รีวิวประสบการณ์เซ็นสัญญามัดจำกับบริษัทบ้าน ก่อนที่จะออกแบบและประเมินราคาบ้านจริง
50,000 บาทได้อะไรบ้าง
เป็นประสบการณ์ส่วนตัว แต่ก็อยากมาแชร์กับคนที่กำลังจะก่อสร้างบ้าน เผื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ ถ้าใครคิดว่าจะสู้ราคาไม่ไหว ทุกอย่างคือเงินทอง+VAT จะได้ไม่ต้องมาเสียเงินแบบเรา เพราะถามว่าแบบที่ออกแบบมา เอาไปใช้เลยหรือเป็นประโยชน์แบบสูงสุดมั๊ย คำตอบก็คือมันเป็นแค่แบบ file PDF ต้องไปปรับแก้ ยื่นแบบทำกระบวนการใหม่อีกอยู่ดี
ขอเกริ่นก่อน ว่าเป็นการจะสร้างบ้านบนที่ตัวเองที่ กทม. เนื้อที่ประมาณ 50 ตร.ว. ทำบ้านสองชั้น พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. 5 นอน 3 น้ำ 1 นั่งเล่น+กินข้าว
ที่ดูกับบริษัทนี้เพราะว่าเป็นบริษัทใหญ่ แล้วก็มีญาติที่ทำบ้านกับเค้าเพิ่งเสร็จ (ทำดีในแบบราคาสูง)
ตอนแรกได้ราคากับแบบบ้านมาในราคา 3 ล้าน ซึ่งมัดจำ 50,000 บาท (เค้าคิดมัดจำตามพื้นที่ใช้สอย บ้านใหญ่ก็จะแพงขึ้น) ในการดูพื้นที่ เขียนแบบ และประเมินราคาที่ทำจริงสุดท้าย
บ้านเท่าที่ดู จะมีสเปค 3 แบบ ขอเรียกว่า 1,2,3 บ้านที่เราเลือกแบบที่ 3 คือราคาต่ำสุด (โปรโมชั่น) ก็ตามวัสดุที่เค้าให้มา
ถ้าแบบ 1,2 เหมือนจะลดราคาได้อย่างไม่น่าเชื่อ คือลดได้หลายแสน แต่ถ้าแบบ 3 ไม่ลดอะไรเลย มีแต่เพิ่มเท่านั้น
ใครที่จะตัดสินใจห้ามรีบร้อนเด็ดขาด เซลจะเร่งแบบราคานี้มีแค่อีกไม่นานนะคะ อะไรประมาณนี้ ให้ดูแบบให้ถามสเปค ของให้เรียบร้อย แล้วก็ดูคร่าวๆเลยว่าอยากเพิ่มอะไร เอา spec 1,2 มาดูเทียบวัสดุเลย ว่าอยากเปลี่ยนอะไรบ้างแล้วก็ถามราคาคร่าวๆไปก่อน จะได้ดูว่าจะบวกประมาณเท่าไหร่
เราถามเค้าก่อน ว่าเราเปลี่ยนเสาเข็ม เพิ่มไฟ ราคาที่พักคนงานก็ได้ราคาประมาณ 3.3 ล้าน รอบแรกก่อนเซ็น
(ในใจคิดว่าเดี๋ยวเค้าน่าจะลดให้อีก แต่พอเซ็นเสร็จปุ๊ปไม่ได้ต่อไว้ก่อน ก็ได้ความว่าจะเป็นราคานี้แบบไม่มีลด ต้องคุยกับหัวหน้าอีกที T_T)
วันที่เซ็นสัญญามัดจำ
-หลังจากมัดจำนี้จนถึงวันเซ็นสัญญาทำจริง ไม่เกิน 6 เดือน(ที่เค้าจะให้ราคานี้)
- เค้าจะให้เซ็นทุกหน้าของสเปควัสดุก่อสร้างของแบบที่ 3 นี้ ถ้าจะต่อรองวัสดุก็อาจจะต้องคุยตอนนี้เลย แนะนำให้ทุกคนดูอย่างละเอียดเนื่องจากวัสดุก็จะเป็นต่ำจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น
○ เสาเข็มของต้นแบบเรา จะเป็นเสาเข็มตอก ซึ่งเซลก็แจ้งว่าส่วนมากจะต้องเป็นเข็มเจาะ ถ้าเปลี่ยนก็เพิ่ม 200,000+ บาท
