมให้กับ อบต. เนื่องจาก ยางรถยนต์ ยังไม่เพียงพอต่อการทำบังเกอร์ให้กับประชาชนพื้นที่
และจุดสุดท้าย จุดที่ 5 กลุ่มรวมเพื่อนสี่ภาค เดินทางขึ้นไปยังฐานบ้านท่าเส้น ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 มอบข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องดื่ม ยากันยุง และยางรถยนต์ ให้กับฐานทหารเพิ่มเติมเนื่องจากยังไม่เพียงพอ
.
นายธนา เจริญสุข เปิดเผยว่า วันนี้ได้ร่วมกับประชาชนจากหลายพื้นที่ เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และปราจีนบุรี รวมตัวกันจัดส่งสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน นำยางรถยนต์มือสองมามอบให้กับทางทหาร รวมถึงข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ยากันยุง และของจำเป็นอื่น ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้พี่น้องทหารที่เสียสละปกป้องประเทศชาติ พวกเราขออยู่เบื้องหลังและให้กำลังใจทหารทุกนาย ขอขอบคุณยืนหยัดดูแลชายแดนไทย พวกเราสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้ง และจะสนับสนุนต่อไปเรื่อย ๆ และเชื่อมั่นว่าทหารไทยสามารถปกป้องประเทศได้อย่างแน่นอน
.
สำหรับกิจกรรมนี้ นายธนา ยังกล่าวต่อว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้ว วันนี้รวบรวมยางรถยนต์มือสองกว่า 2,000 เส้น รวม 7 ครั้ง รวมยอดสะสมมากกว่า 10,000 เส้น ที่มอบให้กับพื้นที่ชายแดนในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด 
.
 ขณะเดียวกัน ต้องขอบคุณประชาชนที่ร่วมสนับสนุน ยางรถยนต์ สิ่งของบริจาค ที่ส่งต่อมายังกลุ่มรวมเพื่อนสี่ภาค เพื่อนำไปมอบให้ทหาร โรงเรียน และอบต.ในพื้นที่ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางสมาชิกทุกคนออกค่าใช้จ่ายกันเอง เมื่อถามถึงความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนที่อาจลุกลามถึงขั้นสู้รบ 
.
สำหรับกลุ่มรวมเพื่อนสี่ภาค ก่อตั้งมาแล้วกว่า 4 ปี มีสมาชิกทั่วประเทศมากกว่า 4,000 คน เป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น มอบสิ่งของช่วยเหลือ มอบทุนการศึกษาให้โรงเรียน 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่