วิสัยทัศน์สร้างชาติผ่าน “ความร่วมมือประชาชน–รัฐ–เอกชน” ในยุคสุขวิชโนมิกส์
ในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 2530 ประเทศไทยเผชิญความท้าทายสำคัญในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ระบบคมนาคมตึงตัว ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจขยายตัว และการพัฒนาชนบทชะงักงัน
แนวคิด “PPP โครงสร้างพื้นฐาน” ภายใต้สุขวิชโนมิกส์
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล เสนอแนวทางเศรษฐกิจแบบ “สุขวิชโนมิกส์” โดยใช้กลไก PPP (People–Public–Private Partnership) ซึ่งไม่ใช่เพียงความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน แต่ “ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุดและมีส่วนร่วมในการออกแบบโครงการ” เพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนและทั่วถึง
⸻
กรณีศึกษา PPP โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในยุคสุขวิชโนมิกส์
1. สะพานมิตรภาพไทย–ลาว (หนองคาย–เวียงจันทน์)
•ปีเริ่มสร้าง: 2537
•สนับสนุนโดย: รัฐบาลไทย รัฐบาลออสเตรเลีย และภาคเอกชนไทย
•รูปแบบ PPP: รัฐร่วมลงทุนและบริหาร, เอกชนออกแบบและก่อสร้าง, ชุมชนมีส่วนร่วมแรงงานและการค้า
•ผลลัพธ์: จุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจในลุ่มแม่น้ำโขง และเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งไทย–ลาว–เวียดนาม–จีน
2. สะพานมิตรภาพไทย–พม่า (แม่สอด–เมียวดี)
•ผลักดันช่วงกลาง 2530s
•รูปแบบ PPP: รัฐไทยร่วมทุน, เอกชนไทยและพม่า ร่วมพัฒนาโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมข้ามแดน
•ผลกระทบ: แม่สอดกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษ และประตูการค้าสู่พม่าและอินเดีย
3. สะพานมิตรภาพไทย–มาเลเซีย (ปาดังเบซาร์–เปอลิส / สุไหงโก-ลก–กลันตัน)
•ช่วงปี 2538–2540
•รูปแบบ PPP: รัฐลงทุนระบบถนน-รถไฟ, เอกชนพัฒนาโลจิสติกส์และด่านตรวจคนเข้าเมือง
•ผลสำคัญ: สนับสนุนขนส่งสินค้าและท่องเที่ยวในกลุ่ม IMT–GT
4. สะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา (อรัญประเทศ–ปอยเปต)
•เริ่มผลักดันปี 2539
•รูปแบบ PPP: รัฐลงทุนระบบถนน–รถไฟ–ด่าน, เอกชนลงทุนศูนย์การค้าและขนส่งสินค้า
•ผลกระทบ: ส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดนไทย–กัมพูชาและเชื่อมเครือข่ายรถไฟสู่เวียดนาม
⸻
2. รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT (ปี 2537)
•คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สายแรกของไทยในรูปแบบ PPP
•รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อุโมงค์, ราง), เอกชนบริหารจัดการและเดินรถ ผ่านบริษัท เช่น BEM (เดิม BMCL)
•ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในฐานะผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลชวน 1 ผลักดันแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯและปริมณฑล (MTMP)
•MTMP วางแผนรวม 341 กม. ได้แก่ 135 กม. รถไฟฟ้า MRT และ 206 กม. ระบบรองอื่นๆ
•วันที่ 17 พฤษภาคม 2537 รัฐบาลกำหนดพื้นที่ 25 ตารางกิโลเมตรกลางกรุงเทพฯ “ต้อง” สร้างระบบใต้ดิน และ 87 ตารางกิโลเมตร “ควร” สร้าง
•จุดประสงค์: ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและลดอุบัติเหตุ
⸻
3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปี 2539)
•จัดตั้ง บริษัท ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพฯ แห่งที่ 2 ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOT) เพื่อบริหารสนามบินสุวรรณภูมิภายใต้โมเดล PPP
•เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนและบริหารสนามบินนานาชาติ
•เป้าหมาย: ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
• กำหนดเสร็จ ปี 2543 ล่าช้า 7 ปี ใช้ได้จริง 2550
⸻
🎯 บทสรุปเชิงนโยบาย
PPP ในยุคสุขวิชโนมิกส์ไม่ใช่เพียงแนวทางเศรษฐกิจ แต่เป็นกลไกปฏิรูปภาครัฐที่ใช้ทุนทางสังคมและทุนเอกชนเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเร่งด่วน โดยมี ประชาชนเป็นศูนย์กลางทั้งในผลประโยชน์และกระบวนการออกแบบ เพื่อสร้างการพัฒนาอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
บรรณานุกรม:
PPP โครงสร้างพื้นฐาน สะพานมิตรภาพ 2537, MRT 2537, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2539 ซ่อนลิงค์?
ในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 2530 ประเทศไทยเผชิญความท้าทายสำคัญในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ระบบคมนาคมตึงตัว ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจขยายตัว และการพัฒนาชนบทชะงักงัน
แนวคิด “PPP โครงสร้างพื้นฐาน” ภายใต้สุขวิชโนมิกส์
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล เสนอแนวทางเศรษฐกิจแบบ “สุขวิชโนมิกส์” โดยใช้กลไก PPP (People–Public–Private Partnership) ซึ่งไม่ใช่เพียงความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน แต่ “ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุดและมีส่วนร่วมในการออกแบบโครงการ” เพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนและทั่วถึง
⸻
กรณีศึกษา PPP โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในยุคสุขวิชโนมิกส์
1. สะพานมิตรภาพไทย–ลาว (หนองคาย–เวียงจันทน์)
•ปีเริ่มสร้าง: 2537
•สนับสนุนโดย: รัฐบาลไทย รัฐบาลออสเตรเลีย และภาคเอกชนไทย
•รูปแบบ PPP: รัฐร่วมลงทุนและบริหาร, เอกชนออกแบบและก่อสร้าง, ชุมชนมีส่วนร่วมแรงงานและการค้า
•ผลลัพธ์: จุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจในลุ่มแม่น้ำโขง และเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งไทย–ลาว–เวียดนาม–จีน
2. สะพานมิตรภาพไทย–พม่า (แม่สอด–เมียวดี)
•ผลักดันช่วงกลาง 2530s
•รูปแบบ PPP: รัฐไทยร่วมทุน, เอกชนไทยและพม่า ร่วมพัฒนาโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมข้ามแดน
•ผลกระทบ: แม่สอดกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษ และประตูการค้าสู่พม่าและอินเดีย
3. สะพานมิตรภาพไทย–มาเลเซีย (ปาดังเบซาร์–เปอลิส / สุไหงโก-ลก–กลันตัน)
•ช่วงปี 2538–2540
•รูปแบบ PPP: รัฐลงทุนระบบถนน-รถไฟ, เอกชนพัฒนาโลจิสติกส์และด่านตรวจคนเข้าเมือง
•ผลสำคัญ: สนับสนุนขนส่งสินค้าและท่องเที่ยวในกลุ่ม IMT–GT
4. สะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา (อรัญประเทศ–ปอยเปต)
•เริ่มผลักดันปี 2539
•รูปแบบ PPP: รัฐลงทุนระบบถนน–รถไฟ–ด่าน, เอกชนลงทุนศูนย์การค้าและขนส่งสินค้า
•ผลกระทบ: ส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดนไทย–กัมพูชาและเชื่อมเครือข่ายรถไฟสู่เวียดนาม
⸻
2. รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT (ปี 2537)
•คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สายแรกของไทยในรูปแบบ PPP
•รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อุโมงค์, ราง), เอกชนบริหารจัดการและเดินรถ ผ่านบริษัท เช่น BEM (เดิม BMCL)
•ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในฐานะผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลชวน 1 ผลักดันแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯและปริมณฑล (MTMP)
•MTMP วางแผนรวม 341 กม. ได้แก่ 135 กม. รถไฟฟ้า MRT และ 206 กม. ระบบรองอื่นๆ
•วันที่ 17 พฤษภาคม 2537 รัฐบาลกำหนดพื้นที่ 25 ตารางกิโลเมตรกลางกรุงเทพฯ “ต้อง” สร้างระบบใต้ดิน และ 87 ตารางกิโลเมตร “ควร” สร้าง
•จุดประสงค์: ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและลดอุบัติเหตุ
3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปี 2539)
•จัดตั้ง บริษัท ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพฯ แห่งที่ 2 ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOT) เพื่อบริหารสนามบินสุวรรณภูมิภายใต้โมเดล PPP
•เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนและบริหารสนามบินนานาชาติ
•เป้าหมาย: ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
• กำหนดเสร็จ ปี 2543 ล่าช้า 7 ปี ใช้ได้จริง 2550
🎯 บทสรุปเชิงนโยบาย
PPP ในยุคสุขวิชโนมิกส์ไม่ใช่เพียงแนวทางเศรษฐกิจ แต่เป็นกลไกปฏิรูปภาครัฐที่ใช้ทุนทางสังคมและทุนเอกชนเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเร่งด่วน โดยมี ประชาชนเป็นศูนย์กลางทั้งในผลประโยชน์และกระบวนการออกแบบ เพื่อสร้างการพัฒนาอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
บรรณานุกรม:
•ข้อมูล PPP และโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทย, เอกสารรัฐบาล และแหล่งข้อมูลภาคประชาสังคม