○ กระเบื้องปูพื้น 30x30 ราคา ตร.ม. ละ 150 บาท ซึ่งหาได้ยากมากในท้องตลาดและก็มักจะไม่ค่อยสวย แล้วทางบริษัทจะให้เราไปเลือกกระเบื้องเอง ตามที่ที่เค้าคอนเน็คกันไว้ (ซึ่งที่นั้นราคาของค่อนข้างแพง) ถ้าเกินก็จ่ายแยกเอง (รวมถึงสุขภัณฑ์ห้องน้ำด้วย) แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มขนาดอย่างเช่น 60x60 ก็จะต้องปรับราคาทั้งหมด ซึ่งวัสดุที่ปรับ ก็จะเปลี่ยนจาก 3 ไปเป็น 1 เลย กระเบื้องเพิ่มประมาณ 27,000+ ต่อพื้นที่หนึ่งชั้น
○ ไฟอันนี้ค่อนข้างสำคัญ แอร์จะให้ 2 ห้อง ระบบไฟเครื่องทำน้ำอุ่นไม่มี ซึ่งเอาจิงๆอันนี้ตกใจราคาไฟเครื่องทำน้ำอุ่นเพราะ 3 ห้องประมาณ 19,000+
ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ + เผื่อรถ EV ก็ต้องเพิ่มไฟทั้งหมด ก็เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ไฟทุกจุดที่เพิ่มเสียเงินทั้งหมด
ค่าไฟถ้ารวมๆทั้งหมด เพิ่มเฟส, EV, แอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น ทั้งหมด 100,000+
○ ระบบน้ำ มีท่อ แต่ไม่มีปั๊ม ซึ่งปั๊มวางต้องลงเสาด้วย(เพิ่งรู้) + ระบบระบายน้ำ + บ่อพักน้ำใดๆ รวมเพิ่มอีก 60,000+
- ค่าที่คนงานก่อสร้าง ถ้าให้เค้าจัดการประมาณ 1-200,000+ จำราคาไม่ได้ ถ้าเราหาเองได้ก็เป็นที่เปล่าๆ เค้าจะมาสร้างแคมป์พักแรม มีข้อกำหนดว่าต้องอยู่ในระยะเท่าไหร่
○ บันได ที่เค้าให้มา คือเป็นบันไดแบบไม้แผ่นๆ มีร่อง ก้าวพลาดคือขาลงไปได้เลย ถ้าเปลี่ยนโครงสร้างก็เพิ่มอีก 27,000+ เพิ่มห้องเก็บของใต้บันได้ 40,000+
- วันเซ็นมัดจำนี้เค้าให้เราจ่าย 30,000 ก่อนแบบรูดบัตรได้ แต่อีก 20,000 จ่ายทีหลัง ตอนที่เค้าไปสำรวจที่ดิน (แต่รูดบัตรไม่ได้แล้วนะ ไม่ได้แจ้งก่อนว่ารูดไม่ได้ ก็โอนจ่ายสดไป)
**ราคาบางอย่างเราถามเค้าก่อน แต่บางอย่างก็ไม่รู้เลยจนกว่าแบบเสร็จ อย่างเช่น กระเบื้อง หน้าต่าง ไฟคร่าวๆ เสาเข็ม แต่จะรู้ราคาจริงก็ตอนแบบเสร็จแล้ว ซึ่งก็คือเพิ่มมาอีกพอสมควร
พวกวัสดุ เซลก็บอกว่า ถ้าไม่เอายกเลิกสัญญาแนบท้ายไปทำเพิ่มเองได้ เพราะเค้าราคาสูง **แต่ต้องรอส่งมอบบ้านก่อนนะ** อย่างเช่น กระเบื้อง หน้าต่าง (คิดในใจว่าถ้าชั้นไม่เอาหน้าต่าง/ประตู แล้วถ้าฝนตก จะสาดเข้าบ้านที่ทาสีเสร็จไปแล้วมั๊ยนะ)
หลังจากนั้นเค้าก็สำรวจที่ดิน รถเข้าได้มั๊ย แล้วเราก็คุยกับสถาปนิกปรับแบบนู่นนี่ หลังจากสถาปนิกเสร็จก็จะเป็นวิศวกร ร่างแบบก่อสร้างจริง + ออกราคาจริงอีกที
(ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เราแก้แบบน้อยมากๆ)
