มาตราฐานบริษัทของโบรกเกอร์
สมมุติว่าเราสามารถเลือกเข้าทำงานบริษัทโบรกเกอร์ได้เพียงแค่หนึ่งบริษัท เราจะเลือกบริษัทนี้ไหม มันดีแค่ไหน และเพราะอะไร?
การที่เราจะเอาเงิน หรือทรัพย์สิน ที่เราหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงมาฝากไว้ เพื่อลงทุนต่อยอดอนาคตของเรานี้ มันสำคัญมาก พอๆกับการเลือกคู่ชีวิต
เพราะฉะนั้น
คำถามคือ ไว้ใจได้ไหม ที่จะให้บริษัทนี้ถือเงินแทนเรา
1. บริษัทต้องมีระบบในการตรวจสอบความโปร่งใสในการทำธุรกรรม ที่ดีมีมาตราฐาน เพื่อปกป้องพนักงานบริษัท และลูกค้า เวลาเกิดข้อพิพาทต่างๆต้องสามารถตรวจสอบได้
2. บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุลคล กฎหมายคุ้มครองเงินที่รับฝาก และพรบ.อื่นๆที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และอื่นๆ เพื่อปกป้องทรัพย์สินของลูกค้าเป็นสำคัญ
3.
บริษัทมีหนี้มากน้อยแค่ไหน ผลประกอบการเป็นอย่างไร การปล่อยกู้บัญชีมาร์จิ้น มีสัดส่วนอยู่เท่าไหร่ เงินทุนสำรองมีไหม ถ้าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อาจจะพอหาข้อมูลเหล่านี้ได้
4.
ธรรมภิบาลของบริษัทมีมากน้อยแค่ไหน นโยบายความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของลูกค้ามีไหม ถ้าเกิดข้อมูลรั่วไหลขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าระบบถูกแฮ๊กจะทำยังไง รับผิดชอบยังไง
5. แน่นอนว่าต้องจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย กลต. รองรับ
6. License ของผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการ ต้องได้รับอนุญาติถูกต้อง ปกติบริษัทจะให้บริการอะไร ต้องมี license ถึงจะดำเนินการได้ เช่น ใบอนุญาตเกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (Securities Business License), ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน (IC License) เป็นต้น
7. ทุนที่ใช้จดทะเบียน ใครเป็นนายทุนใหญ่ นายทุนเป็นสัญชาติอะไร น่าเชื่อถือไหม ตรวจสอบผู้ถือหุ้นให้ดี เพราะมีเรื่องความเสี่ยง offshore
8. ผู้บริหาร CEO คือใคร มีประวัติเสียไหม น่าเชื่อถือไหม มีวิสัยทัศน์อย่างไร จะล้มกลางคั่น หรือจะแซงคู่แข่งขึ้นมาเป็นที่หนึ่งในวงการ มีผลต่อการพัฒนาและความก้าวหน้าของบริษัทเป็นอย่างมาก
9. ผูู้บริหารเทคโนโลยี CIO ต้องเก่งและดี ปัจจุบันนี้สำคัญต่อการแข่งขันเป็นอย่างมาก เป็นหน้าเป็นตาของบริษัท บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้า ระบบไอทีหลังบ้านต้องดี, CyberSecurity ต้องดี , platform แอพต่างๆต้องดี เสถียร และปลอดภัยจริง คนถึงจะใช้
10. สถานที่ตั้งของบริษัท ก็สำคัญ เดินทางสะดวกไหม ถ้าจะไปติดต่อ มีสาขาไหนบ้าง
11. ให้บริการอะไรได้บ้าง ครอบคลุมความต้องการของเราไหม มีความทันสมัยไหม
****ความคิดเห็นส่วนตัว***
จะเห็นว่าผมไม่ได้นำเรื่องขนาดของบริษัทมาพิจารณา เพราะไม่ว่าบริษัทจะเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถเป็นบริษัทที่ดีหรือไม่ดีได้ทั้งนั้น เพราะถ้าเราเอาเงินไปไว้กับคนไม่ดีมีเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ขนาดของบริษัทที่ใหญ่ก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือ เนื่องจากบริหารงานมานานจนบริษัทเติบโตมีขนาดใหญ่ผ่านประสบการณ์มาเยอะ และในแง่ของเงินทุนที่ใช้ลงทุนพัฒนาบริษัทก็อาจมีมากกว่า ร่วมถึงเครดิตในการขอกู้เงินก็มีมากกว่า เพราะสินทรัพย์มีมากนั้นเอง ดังนั้นถ้าเทียบกับบริษัทเล็ก บริษัทเล็กอาจจะได้เปรียบในเรื่องของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรได้เร็วกว่าบริษัทใหญ่ โดยเฉพาะปัจจุบันที่เทคโลโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำให้องค์กรไหนปรับตัวได้เร็วกว่าก็จะได้เปรียบมากกว่า เพราะคนรุ่นใหม่ ชอบอะไรที่มัน สะดวก รวดเร็ว และทันสมัย
มาตราฐานของ Marketing
ถ้าต้องร่วมงานกับคนๆนี้ จะไปรอดไหม จะรุ่งไหม?
