[CR] เที่ยวตัวเมืองราชบุรี...เมืองพระราชา


          เพลงที่มีชื่อจังหวัดอยู่ในเพลงมีอะไรบ้างนะ เพลงที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดน่าจะเป็น “หนุ่มนาข้าว สาวนาเกลือ” ที่พูดถึงสุรินท์กับสมุทรสาคร...กรุงเทพฯก็มีเพลง “กรุงเทพมหานคร” ของอัสนี วสันต์ ที่ช่วยได้มากตอนคุณครูให้ท่องชื่อเต็มของเมืองหลวงประเทศไทย

          แล้วจังหวัดราชบุรีมีเพลงที่พูดถึงบ้างมั้ยนะ ที่จำได้ตั้งแต่เด็กก็ดันเป็นเพลงร้องเล่นๆที่ร้องว่า “รถไฟจะไปโคราช ตดดังป๊าดถึงราชบุรี ตดอีกทีถึงบริษัท...” ไม่น่าจะนับได้มั้ง

          จังหวัดราชบุรีใม่ใช่จังหวัดทางผ่านที่ไม่ค่อยมีแหล่งท่องเที่ยว คนส่วนใหญ่น่าจะไปเที่ยวอำเภอสวนผึ้งเป็นหลัก ตลาดโอ๊ะป่อย ก็กำลังฮิต ที่เที่ยวทางธรรมชาติอย่างเขากระโจมก็ได้รับความนิยม...แต่ตัวอำเภอเมืองราชบุรีกลับไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวมากนัก หรือไม่มีอะไรให้เที่ยว...ไม่ไปดูให้เห็นกับตาก็คงไม่รู้จริงมั้ย


          ทุกจังหวัดมีประวัติศาสตร์เสมอ และการเรียนรู้ก็ทำให้ผมเข้าใจจังหวัดนั้นๆได้ดีขึ้น ราชบุรีเองก็มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยยุคหิน...แต่หลักฐานที่เห็นได้ด้วยตาเริ่มต้นที่นี่ “คูบัว”




          “เมืองโบราณคูบัว” โดยเฉพาะโบราณสถานที่วัดโขลงสุวรรณคีรีเป็นโบราณสถานที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโบราณคูบัว จากที่เห็นบอกไม่ได้เลยว่าสิ่งก่อสร้างนี้เคยเป็นอะไรมาก่อน จากประวัติที่อ่านมาคาดว่าน่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนา สันนิษฐานว่าสถาปัตยกรรมในเมืองโบราณคูบัวได้รับอิทธิพลจากช่างสมัยราชวงศ์คุปตะ ประเทศอินเดีย


          โบราณสถานที่วัดโขลงสุวรรณคีรีนี่ขนาดใหญ่พอสมควรครับ ขนาดประมาณ 22 x 43 เมตร สันนิษฐานว่าเมืองโบราณคูบัวน่าจะเจริญรุ่งเรืองในช่วงพุทธศตวรรษที่ 11-16 ยุคทวาราวดี


          ห่างจากโบราณสถานที่วัดโขลงสุวรรณคีรีประมาณ 1 กม. ตรงข้ามสถานีอนามัยมีโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งไม่ใหญ่โตนัก ป้ายเลือนรางไม่เห็นรายละเอียดว่าที่นี่คืออะไร มีไว้ทำอะไร เป็นเพียงกองอิฐกองหนึ่ง...หันซ้ายหันขวาก็ไม่มีใครให้ถามด้วย ดูอยู่ไม่ถึงห้านาที ไปเถอะ


          เมื่อมีเมืองโบราณก็น่าจะต้องมีวัดที่เก่าพอๆกัน...และแน่นอนว่า “มี” ชื่อวัดมหาธาตุวรวิหาร ทั้งประเทศไทยมีวัดที่มีคำว่า “มหาธาตุ” อยู่ในชื่อมากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ กรุงเทพฯ อยุธยา เพชรบุรี ก็มี “วัดมหาธาตุวรวิหาร”ที่ราชบุรีซึ่งตามข้อมูลที่หามาได้ วัดมหาธาตุ มักจะหมายถึงวัดที่มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในพระสถูปเจดีย์หรือพระปรางค์ของวัด