ข้อคับข้องใจมากก็คือตอนแรกเค้าบอกว่าจะมาสำรวจชั้นพื้นดินด้วยว่าใช้เสาแบบไหนได้ มีเสาตอก เสากด เสาเจาะ แต่เค้าบอกด้วยข้อจำกัดมันเจาะดูไม่ได้ แต่เค้าก็เอาแบบที่เป็นเสาเข็มตอกและราคานั้นให้ ซึ่งก็ไม่เข้าใจในเมื่อบอกว่า กทม. ส่วนมากต้องเจาะ แล้วเรามาลอง search ดูคือมันต้องแก้แบบด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนแค่เสา ต้องคุยกับเค้าแก้แบบให้ เพราะว่าหลังจากนี้ถ้าคุณเซ็น ก็แก้โครงสร้างไม่ได้อีกแล้ว ต้องมาเซ็นสัญญาแนบท้าย แล้วถ้าขึ้นราคาก็อาจจะเราก็จะทำำอะไรไม่ได้อีกรึป่าว ต้องมาปวดหัวอีกมั๊ย
เราเห็นราคาสุดท้ายก็คือ 3.54 ล้าน(วัสดุที่บอกว่าเราจะปรับไปยังไม่ครบ) ก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่ทำกับบริษัทนี้
- หลังจากแบบออกกับราคาที่ให้มาแล้ว เค้าจะยึดราคาวัสดุนี้แค่ 30 วัน (คิดว่าเหมือนให้รีบตัดสินใจ) มีเขียนในสัญญาที่แนบมา แต่ยังไม่ได้เซ็นนะ เค้าก็จะมาเร่งๆ ให้รีบๆดูแบบ แก้แบบมั๊ย เพิ่มลดอะไรรึป่าว
- ขั้นตอนต่อไปถ้าคุณตัดสินใจทำ โดย
เราจะกู้กับธนาคารที่ต้องใช้ใบอนุญาตก่อสร้างก่อน ก็คือคุณต้องจ่ายมัดจำกับบริษัท 10-20% (จ่ายเอง) บริษัทถึงจะไปทำการขออนุญาตก่อสร้างให้ แล้วเราค่อยเอาเอกสารไปยื่นกู้อีกที ซึ่งเค้าก็บอกว่า ถ้ากู้ไม่ได้ เค้าจะคืนเงินมัดจำสัญญานี้ให้ แต่ไม่รู้จะหักอะไรเพิ่มมั๊ยนะ
ทางบริษัทเค้ามียื่นกู้ให้ด้วย แต่ไม่รู้กับธนาคารอะไร ซึ่งอาจจะไม่ต้องจ่ายมัดจำ แต่เราก็ไม่รู้ดอกเบี้ยของธนาคารนั้น
*สรุป 50,000 บาท ผ่านกระบวนการมา 3 เดือน ได้อะไรบ้าง
-ได้สำรวจที่ดินจริง (ไม่ได้สำรวจชั้นดิน) + ออกแบบสถาปนิก + แบบก่อสร้าง ที่มาเป็น file PDF แต่ก็เอาไปยื่นขออนุญาตเลยไม่ได้นะ ต้องแก้แบบใหม่ ทำไฟล์ใหม่ เพราะมีแค่แบบให้ดูเท่านั้น
-รู้ราคาเฉพาะที่เพิ่มลด (+VAT ด้วย) แต่ไม่มี BOQ แยกละเอียด
-ประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับโครงสร้าง น้ำ ไฟ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามันแตกต่างยังไง ต้องดูอะไรเพิ่ม ต้องละเอียดอะไรบ้าง
เหตุผลที่ไม่ทำ
-ราคาที่สูงเมื่อเทียบกับเจ้าที่ไม่ใช่บริษัทใหญ่ ทุกอย่างต้องดูละเอียด เพราะเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วก็รู้สึกบางอย่างมันเหมือนไม่ตรงไปตรงมาอย่างเช่น เรื่องเสาเข็ม เพราะไม่เข้าใจว่าทำไม ไม่ทำเสาเข็มเจาะมาเลย ทำแบบเป็นเสาเข็มตอกทำไม ถ้ารู้ว่ามันสำรวจชั้นดินไม่ได้ เพราะคุณก็เป็นคนบอกเองว่าส่วนมากเสาเข็มเจาะ จะมาให้เซ็นสัญญาแนบท้ายก็แปลว่าเราต้องรอดูหน้างาน (ยังไม่ได้รื้อบ้านเก่า) เราก็อาจไม่ได้ยื่นกู้ไปเลย ต้องจ่ายเงินค่าเสาเพิ่มเอง?