ให้มองมาร์ เหมือนเป็นพาร์ทเนอร์คนหนึ่งที่สำคัญในชีวิต อย่ามองต่ำหรือดูถูก อย่ามีทัศนคติว่าเหมือนคนใช้ อย่าคิดแค่ว่าโอนเงินไปแล้วต้องทำทุกอย่างให้เราได้ และไม่ควรเลือกมาร์เพราะ แค่สงสาร หรือหลงเสน่ห์ หรือเพราะโปรโมชั่น
ให้มองมาร์ เหมือนเพื่อนร่วมทางในชีวิตที่สามารถ ฝากฝัง ดูแล เรื่องสำคัญ(เงิน)ได้ หรือแม้กระทั่งเป็นที่ปรึกษาในการลงทุนให้เราได้
เพราะ ตัวเรา กับ มาร์ มีผลประโยชน์ร่วมกัน ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนั่นต้องมี
ความซื่อสัตย์ เชื่อถือกัน และไว้ใจกันได้ (สำคัญที่สุด)
- มาร์ที่ดี ต้องมีใจรักบริการ มีความซื่อสัตย์ เข้าใจความต้องการของลูกค้า
- มาร์ที่ดี ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลลูกค้า ไม่นำข้อมูลลูกค้าไปขาย หรือนำไปบอกเล่าส่งต่อโดยไม่ได้รับอนุญาติ
- มาร์ที่ดี ควรจะมีความรู้เรื่อง การเงิน การลงทุนและ การใช้เทคโนโลยี เป็นอย่างดี ขยันเรียนรู้สิ่งๆใหม่ พัฒนาตนเองเสมอ
- มาร์ที่ดี ควรมีมารยาท พูดจาสุภาพ รู้จักกาลเทศะ
- มาร์ที่ดี ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องตระหนักถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของลูกค้าให้มาก มองลูกค้าเป็นคนสำคัญในชีวิต
*** ถ้าคุณโชคดีคุณอาจจะเจอ มาร์ที่ดี ที่ผมกล่าวไปข้างต้นแล้ว แต่ถ้าไม่มี ก็ลองเปิดใจและให้โอกาส มาร์รุ่นใหม่ๆดูบ้างนะครับ หรือถ้าคุณไม่ชอบให้ใครมา ยุ่งวุ่นวายกับคุณ ก็สามารถสมัครกับส่วนกลางผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย
*** การไม่มองผลประโยชน์ระยะสั้น จึงจะพึ่งพาอาศัยรู้ใจกัน ไปได้ระยะยาว
*** บริษัทหลายแห่ง เริ่มที่จะลดจำนวนของมาร์ลงแล้ว เพราะการเข้ามาของเทคโนโลยี และ AI ทำให้ตำแหน่งสายงานนี้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก คนรุ่นใหม่ทำธุรกรรมผ่าน IT ทั้งมด มาร์ก็เริ่มไม่จำเป็นแล้ว
ความต้องการพื้นฐาน และการให้บริการ
1. การเปิดบัญชี ต้องง่ายสะดวก มีมาตราฐานความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ
2. การฝาก-ถอน ต้องง่ายสะดวก มีมาตราฐานความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ
3. โปรแกรมเทรด ควรมีทั้งใน มือถือ และ PC หรือ ไอแพด เพราะถ้าเกิดอุปกรณ์อันใดอันหนึ่งเสียหายขึ้นมาจะได้มีช่องทางสำรองเข้าถึงได้
4. โปรแกรมเทรด ต้องเสถียร ใช้งานง่าย ไม่ล่ม ไม่ค้าง มีมาตรฐานความปลอดภัยน่าเชื่อถือ
5. ค่าธรรมเนียมการให้บริการต่างๆ ต้องประกาศชัดเจน ถูกแพงไม่ว่ากัน แล้วแต่ลูกค้าเลือกตามความพอใจ
6. ควรมีการให้บริการที่ครอบคลุม หลายตลาด หลายสินทรัพย์ เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุน ตราสารหนี้ อนุพันธ์ และทรัพย์สินทางเลือกอื่นๆ
7. มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษา หรือบทวิเคราะห์ที่ดี มีแหล่งอ้างอิงน่าเชื่อถือ
8. portfolio เอกสารสรุปผลการทำธุรกรรม ต่างๆ ต้องมีมาตราฐาน ถูกต้อง ครบถ้วน รายงานรายวัน รายเดือน รายปี
9. การอัพเดตข่าวสารที่สำคัญต้องถูกต้องและรวดเร็ว เช่น ประกาศจ่ายปันผล ประกาศผลประกอบการ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น
โดยเฉพาะทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับกับพอร์ตลูกค้าโดยตรง การขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขายต่างๆ , หุ้นร่วงติด floor, หุ้นที่ถูก force sell,
หุ้นที่จะถูกถอดถอนออกจากตลาด, หุ้นที่ผู้บริหารเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง และอื่นๆ ข้อสุดท้ายนี้ถ้ามีการแจ้งเตือนข้อมูลเหล่านี้ได้ถือว่าทำได้ดีเยี่ยม
สำรวจความต้องการของตัวเอง1. ลงทุนสินทรัพย์อะไร (what) 2. ลงทุนที่ไหน (where) 3. ลงทุนเพื่ออะไร (why) 4. ลงทุนอย่างไร (How)
- หุ้น < ไทย > + ปันผล [ DCA ]
- กองทุน < ต่างประเทศ > + เก็งกำไร [ เงินก้อน ]
- ทอง + เก็บออม (ดอกเบี้ยฝาก)
- คริปโต
- อนุพันธ์
- ตราสารหนี้
- พันธบัตร
5. ระยะเวลาการลงทุน (when) 6. การตัดสินใจลงทุน (who)
// สั้น ไม่เกิน 1 ปี @ ทำด้วยตัวเอง
// กลาง 1-3 ปี @ ให้คนอื่นทำแทน
// ยาว 5 -10 ปี @ ใช้ AI หรือ โปรแกรมอัตโนมัติ
// ตลอดไป
ทำ checklist สำรวจความต้องการของตนเองก่อน
ทำ checklist สำรวจบริษัทโบรกเกอร์
ทำ checklist สำรวจมาร์เก็ตติ้ง
ทำ checklist สำรวจความต้องการการใช้บริการ
เลือกที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด
https://www.set.or.th/th/market/information/member-list/main
เข้าไปเช็คข้อมูลกับตลาดหลักทรัพย์

ขอให้ทุกคนโชคดี หวังว่าจะเจอโบรกเกอร์ และมาร์เก็ตติ้งที่ดีและเหมาะกับคุณ
หลักการเลือกโบรกเกอร์หุ้น หรือตลาดอื่นๆ
สมมุติว่าเราสามารถเลือกเข้าทำงานบริษัทโบรกเกอร์ได้เพียงแค่หนึ่งบริษัท เราจะเลือกบริษัทนี้ไหม มันดีแค่ไหน และเพราะอะไร?
การที่เราจะเอาเงิน หรือทรัพย์สิน ที่เราหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงมาฝากไว้ เพื่อลงทุนต่อยอดอนาคตของเรานี้ มันสำคัญมาก พอๆกับการเลือกคู่ชีวิต
เพราะฉะนั้น คำถามคือ ไว้ใจได้ไหม ที่จะให้บริษัทนี้ถือเงินแทนเรา
1. บริษัทต้องมีระบบในการตรวจสอบความโปร่งใสในการทำธุรกรรม ที่ดีมีมาตราฐาน เพื่อปกป้องพนักงานบริษัท และลูกค้า เวลาเกิดข้อพิพาทต่างๆต้องสามารถตรวจสอบได้
2. บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุลคล กฎหมายคุ้มครองเงินที่รับฝาก และพรบ.อื่นๆที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และอื่นๆ เพื่อปกป้องทรัพย์สินของลูกค้าเป็นสำคัญ
3. บริษัทมีหนี้มากน้อยแค่ไหน ผลประกอบการเป็นอย่างไร การปล่อยกู้บัญชีมาร์จิ้น มีสัดส่วนอยู่เท่าไหร่ เงินทุนสำรองมีไหม ถ้าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อาจจะพอหาข้อมูลเหล่านี้ได้
4. ธรรมภิบาลของบริษัทมีมากน้อยแค่ไหน นโยบายความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของลูกค้ามีไหม ถ้าเกิดข้อมูลรั่วไหลขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าระบบถูกแฮ๊กจะทำยังไง รับผิดชอบยังไง
5. แน่นอนว่าต้องจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย กลต. รองรับ
6. License ของผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการ ต้องได้รับอนุญาติถูกต้อง ปกติบริษัทจะให้บริการอะไร ต้องมี license ถึงจะดำเนินการได้ เช่น ใบอนุญาตเกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (Securities Business License), ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน (IC License) เป็นต้น
