สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก
ขอตั้งเป็นกระทู้สั้น ๆ .... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณ 6 โมง เช้าวันนี้เอง ก็คือตื่นมารู้สึกร้อน + เหงื่อแตกไม่ค่อยสบายตัว พอลุกมาก็พบว่าพัดลมตั้งพื้นหมุนเบามาก ตอนแรกนึกว่าพัดลมเสียจึงเปิดไฟในห้องปรากฏไฟก็
สว่างตามปกติ (สว่างเท่าปกติ) แต่พัดลมหมุนช้าจึงปิดพัดลมและลองเอามิเตอร์ไปวัดไฟ .... ปรากฏว่า
วัดได้ประมาณ 130 โวลต์ ก็คือไฟตกนั่นเอง
จากนั้น ผมจึงลองเปิด TV , PC , Router และเปิดไฟทุกดวง ปรากฎว่า ...
🛑 TV ทำงานได้ปกติ
🛑 ไฟสว่างปกติทุกดวง (เป็นหลอด LED Panasonic รุ่น NEO)
🛑 ไฟ LED เพดานหรี่มาก เป็นไฟ LED ราคาถูก no name ของจีน
🛑 PC , Notebook , Router ทำงานปกติ
🛑 แอร์เปิดไม่ติด
และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง "ป๊อก-แป๊ก" มาจากตู้เย็น ผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าไฟที่ตกเหลือ 130 โวลต์นั้นทำให้คอมเพรสเซอร์ตู้เย็น "สตาร์ทไม่ออก" และร้อนจัดจน Thermostat (Overload Protector) ตัดการทำงาน เอามือไปจับคอมเพรสเซอร์ก็ร้อนจี๋ชัดเจน ก็คือไฟน่าจะตกมานานพักหนึ่งแล้ว จนคอมเพรสเซอร์ก็พยายามสตาร์ทแต่สตาร์ทไม่ออกจนร้อนจัด Thermostat ตัดวงจร และเมื่อ Thermostat เย็นก็ต่อวงจรแต่ไฟยังตกอยู่คอมเพรสเซอร์ก็ร้อนจนตัดไปอีก .... วนไปอยู่แบบนั้น (ส่วนพัดลมตั้งพื้นที่หมุนช้านั้นไม่ร้อนกว่าเดิมเลย ดังนั้นผมจึงคิดว่าพวก induction มอเตอร์ขนาดเล็กจะไม่มีผลอะไรเมื่อไฟตกครับแค่หมุนช้าเท่านั้น)
ต่อมาผมก็เดินลงไปข้างล่าง เจอ รปภ.กำลังยืนดูอยู่ที่ห้องปั๊มน้ำ จึงสอบถาม รปภ. ก็บอกว่าไม่รู้ปั้มน้ำตัวไหนมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมา จึงต้องตัดเบรกเกอร์ที่คุมปั๊มทั้งหมด ผมก็ไม่ได้ถามรายละเอียดมากแต่ผมคาดเดาว่าน่าจะเป็นปั๊มน้ำขนาดเล็กที่ protection ไม่ทำงานมอเตอร์ปั้มจึงร้อนจัดจากไฟตก 130 V จนเหม็นไหม้ครับ ส่วนปั๊มน้ำตัวใหญ่ที่เป็นมอเตอร์หลายแรงม้า (ปั้มหอยโข่งสูบน้ำเข้าแท้งน้ำด้านบนคอนโด) อันนั้น protection จะมีครบถ้วนรัดกุมมาก ไม่น่ามีปัญหาอะไรกับไฟตกครับ
ที่มาตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อจะบอกว่า .... เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหลายอย่างปัจจุบันเป็นแหล่งจ่ายไฟแบบ switching เช่น TV เครื่องเสียง Router ตัวชาร์จมือถือ PC/Notebook และหลอด LED ที่มีคุณภาพ (driver ข้างในออกแบบมาดี) รวมถึงแอร์แบบ Inverter .... ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มัน
ทำงานได้ปกติตั้งแต่ 100 - 240 โวลต์ครับ ดังนั้น ท่านจึงไม่มีโอกาสรู้เลยว่า
ขณะนั้นไฟตกอยู่ ปัญหาก็คือตู้เย็น และ ปั้มน้ำแบบดั้งเดิมที่ไม่มีระบบป้องกัน (ก็คือไม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์) คอมเพรสเซอร์จะสตาร์ทไม่ออกและจะร้อน ส่วนปั๊มน้ำมอเตอร์ก็จะไม่หมุนและจะร้อนเช่นกัน
แต่ คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นทุกรุ่น
จะมีระบบป้องกันส่วนนี้อยู่แล้ว คือมี Thermostat อยู่ข้างในครับ มันจะทำงานตัดวงจรที่อุณหภูมิประมาณ 105 ℃ ส่วนบ้านปั๊มน้ำแบบธรรมดา (ปั้มอัตโนมัติ 200 - 400 วัตต์) น่าจะมีปัญหามอเตอร์ไม่หมุนทำให้มอเตอร์ร้อนจัดได้ แต่พวกปั๊มน้ำอัตโนมัติตามบ้านมอเตอร์ของมันก็จะมี protection เช่นกันครับ จึงไม่เสียหายจากการ "ไหม้"
ดังนั้น บ้านท่านใดที่ไฟตกบ่อยก็ระมัดระวังเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างด้วย เช่น ปั้มน้ำ , ตู้เย็น , แอร์รุ่นเก่า เพื่อระบบ protections ของมันไม่ทำงานครับ และมันจะ "ไหม้"
เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยนี้หลายอย่าง เมื่อ "ไฟตก" ก็จะไม่รู้เลยว่าไฟตกครับ
ขอตั้งเป็นกระทู้สั้น ๆ .... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณ 6 โมง เช้าวันนี้เอง ก็คือตื่นมารู้สึกร้อน + เหงื่อแตกไม่ค่อยสบายตัว พอลุกมาก็พบว่าพัดลมตั้งพื้นหมุนเบามาก ตอนแรกนึกว่าพัดลมเสียจึงเปิดไฟในห้องปรากฏไฟก็สว่างตามปกติ (สว่างเท่าปกติ) แต่พัดลมหมุนช้าจึงปิดพัดลมและลองเอามิเตอร์ไปวัดไฟ .... ปรากฏว่าวัดได้ประมาณ 130 โวลต์ ก็คือไฟตกนั่นเอง
จากนั้น ผมจึงลองเปิด TV , PC , Router และเปิดไฟทุกดวง ปรากฎว่า ...