-ของบางอย่าง เซลก็เหมือนบอกไม่รู้ปัดๆรึป่าง เช่น ถ้าเราอยากเพิ่ม สเปคของ ถ้าไม่เอาไปดูราคาทำข้างนอกได้นะ ซึ่งบางอย่างเราก็สงสัยว่ามันได้จิงๆหรอ เช่น เรื่องหน้าต่างคิดจริง เพราะมันไม่มีมุ้งลวด จะเพิ่มก็ 20,000+ ถ้าจะให้เค้ามาตัดตอนทำบ้านอยู่ก็ไม่ได้ ก็ต้องรอส่งมอบบ้านก่อน
แล้วถ้าบ้านเราไม่มีหน้าต่างแบบปูกระเบื้องทาสีไปแล้ว ฝนจะสาดมั๊ย? กระเบื้องถ้าคุณเทปูนไว้ไม่เรียบ เราก็ต้องมาปรับพื้นอีก? มันก็ดูจะวุ่นวายถ้าไม่ได้เหมาไปเลยทีเดียว
-ทุกอย่างไม่รวมอื่นๆที่คุณอาจจะต้องคุยกับรับเหมาเอง หรือต้องจ้างบริษัทอื่นมาทำอีก เช่น รั้วบ้าน พื้นรอบๆบ้าน ประตู
-เรามีบริษัทคนรู้จักกันที่ได้ราคาถูกกว่า แล้วก็ดูตรงไปตรงมามากกว่า
รีวิวบริษัทรับสร้างบ้าน มัดจำ 50,000 บาทได้อะไรบ้าง
50,000 บาทได้อะไรบ้าง
เป็นประสบการณ์ส่วนตัว แต่ก็อยากมาแชร์กับคนที่กำลังจะก่อสร้างบ้าน เผื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ ถ้าใครคิดว่าจะสู้ราคาไม่ไหว ทุกอย่างคือเงินทอง+VAT จะได้ไม่ต้องมาเสียเงินแบบเรา เพราะถามว่าแบบที่ออกแบบมา เอาไปใช้เลยหรือเป็นประโยชน์แบบสูงสุดมั๊ย คำตอบก็คือมันเป็นแค่แบบ file PDF ต้องไปปรับแก้ ยื่นแบบทำกระบวนการใหม่อีกอยู่ดี
ขอเกริ่นก่อน ว่าเป็นการจะสร้างบ้านบนที่ตัวเองที่ กทม. เนื้อที่ประมาณ 50 ตร.ว. ทำบ้านสองชั้น พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. 5 นอน 3 น้ำ 1 นั่งเล่น+กินข้าว
ที่ดูกับบริษัทนี้เพราะว่าเป็นบริษัทใหญ่ แล้วก็มีญาติที่ทำบ้านกับเค้าเพิ่งเสร็จ (ทำดีในแบบราคาสูง)
ตอนแรกได้ราคากับแบบบ้านมาในราคา 3 ล้าน ซึ่งมัดจำ 50,000 บาท (เค้าคิดมัดจำตามพื้นที่ใช้สอย บ้านใหญ่ก็จะแพงขึ้น) ในการดูพื้นที่ เขียนแบบ และประเมินราคาที่ทำจริงสุดท้าย
บ้านเท่าที่ดู จะมีสเปค 3 แบบ ขอเรียกว่า 1,2,3 บ้านที่เราเลือกแบบที่ 3 คือราคาต่ำสุด (โปรโมชั่น) ก็ตามวัสดุที่เค้าให้มา
ถ้าแบบ 1,2 เหมือนจะลดราคาได้อย่างไม่น่าเชื่อ คือลดได้หลายแสน แต่ถ้าแบบ 3 ไม่ลดอะไรเลย มีแต่เพิ่มเท่านั้น
ใครที่จะตัดสินใจห้ามรีบร้อนเด็ดขาด เซลจะเร่งแบบราคานี้มีแค่อีกไม่นานนะคะ อะไรประมาณนี้ ให้ดูแบบให้ถามสเปค ของให้เรียบร้อย แล้วก็ดูคร่าวๆเลยว่าอยากเพิ่มอะไร เอา spec 1,2 มาดูเทียบวัสดุเลย ว่าอยากเปลี่ยนอะไรบ้างแล้วก็ถามราคาคร่าวๆไปก่อน จะได้ดูว่าจะบวกประมาณเท่าไหร่
