ทัศนคติของการเมาแล้วขับ


***ภาพจากอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่ภาพเหตุการณ์จริง

3-4 วันก่อน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่หน้าบ้าน ช่วงประมาณ ตี 3  ได้ยินเสียงเบรกรถสั้นๆ แล้วก็มีเสียงชนเข้ากับอะไรสักอย่าง  ในใจก็คิดว่า คงจะเป็นเสียงรถยนต์ชนเข้ากับมอเตอร์ไซด์ เพราะเป็นการชนแบบโครม(เบาๆ) แล้วก็หยุดเลย  

แต่ว่ามีเสียงแตรรถดังยาวต่อเนื่องมาไม่หยุด  ก็เลย เอ๊ะ หรือว่า มีใครเป็นอะไร  หรือแตรช๊อตหรืออะไร  
ก็ปล่อยไปไม่ได้สนใจ แล้วก็ไม่คิดจะลุกไปดู เสียเวลานอน

พอเช้ามา ก็เดินไปถามเด็กปั๊มข้างบ้าน ได้ความว่า รถกระบะขับมา (น่าจะ)เสียหลักชนเข้ากับเสาไฟฟ้า  ด้านคนขับ
เสียชีวิตคาที ฟุบทับพวงมาลัย (ที่มาของเสียงแตรไม่หยุดดัง) คนขับน่าจะเมา (สันนิษฐาน)

แล้วทีนี้ มาเมื่อวาน มี พระสงฆ์มา 4 รูปพร้อมกับ ผู้ชายอีกกว่า 10 คน  มาทำพิธี ปักตุง(ธง)แดง ซึ่งเป็นพิธีของทางภาคเหนือ
ตุงล้านนา ประเพณีตานตุง
ตุงที่ใช้ในงานพิธีอวมงคล
          ตุงแดง หรือเรียกว่า ตุงค้างแดง ตุงผีตายโหง จะปักตุงแดงไว้ตรงบริเวณที่ผู้ตายโหงแล้วก่อเจดีย์ทรายกองเล็ก ๆ เท่ากับอายุของผู้ตายไว้ในกรอบสายสิญจน์โดยเชื่อว่าผู้ตายจะได้หมดทุกข์และเป็นการปักสัญลักษณ์เตือนว่าจุดนี้เกิดอุบัติเหตุ

แล้วก็มีการสวดมีการทำพิธีอีกเล็กน้อย ตรงบริเวณเสาไฟฟ้าต้นที่เกิดอุบัติเหตุ เสร็จแล้วพระสงฆ์ก็กลับ
แต่กลุ่มญาติพี่น้องบางคนก็ยังยืนอยู่ตรงจุดนั้น

ผมก็เลยข้ามถนนไป จะเข้าไปคุยด้วย
จนเจอผู้ชาย(ญาติ) คนหนึ่ง ผมก็ถาม  เป็นอะไรพี่ เสียหลักเหรอ (พยายามถามอะไรที่มันซอฟท์ๆไว้ก่อน)
เขาส่ายหัว ยิ้มที่มุมปากนิดๆ แล้วก็บอกว่า " หึ (ส่ายหัว)  เมา...."

ผมก็อึ้ง..... กับการตอบกลับของเขา กับอารมณ์ของเขาและญาติ  แน่นอนมันเกิดความสูญเสีย มันเกิดความเศร้าแน่นอน แต่กับการที่ตอบมาแบบยิ้มๆ(นิดๆ) ว่า "เมา" ผมอึ้งตรงนี้  

ตรงนี้อย่าดราม่ากันเยอะนะ มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผม

ผมอึ้งตรงที่ว่า  คุณรู้ว่าการเมาแล้วขับ มันสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา  คุณรู้ว่ามันมีโอกาสสูญเสียชีวิตได้ตลอดเวลา  เหมือนกับยอมรับในชะตากรรม
ผมเชื่อว่าคุณเสียใจ เศร้าใจ  คุณอาจจะมองว่า เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ แล้ว ชีวิตต้องดำเนินต่อไป อันนี้ผมเข้าใจ ไม่ไปก้าวล่วงความรู้สึกของการสูญเสียในครั้งนี้

แต่ที่ผมอึ้ง ก็เพราะว่า ผมมีความรู้สึกว่า ในสังคมเรา มองเรื่องการ เมาแล้วขับ เป็นเรื่องปกติ  เป็นเรื่องที่ ใครๆก็ทำกัน ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครเลย บอกว่าตัวเองเมา ส่วนใหญ่จะบอกว่า "ม่ายเมาาา"  "ถ้าเมาจะขับกลับได้ไง"   ต้องนู้นแหละ เกิดอุบัติเหตุก่อน จึงจะยอมรับว่า เมา แต่ก็จะแถว่า ดื่มมานิดเดียวเอง

นับหัวได้เลย ที่คนเมาเกิดขับรถเกิดอุบัติเหตุ แล้วออกมายอมรับผิด(อย่างจริงใจ) ว่าตนเองเมา มีน้อยมากๆ

เราอยู่ในสังคมที่มองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องปกติ มันเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ มันมีความเสียหายเกิดขึ้น มันมีการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้น
นอกจากจะสูญเสียชีวิตของคนที่เมาเองแล้ว อาจจะไปกระทบถึงการสูญเสียชีวิตของคนอื่นที่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย

ทำไมเราต้องมายอมรับกับวัฒนธรรมพวกนี้กัน ทำไมเราถึงมองว่าเรื่องการเมาแล้วขับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
เมื่อไรที่ผู้รักษากฏหมาย จะเข้ามาดำเนินการ จริงจังกับปัญหาพวกนี้ เมื่อไรถึงจะมีการปรับโทษเพิ่มโทษให้สูงๆยิ่งขึ้นไป
เมื่อไร ที่เราจะแอนตี้ คนเมาแล้วขับ กัน

ผมอึ้งตรงนี้ ครับ


ย้อนกลับมาที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าหากว่าการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ มีชีวิตของคนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย ต้องมาเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ด้วย ต้องมาสูญเสียชีวิตจากการเมาแล้วขับของคนๆนี้
คุณที่อยู่ในฐานะ ญาติของคนขับที่เมาแล้วขับ ไปชนคนอื่นจนเสียชีวิตด้วย  คุณยังจะยิ้ม(เล็กๆ) แล้วยังจะคิดว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติในสังคมนี้ อยู่อีกหรือเปล่า  คุณสูญเสียชีวิต ญาติของคุณ แล้วคนอื่นต้องมาเสียญาติของตัวเองไป โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย  มันคุ้มมั้ย มันเป็นเรื่องตระหนกมากๆว่า คนส่วนหนึ่งในสังคมไม่ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้เลย

ไม่อยากครับ   ไม่อยากให้มีการเมาแล้วขับครับ  ไม่อยากให้มีการสูญเสียจากการเมาแล้วขับครับ  ความสูญเสียมันไม่คุ้มครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่