🛑 TV ทำงานได้ปกติ
🛑 ไฟสว่างปกติทุกดวง (เป็นหลอด LED Panasonic รุ่น NEO)
🛑 ไฟ LED เพดานหรี่มาก เป็นไฟ LED ราคาถูก no name ของจีน
🛑 PC , Notebook , Router ทำงานปกติ
🛑 แอร์เปิดไม่ติด
และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง "ป๊อก-แป๊ก" มาจากตู้เย็น ผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าไฟที่ตกเหลือ 130 โวลต์นั้นทำให้คอมเพรสเซอร์ตู้เย็น "สตาร์ทไม่ออก" และร้อนจัดจน Thermostat (Overload Protector) ตัดการทำงาน เอามือไปจับคอมเพรสเซอร์ก็ร้อนจี๋ชัดเจน ก็คือไฟน่าจะตกมานานพักหนึ่งแล้ว จนคอมเพรสเซอร์ก็พยายามสตาร์ทแต่สตาร์ทไม่ออกจนร้อนจัด Thermostat ตัดวงจร และเมื่อ Thermostat เย็นก็ต่อวงจรแต่ไฟยังตกอยู่คอมเพรสเซอร์ก็ร้อนจนตัดไปอีก .... วนไปอยู่แบบนั้น (ส่วนพัดลมตั้งพื้นที่หมุนช้านั้นไม่ร้อนกว่าเดิมเลย ดังนั้นผมจึงคิดว่าพวก induction มอเตอร์ขนาดเล็กจะไม่มีผลอะไรเมื่อไฟตกครับแค่หมุนช้าเท่านั้น)
ต่อมาผมก็เดินลงไปข้างล่าง เจอ รปภ.กำลังยืนดูอยู่ที่ห้องปั๊มน้ำ จึงสอบถาม รปภ. ก็บอกว่าไม่รู้ปั้มน้ำตัวไหนมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมา จึงต้องตัดเบรกเกอร์ที่คุมปั๊มทั้งหมด ผมก็ไม่ได้ถามรายละเอียดมากแต่ผมคาดเดาว่าน่าจะเป็นปั๊มน้ำขนาดเล็กที่ protection ไม่ทำงานมอเตอร์ปั้มจึงร้อนจัดจากไฟตก 130 V จนเหม็นไหม้ครับ ส่วนปั๊มน้ำตัวใหญ่ที่เป็นมอเตอร์หลายแรงม้า (ปั้มหอยโข่งสูบน้ำเข้าแท้งน้ำด้านบนคอนโด) อันนั้น protection จะมีครบถ้วนรัดกุมมาก ไม่น่ามีปัญหาอะไรกับไฟตกครับ
ที่มาตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อจะบอกว่า .... เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหลายอย่างปัจจุบันเป็นแหล่งจ่ายไฟแบบ switching เช่น TV เครื่องเสียง Router ตัวชาร์จมือถือ PC/Notebook และหลอด LED ที่มีคุณภาพ (driver ข้างในออกแบบมาดี) รวมถึงแอร์แบบ Inverter .... ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มันทำงานได้ปกติตั้งแต่ 100 - 240 โวลต์ครับ ดังนั้น ท่านจึงไม่มีโอกาสรู้เลยว่าขณะนั้นไฟตกอยู่ ปัญหาก็คือตู้เย็น และ ปั้มน้ำแบบดั้งเดิมที่ไม่มีระบบป้องกัน (ก็คือไม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์) คอมเพรสเซอร์จะสตาร์ทไม่ออกและจะร้อน ส่วนปั๊มน้ำมอเตอร์ก็จะไม่หมุนและจะร้อนเช่นกัน
ดังนั้น บ้านท่านใดที่ไฟตกบ่อยก็ระมัดระวังเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างด้วย เช่น ปั้มน้ำ , ตู้เย็น , แอร์รุ่นเก่า เพื่อระบบ protections ของมันไม่ทำงานครับ และมันจะ "ไหม้"