เราถามเค้าก่อน ว่าเราเปลี่ยนเสาเข็ม เพิ่มไฟ ราคาที่พักคนงานก็ได้ราคาประมาณ 3.3 ล้าน รอบแรกก่อนเซ็น
(ในใจคิดว่าเดี๋ยวเค้าน่าจะลดให้อีก แต่พอเซ็นเสร็จปุ๊ปไม่ได้ต่อไว้ก่อน ก็ได้ความว่าจะเป็นราคานี้แบบไม่มีลด ต้องคุยกับหัวหน้าอีกที T_T)
วันที่เซ็นสัญญามัดจำ
-หลังจากมัดจำนี้จนถึงวันเซ็นสัญญาทำจริง ไม่เกิน 6 เดือน(ที่เค้าจะให้ราคานี้)
- เค้าจะให้เซ็นทุกหน้าของสเปควัสดุก่อสร้างของแบบที่ 3 นี้ ถ้าจะต่อรองวัสดุก็อาจจะต้องคุยตอนนี้เลย แนะนำให้ทุกคนดูอย่างละเอียดเนื่องจากวัสดุก็จะเป็นต่ำจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น
○ เสาเข็มของต้นแบบเรา จะเป็นเสาเข็มตอก ซึ่งเซลก็แจ้งว่าส่วนมากจะต้องเป็นเข็มเจาะ ถ้าเปลี่ยนก็เพิ่ม 200,000+ บาท
○ กระเบื้องปูพื้น 30x30 ราคา ตร.ม. ละ 150 บาท ซึ่งหาได้ยากมากในท้องตลาดและก็มักจะไม่ค่อยสวย แล้วทางบริษัทจะให้เราไปเลือกกระเบื้องเอง ตามที่ที่เค้าคอนเน็คกันไว้ (ซึ่งที่นั้นราคาของค่อนข้างแพง) ถ้าเกินก็จ่ายแยกเอง (รวมถึงสุขภัณฑ์ห้องน้ำด้วย) แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มขนาดอย่างเช่น 60x60 ก็จะต้องปรับราคาทั้งหมด ซึ่งวัสดุที่ปรับ ก็จะเปลี่ยนจาก 3 ไปเป็น 1 เลย กระเบื้องเพิ่มประมาณ 27,000+ ต่อพื้นที่หนึ่งชั้น
○ ไฟอันนี้ค่อนข้างสำคัญ แอร์จะให้ 2 ห้อง ระบบไฟเครื่องทำน้ำอุ่นไม่มี ซึ่งเอาจิงๆอันนี้ตกใจราคาไฟเครื่องทำน้ำอุ่นเพราะ 3 ห้องประมาณ 19,000+
ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ + เผื่อรถ EV ก็ต้องเพิ่มไฟทั้งหมด ก็เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ไฟทุกจุดที่เพิ่มเสียเงินทั้งหมด
ค่าไฟถ้ารวมๆทั้งหมด เพิ่มเฟส, EV, แอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น ทั้งหมด 100,000+
○ ระบบน้ำ มีท่อ แต่ไม่มีปั๊ม ซึ่งปั๊มวางต้องลงเสาด้วย(เพิ่งรู้) + ระบบระบายน้ำ + บ่อพักน้ำใดๆ รวมเพิ่มอีก 60,000+
- ค่าที่คนงานก่อสร้าง ถ้าให้เค้าจัดการประมาณ 1-200,000+ จำราคาไม่ได้ ถ้าเราหาเองได้ก็เป็นที่เปล่าๆ เค้าจะมาสร้างแคมป์พักแรม มีข้อกำหนดว่าต้องอยู่ในระยะเท่าไหร่