          วัดมหาธาตุวรวิหาร ราชบุรี เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานและมีการก่อสร้าง ต่อเติม ปรับเปลี่ยนหลายครั้ง เอาตั้งแต่สร้างก่อน วัดนี้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยทวาราวดี(พุทธศตวรรษที่ 13) ต่อมาสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 วัฒนธรรมเขมรแพร่เข้ามาถึงราชบุรี มีการสร้างพระปรางค์องค์กลางและกำแพงศิลาแลงล้อมรอบเพื่อให้เหมือนเป็นศูนย์กลางจักรวาลตามความเชื่อของเขมร



          สมัยอยุธยาตอนต้น(พุทธศตวรรษที่ 20-21) ก็สร้างพระปรางค์ศิลปะแบบอยุธยาครอบพระปรางค์เดิม และสร้างปรางค์บริวารเพิ่มด้านข้างและด้านหลัง ใครชอบดูร่องรอยทางประวัติศาสตร์น่าจะเพลินทีเดียว มานั่งดูว่าอะไรสร้างขึ้นช่วงไหนบ้าง ศิลปะและสถาปัตยกรรมต่างกันอย่างไร




          ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูป 2 องค์นั่งหันหลังให้กัน ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนและเท่าที่หาข้อมูลดูจะเป็นวัดเดียวที่มีพระนั่งหันหลังให้กันแบบนี้

          ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา...มีเมฆมากแถววัด เง้อออ...ข้อมูลจากกรมศิลปากรบอกว่า วัดมหาธาตุมีวิหารอยู่ห้าหลัง เป็นวิหารหลวงหนึ่งหลังและวิหารรายสี่หลัง วิหารหลวงวางตามแนวตะวันออก-ตะวันตก วิหารรายสองหลังวางแนวเดียวกัน ส่วนอีกสองหลังวางแนวเหนือ-ใต้

          พระพุทธรูปทั้งหมดที่ประดิษฐานในวิหารหลวงและวิหารรายเป็นศิลปะแบบอยุธยาและเป็นพระพุทธรูปที่ย้ายมาจากวัดร้างที่อยู่ใกล้เคียง วิหารหลวงประดิษฐานหลวงพ่อมงคลบุรีและพระศรีนคร์ ส่วนสาเหตุที่พระนั่งหันหลังให้กันไม่ปรากฎสาเหตุแน่ชัดแต่คาดว่าเพื่อปกปักรักษา ป้องกันบ้านเมืองทั้งสี่ทิศ เพราะช่วงนั้นเกิดศึกสงครามบ่อยครั้ง


          ไม่ไกลจากวัดมหาธาตุวรวิหารมากนัก มีแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ดีที่สุดนั่นคือพิพิธภัณฑ์ อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีหาไม่ยาก อยู่ริมถนนวรเดชหรือถนนที่เลียบแม่น้ำแม่กลอง ไม่ไกลจากวัดช่องลมมากนัก ตัวอาคารเป็นศาลากลางจังหวัดหลังเก่าของจังหวัดราชุบรี



          อาคารนี้เดิมชื่อ “ศาลารัฐบาลมณฑลราชบุรี” สร้างขึ้นปีพ.ศ.2465 พอปีพ.ศ.2476 ก็เปลี่ยนจากศาลารัฐบาลมณฑลเป็นศาลากลางจังหวัดแล้วก็ใช้งานมาเรื่อยจนกระทั่งปีพ.ศ.2524ก็ย้ายไปที่ไหม่ อาคารหลังเดิมนำมาปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปีพ.ศ.2529 และเปิดให้เข้าชมได้ในปีพ.ศ.2534 จนถึงตอนนี้อาคารนี้ก็เลยอายุร้อยปีไปแล้ว

          อาคารศาลากลางหลังเดิมเป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูนยกพื้นสูงสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่เป็นที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 5-6 หลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องว่าว อาคารเป็นทรงสี่เหลี่ยมเว้นพื้นที่ตรงกลางเป็นสวน





          การจัดแสดงภายในแบ่งเป็นห้องๆ ทั้งหมดไม่มีเครื่องปรับอากาศหากไปเดินที่นี่ในวันอากาศร้อน(แบบวันนี้)ก็จะไม่สบายเนื้อสบายตัวสักเท่าไหร่





          การจัดวางและการจัดแสดงมีลักษณะคล้ายๆกับพิพิธภัณฑ์ในหลายๆจังหวัดคือวางของไว้แล้วก็แปะข้อมูลไว้ให้อ่าน ซึ่งข้อมูลบางอย่างค่อนข้างเยอะบางห้องข้อมูลเยอะเต็มกระดาน มันทำให้การอ่านการเรียนรู้ต้องใช้เวลา พอบวกกับอากาศร้อนๆเลยพาลไม่อยากอ่านเอา...ไปเช็คอินโรงแรมแล้วไปนอนตากแอร์ดีกว่า