7. ทุนที่ใช้จดทะเบียน ใครเป็นนายทุนใหญ่ นายทุนเป็นสัญชาติอะไร น่าเชื่อถือไหม ตรวจสอบผู้ถือหุ้นให้ดี เพราะมีเรื่องความเสี่ยง offshore
8. ผู้บริหาร CEO คือใคร มีประวัติเสียไหม น่าเชื่อถือไหม มีวิสัยทัศน์อย่างไร จะล้มกลางคั่น หรือจะแซงคู่แข่งขึ้นมาเป็นที่หนึ่งในวงการ มีผลต่อการพัฒนาและความก้าวหน้าของบริษัทเป็นอย่างมาก
9. ผูู้บริหารเทคโนโลยี CIO ต้องเก่งและดี ปัจจุบันนี้สำคัญต่อการแข่งขันเป็นอย่างมาก เป็นหน้าเป็นตาของบริษัท บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้า ระบบไอทีหลังบ้านต้องดี, CyberSecurity ต้องดี , platform แอพต่างๆต้องดี เสถียร และปลอดภัยจริง คนถึงจะใช้
10. สถานที่ตั้งของบริษัท ก็สำคัญ เดินทางสะดวกไหม ถ้าจะไปติดต่อ มีสาขาไหนบ้าง
11. ให้บริการอะไรได้บ้าง ครอบคลุมความต้องการของเราไหม มีความทันสมัยไหม
****ความคิดเห็นส่วนตัว***
จะเห็นว่าผมไม่ได้นำเรื่องขนาดของบริษัทมาพิจารณา เพราะไม่ว่าบริษัทจะเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถเป็นบริษัทที่ดีหรือไม่ดีได้ทั้งนั้น เพราะถ้าเราเอาเงินไปไว้กับคนไม่ดีมีเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ขนาดของบริษัทที่ใหญ่ก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือ เนื่องจากบริหารงานมานานจนบริษัทเติบโตมีขนาดใหญ่ผ่านประสบการณ์มาเยอะ และในแง่ของเงินทุนที่ใช้ลงทุนพัฒนาบริษัทก็อาจมีมากกว่า ร่วมถึงเครดิตในการขอกู้เงินก็มีมากกว่า เพราะสินทรัพย์มีมากนั้นเอง ดังนั้นถ้าเทียบกับบริษัทเล็ก บริษัทเล็กอาจจะได้เปรียบในเรื่องของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรได้เร็วกว่าบริษัทใหญ่ โดยเฉพาะปัจจุบันที่เทคโลโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำให้องค์กรไหนปรับตัวได้เร็วกว่าก็จะได้เปรียบมากกว่า เพราะคนรุ่นใหม่ ชอบอะไรที่มัน สะดวก รวดเร็ว และทันสมัย
ถ้าต้องร่วมงานกับคนๆนี้ จะไปรอดไหม จะรุ่งไหม?
ให้มองมาร์ เหมือนเป็นพาร์ทเนอร์คนหนึ่งที่สำคัญในชีวิต อย่ามองต่ำหรือดูถูก อย่ามีทัศนคติว่าเหมือนคนใช้ อย่าคิดแค่ว่าโอนเงินไปแล้วต้องทำทุกอย่างให้เราได้ และไม่ควรเลือกมาร์เพราะ แค่สงสาร หรือหลงเสน่ห์ หรือเพราะโปรโมชั่น
ให้มองมาร์ เหมือนเพื่อนร่วมทางในชีวิตที่สามารถ ฝากฝัง ดูแล เรื่องสำคัญ(เงิน)ได้ หรือแม้กระทั่งเป็นที่ปรึกษาในการลงทุนให้เราได้
เพราะ ตัวเรา กับ มาร์ มีผลประโยชน์ร่วมกัน ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนั่นต้องมีความซื่อสัตย์ เชื่อถือกัน และไว้ใจกันได้ (สำคัญที่สุด)
- มาร์ที่ดี ต้องมีใจรักบริการ มีความซื่อสัตย์ เข้าใจความต้องการของลูกค้า
- มาร์ที่ดี ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลลูกค้า ไม่นำข้อมูลลูกค้าไปขาย หรือนำไปบอกเล่าส่งต่อโดยไม่ได้รับอนุญาติ
- มาร์ที่ดี ควรจะมีความรู้เรื่อง การเงิน การลงทุนและ การใช้เทคโนโลยี เป็นอย่างดี ขยันเรียนรู้สิ่งๆใหม่ พัฒนาตนเองเสมอ
- มาร์ที่ดี ควรมีมารยาท พูดจาสุภาพ รู้จักกาลเทศะ