○ บันได ที่เค้าให้มา คือเป็นบันไดแบบไม้แผ่นๆ มีร่อง ก้าวพลาดคือขาลงไปได้เลย ถ้าเปลี่ยนโครงสร้างก็เพิ่มอีก 27,000+ เพิ่มห้องเก็บของใต้บันได้ 40,000+
- วันเซ็นมัดจำนี้เค้าให้เราจ่าย 30,000 ก่อนแบบรูดบัตรได้ แต่อีก 20,000 จ่ายทีหลัง ตอนที่เค้าไปสำรวจที่ดิน (แต่รูดบัตรไม่ได้แล้วนะ ไม่ได้แจ้งก่อนว่ารูดไม่ได้ ก็โอนจ่ายสดไป)
**ราคาบางอย่างเราถามเค้าก่อน แต่บางอย่างก็ไม่รู้เลยจนกว่าแบบเสร็จ อย่างเช่น กระเบื้อง หน้าต่าง ไฟคร่าวๆ เสาเข็ม แต่จะรู้ราคาจริงก็ตอนแบบเสร็จแล้ว ซึ่งก็คือเพิ่มมาอีกพอสมควร
พวกวัสดุ เซลก็บอกว่า ถ้าไม่เอายกเลิกสัญญาแนบท้ายไปทำเพิ่มเองได้ เพราะเค้าราคาสูง **แต่ต้องรอส่งมอบบ้านก่อนนะ** อย่างเช่น กระเบื้อง หน้าต่าง (คิดในใจว่าถ้าชั้นไม่เอาหน้าต่าง/ประตู แล้วถ้าฝนตก จะสาดเข้าบ้านที่ทาสีเสร็จไปแล้วมั๊ยนะ)
หลังจากนั้นเค้าก็สำรวจที่ดิน รถเข้าได้มั๊ย แล้วเราก็คุยกับสถาปนิกปรับแบบนู่นนี่ หลังจากสถาปนิกเสร็จก็จะเป็นวิศวกร ร่างแบบก่อสร้างจริง + ออกราคาจริงอีกที
(ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เราแก้แบบน้อยมากๆ)
ข้อคับข้องใจมากก็คือตอนแรกเค้าบอกว่าจะมาสำรวจชั้นพื้นดินด้วยว่าใช้เสาแบบไหนได้ มีเสาตอก เสากด เสาเจาะ แต่เค้าบอกด้วยข้อจำกัดมันเจาะดูไม่ได้ แต่เค้าก็เอาแบบที่เป็นเสาเข็มตอกและราคานั้นให้ ซึ่งก็ไม่เข้าใจในเมื่อบอกว่า กทม. ส่วนมากต้องเจาะ แล้วเรามาลอง search ดูคือมันต้องแก้แบบด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนแค่เสา ต้องคุยกับเค้าแก้แบบให้ เพราะว่าหลังจากนี้ถ้าคุณเซ็น ก็แก้โครงสร้างไม่ได้อีกแล้ว ต้องมาเซ็นสัญญาแนบท้าย แล้วถ้าขึ้นราคาก็อาจจะเราก็จะทำำอะไรไม่ได้อีกรึป่าว ต้องมาปวดหัวอีกมั๊ย
เราเห็นราคาสุดท้ายก็คือ 3.54 ล้าน(วัสดุที่บอกว่าเราจะปรับไปยังไม่ครบ) ก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่ทำกับบริษัทนี้
- หลังจากแบบออกกับราคาที่ให้มาแล้ว เค้าจะยึดราคาวัสดุนี้แค่ 30 วัน (คิดว่าเหมือนให้รีบตัดสินใจ) มีเขียนในสัญญาที่แนบมา แต่ยังไม่ได้เซ็นนะ เค้าก็จะมาเร่งๆ ให้รีบๆดูแบบ แก้แบบมั๊ย เพิ่มลดอะไรรึป่าว
- ขั้นตอนต่อไปถ้าคุณตัดสินใจทำ โดย