          ในตัวเมืองราชบุรีมีโรงแรมให้เลือกหลายแห่ง ก่อนหน้านี้เคยไปพักที่โรงแรมชื่อ “ณ เวลา” ก็ไม่เลวทีเดียว แต่ที่ “โรงแรมนภา” ที่คราวนี้ผมพักจะอยู่ในตัวเมือง สะดวกต่อการเดินทางไปเที่ยวในตัวเมืองมากๆ



          โรงแรมอยู่ตรงสนามกีฬาจังหวัดราชบุรี กลางเมืองสุดๆแต่ช่วงเย็นๆแถวๆนี้รถติดอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะเส้นหน้าโรงพยาบาล ที่โรงแรมมีที่จอดรถอยู่ 2 จุดใหญ่ๆด้านข้างอาคารน่าจะจอดได้ประมาณ 10 คัน ด้านหลังอาคารอีกประมาณ 5-6 คัน




          ห้องพักแบบ “มาตรฐาน” สุดๆ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วนตามมาตรฐานของห้องพักระดับนี้(ตอนที่ไปพักราคาคืนละพันกลางๆ) ขนาดห้องใหญ่ดีครับ แอร์เย็นทั่วถึง ทีวีเล็กไปหน่อยเวลานอนดูที่เตียงมันเล็กไปหน่อย ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วนดีครับ...เก็บของเรียบร้อย...ท้องร้อง “จ๊อกกก” ลั่นห้อง หิวข้าวแล้วสิ


          ทานข้าวเที่ยงที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม” เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่คู่จังหวัดราชบุรีมากว่า 60 ปีแล้ว ร้านอยู่แยกคูบัว ติดกับโรงพยาบาลมหาชัยพร้อมแพทย์ จอดรถริมถนนซึ่งก็ต้องใช้แต้มบุญกันพอสมควร ซึ่งวันนั้นผมแต้มบุญดีมาก วนรอบเดียวได้จอดหน้าร้านเลย (ขิงซะหน่อย)





          ร้านเป็นแบบเปิดโล่ง หน้าร้านมีที่ขายของกินกระจุกกระจิกเช่น กล้วยไม่น่ารัก...อะไร...กล้วยกวน เข้าไปนั่งแล้วสั่งอาหารดีกว่าครับ






          อาหารที่นี่มีให้เลือกสามแบบ “ทานจริง” “ทานเล่น” แล้วก็ “เครื่องดื่ม” ผมก็เลยเลือกสั่งก๋วยเตี๋ยวสำหรับทานจริง และ หมูสะเต๊ะสำหรับทานเล่น ส่วนเครื่องดื่มเก๊กฮวยแล้วกัน

          ก๋วยเตี๋ยวเส้นไข่คือเอาไข่มาตัดเป็นเส้นใส่เพิ่มเข้าไปในชามก๋วยเตี๋ยวซึ่งก็ทำให้ได้เนื้อสัมผัสแบบไข่ๆกับกลิ่นไข่เพิ่มเข้ามา รสชาติน้ำต้มยำหวานนำนิดหน่อยแต่ก็มีความเปรี้ยวเค็มแบบต้มยำ สำหรับผมทานได้แต่ไม่ถึงกับถูกปากมากนัก เครื่องต่างๆที่ใส่มาด้วยเยอะดีครับ ทานหมดชามก็อิ่มอยู่

          ของทานเล่นอย่างหมูสะเต๊ะ หมูชิ้นใหญ่ใช้ได้นุ่มกำลังดี น้ำจิ้มค่อนข้างข้นแน่นอนว่าหวานนำและมีความหอมมันของถั่ว ทานเล่นแต่จริงๆก็อิ่มอยู่นะครับ...อ้อ ไอศครีมก็ไม่เลวนะครับหอมกะทิดี

ผลงานของผมในช่องทางอื่นๆ
Facebook:  https://www.facebook.com/followmeonearth/
Website: www.Pratuneung.com
Lemon8 Application: @Pratuneung
Blockdit page: Followmeonearth
Blockdit page: Story Behind
ชื่อสินค้า:   จังหวัดราชบุรี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่