- มาร์ที่ดี ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องตระหนักถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของลูกค้าให้มาก มองลูกค้าเป็นคนสำคัญในชีวิต
*** ถ้าคุณโชคดีคุณอาจจะเจอ มาร์ที่ดี ที่ผมกล่าวไปข้างต้นแล้ว แต่ถ้าไม่มี ก็ลองเปิดใจและให้โอกาส มาร์รุ่นใหม่ๆดูบ้างนะครับ หรือถ้าคุณไม่ชอบให้ใครมา ยุ่งวุ่นวายกับคุณ ก็สามารถสมัครกับส่วนกลางผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย
*** การไม่มองผลประโยชน์ระยะสั้น จึงจะพึ่งพาอาศัยรู้ใจกัน ไปได้ระยะยาว
*** บริษัทหลายแห่ง เริ่มที่จะลดจำนวนของมาร์ลงแล้ว เพราะการเข้ามาของเทคโนโลยี และ AI ทำให้ตำแหน่งสายงานนี้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก คนรุ่นใหม่ทำธุรกรรมผ่าน IT ทั้งมด มาร์ก็เริ่มไม่จำเป็นแล้ว
1. การเปิดบัญชี ต้องง่ายสะดวก มีมาตราฐานความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ
2. การฝาก-ถอน ต้องง่ายสะดวก มีมาตราฐานความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ
3. โปรแกรมเทรด ควรมีทั้งใน มือถือ และ PC หรือ ไอแพด เพราะถ้าเกิดอุปกรณ์อันใดอันหนึ่งเสียหายขึ้นมาจะได้มีช่องทางสำรองเข้าถึงได้
4. โปรแกรมเทรด ต้องเสถียร ใช้งานง่าย ไม่ล่ม ไม่ค้าง มีมาตรฐานความปลอดภัยน่าเชื่อถือ
5. ค่าธรรมเนียมการให้บริการต่างๆ ต้องประกาศชัดเจน ถูกแพงไม่ว่ากัน แล้วแต่ลูกค้าเลือกตามความพอใจ
6. ควรมีการให้บริการที่ครอบคลุม หลายตลาด หลายสินทรัพย์ เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุน ตราสารหนี้ อนุพันธ์ และทรัพย์สินทางเลือกอื่นๆ
7. มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษา หรือบทวิเคราะห์ที่ดี มีแหล่งอ้างอิงน่าเชื่อถือ
8. portfolio เอกสารสรุปผลการทำธุรกรรม ต่างๆ ต้องมีมาตราฐาน ถูกต้อง ครบถ้วน รายงานรายวัน รายเดือน รายปี
9. การอัพเดตข่าวสารที่สำคัญต้องถูกต้องและรวดเร็ว เช่น ประกาศจ่ายปันผล ประกาศผลประกอบการ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น
โดยเฉพาะทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับกับพอร์ตลูกค้าโดยตรง การขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขายต่างๆ , หุ้นร่วงติด floor, หุ้นที่ถูก force sell,
หุ้นที่จะถูกถอดถอนออกจากตลาด, หุ้นที่ผู้บริหารเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง และอื่นๆ ข้อสุดท้ายนี้ถ้ามีการแจ้งเตือนข้อมูลเหล่านี้ได้ถือว่าทำได้ดีเยี่ยม
- หุ้น < ไทย > + ปันผล [ DCA ]
- กองทุน < ต่างประเทศ > + เก็งกำไร [ เงินก้อน ]
- ทอง + เก็บออม (ดอกเบี้ยฝาก)
- คริปโต
- อนุพันธ์
- ตราสารหนี้
- พันธบัตร
5. ระยะเวลาการลงทุน (when) 6. การตัดสินใจลงทุน (who)
// สั้น ไม่เกิน 1 ปี @ ทำด้วยตัวเอง
// กลาง 1-3 ปี @ ให้คนอื่นทำแทน
// ยาว 5 -10 ปี @ ใช้ AI หรือ โปรแกรมอัตโนมัติ
// ตลอดไป
ทำ checklist สำรวจความต้องการของตนเองก่อน
ทำ checklist สำรวจบริษัทโบรกเกอร์
ทำ checklist สำรวจมาร์เก็ตติ้ง
ทำ checklist สำรวจความต้องการการใช้บริการ
เลือกที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด
https://www.set.or.th/th/market/information/member-list/main
เข้าไปเช็คข้อมูลกับตลาดหลักทรัพย์