เราจะกู้กับธนาคารที่ต้องใช้ใบอนุญาตก่อสร้างก่อน ก็คือคุณต้องจ่ายมัดจำกับบริษัท 10-20% (จ่ายเอง) บริษัทถึงจะไปทำการขออนุญาตก่อสร้างให้ แล้วเราค่อยเอาเอกสารไปยื่นกู้อีกที ซึ่งเค้าก็บอกว่า ถ้ากู้ไม่ได้ เค้าจะคืนเงินมัดจำสัญญานี้ให้ แต่ไม่รู้จะหักอะไรเพิ่มมั๊ยนะ
ทางบริษัทเค้ามียื่นกู้ให้ด้วย แต่ไม่รู้กับธนาคารอะไร ซึ่งอาจจะไม่ต้องจ่ายมัดจำ แต่เราก็ไม่รู้ดอกเบี้ยของธนาคารนั้น
*สรุป 50,000 บาท ผ่านกระบวนการมา 3 เดือน ได้อะไรบ้าง
-ได้สำรวจที่ดินจริง (ไม่ได้สำรวจชั้นดิน) + ออกแบบสถาปนิก + แบบก่อสร้าง ที่มาเป็น file PDF แต่ก็เอาไปยื่นขออนุญาตเลยไม่ได้นะ ต้องแก้แบบใหม่ ทำไฟล์ใหม่ เพราะมีแค่แบบให้ดูเท่านั้น
-รู้ราคาเฉพาะที่เพิ่มลด (+VAT ด้วย) แต่ไม่มี BOQ แยกละเอียด
-ประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับโครงสร้าง น้ำ ไฟ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามันแตกต่างยังไง ต้องดูอะไรเพิ่ม ต้องละเอียดอะไรบ้าง
เหตุผลที่ไม่ทำ
-ราคาที่สูงเมื่อเทียบกับเจ้าที่ไม่ใช่บริษัทใหญ่ ทุกอย่างต้องดูละเอียด เพราะเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วก็รู้สึกบางอย่างมันเหมือนไม่ตรงไปตรงมาอย่างเช่น เรื่องเสาเข็ม เพราะไม่เข้าใจว่าทำไม ไม่ทำเสาเข็มเจาะมาเลย ทำแบบเป็นเสาเข็มตอกทำไม ถ้ารู้ว่ามันสำรวจชั้นดินไม่ได้ เพราะคุณก็เป็นคนบอกเองว่าส่วนมากเสาเข็มเจาะ จะมาให้เซ็นสัญญาแนบท้ายก็แปลว่าเราต้องรอดูหน้างาน (ยังไม่ได้รื้อบ้านเก่า) เราก็อาจไม่ได้ยื่นกู้ไปเลย ต้องจ่ายเงินค่าเสาเพิ่มเอง?
-ของบางอย่าง เซลก็เหมือนบอกไม่รู้ปัดๆรึป่าง เช่น ถ้าเราอยากเพิ่ม สเปคของ ถ้าไม่เอาไปดูราคาทำข้างนอกได้นะ ซึ่งบางอย่างเราก็สงสัยว่ามันได้จิงๆหรอ เช่น เรื่องหน้าต่างคิดจริง เพราะมันไม่มีมุ้งลวด จะเพิ่มก็ 20,000+ ถ้าจะให้เค้ามาตัดตอนทำบ้านอยู่ก็ไม่ได้ ก็ต้องรอส่งมอบบ้านก่อน
แล้วถ้าบ้านเราไม่มีหน้าต่างแบบปูกระเบื้องทาสีไปแล้ว ฝนจะสาดมั๊ย? กระเบื้องถ้าคุณเทปูนไว้ไม่เรียบ เราก็ต้องมาปรับพื้นอีก? มันก็ดูจะวุ่นวายถ้าไม่ได้เหมาไปเลยทีเดียว
-ทุกอย่างไม่รวมอื่นๆที่คุณอาจจะต้องคุยกับรับเหมาเอง หรือต้องจ้างบริษัทอื่นมาทำอีก เช่น รั้วบ้าน พื้นรอบๆบ้าน ประตู
-เรามีบริษัทคนรู้จักกันที่ได้ราคาถูกกว่า แล้วก็ดูตรงไปตรงมามากกว่า