กลิ่นความรัก ฮอร์โมน ฟีโรโมน และเคมีของการตกหลุมรัก

ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของหัวใจที่เต้นรัวหรือความรู้สึกที่ลึกซึ้ง แต่เป็นเรื่องของเคมีที่ซับซ้อนภายในร่างกายของเราเอง ตั้งแต่กลิ่นกายที่ดึงดูดใจไปจนถึงสารสื่อประสาทที่หลั่งออกมาเมื่อเราตกหลุมรัก ทุกสิ่งล้วนมีกลไกทางวิทยาศาสตร์รองรับ ลองมาเจาะลึกถึงเบื้องหลังของ "กลิ่นความรัก" ที่ว่านี้กัน



สวัสดีทุกคน สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Pantip วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องสุดโรแมนติกที่ทั้งลึกซึ้งและมีกลิ่นหอมหวาน กับเรื่องที่ชื่อว่า “กลิ่นความรัก ฮอร์โมน ฟีโรโมน และเคมีของการตกหลุมรัก” แค่ชื่อก็รู้สึกจั๊กจี้หัวใจแล้วใช่ไหมล่ะ ซึ่งมันทั้งน่าสนใจและเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง ทั้งด้านชีววิทยา จิตวิทยา และปรัชญาแห่งความรักเลยนะ

loveกลิ่นความรัก สะพานลับที่เชื่อมใจ
สมมติเราเดินผ่านใครสักคน แล้วจู่ ๆ มีกลิ่นหอม ๆ ลอยมาเตะจมูก ใจเต้นตึกตัก นั่นแหละคือพลังของ กลิ่นความรัก ที่บทความนี้พูดถึง กลิ่นมันเหมือน สะพานลับ ที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนเข้าด้วยกัน โดยที่บางทีเราก็ไม่รู้ตัวเลย กลิ่นมันไม่ได้แค่หอมหรือเหม็นเฉย ๆ นะ มันมีพลังในการ ดึงดูด และ กระตุ้นความรู้สึก ในระดับที่ลึกมาก ๆ ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยว่า อ้าว ทำไมเราถึงรู้สึกแบบนี้?

พ่นน้ำหมากกลิ่นตัวแต่ละคน เปรียบเสมือน ลายนิ้วมือแห่งกลิ่นตัว
ทุกคนมี กลิ่นตัว ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนลายนิ้วมือเลย กลิ่นตัวของเราจะขึ้นอยู่กับหลายอย่างเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น
- พันธุกรรม  ดีเอ็นเอของเรานี่แหละที่กำหนดว่าเราจะมีกลิ่นตัวแบบไหน
- ไลฟ์สไตล์ เช่น ออกกำลังกายบ่อยมั้ย? นอนหลับดีรึเปล่า?
- โภชนาการ กินอะไรก็มีผล เช่น ถ้ากินกระเทียมเยอะ กลิ่นตัวก็อาจจะฉุนนิดนึง
- สุขภาพ ถ้าสุขภาพดี กลิ่นตัวก็จะยิ่งน่าดึงดูด

ที่สำคัญ กลิ่นตัวของเราจะไป กระตุ้นสมอง ของคนอื่นในแบบที่เราไม่รู้ตัวเลยล่ะ

รักคุณกลิ่นเชื่อมโยงกับสมองส่วนอารมณ์
มาถึงส่วนที่แบบ วิทยาศาสตร์สุด ๆ กลิ่นมันไม่ได้แค่ลอยมาแล้วหายไปนะ มันจะวิ่งตรงไปยัง สมองส่วนอารมณ์ หรือที่เรียกว่า Limbic System ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุม ความรู้สึก และ ความทรงจำ ของเรา นี่คือเหตุผลว่าทำไมเวลาได้กลิ่นอะไรบางอย่าง เช่น กลิ่นน้ำหอมของแฟนเก่า หรือกลิ่นอาหารที่แม่ทำตอนเด็ก ๆ เราถึงรู้สึกใจหายวูบ หรือนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ได้ทันที กลิ่นมันเหมือนเครื่องย้อนเวลาเลยเนาะ

รักคุณกลิ่นที่ทำให้ใจเต้น วานิลลากับมัสก์
กลิ่นบางอย่างมันมีพลังในการ ปลุกเร้าความรู้สึก และสร้าง บรรยากาศโรแมนติก ได้ด้วย เช่น
- กลิ่นวานิลลา  กลิ่นหวานนวล ๆ ที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมือนอยู่ในอ้อมกอด
- กลิ่นมัสก์ กลิ่นที่เซ็กซี่หน่อย ๆ ลึกลับนิด ๆ ทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกว้าว

เพื่อน ๆ ลองนึกภาพตาม ถ้าเราไปเดท แล้วได้กลิ่นวานิลลาลอยมา โอ้โห มันเหมือนมีมนต์สะกดให้ใจเต้นตึกตักเลยล่ะ

exclaimวัฒนธรรมกับกลิ่น กลิ่นควันไฟคือความงาม
ในบางวัฒนธรรม กลิ่นมันไม่ใช่แค่เรื่องความหอม แต่เป็น เครื่องมือในการเลือกคู่ เลย ตัวอย่างเช่น
ชาวฮิมบาในแอฟริกา เขาใช้ กลิ่นควันไฟ เป็นสัญลักษณ์ของความงาม ฟังไม่ผิดนะ กลิ่นควันไฟสำหรับเขาคือสิ่งที่เซ็กซี่และดึงดูดใจ

มันทำให้เห็นเลยว่า กลิ่นมันไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่มันฝังรากอยู่ใน วัฒนธรรม และ ความเชื่อ ของแต่ละที่ด้วย เพื่อน ๆ คิดว่าถ้าในไทยเราจะมีกลิ่นอะไรที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักบ้าง? กลิ่นข้าวเหนียวมะม่วงรึเปล่าน้า?

loveร่างกายเรากลายเป็นโรงงานเคมีแห่งรัก  “ฮอร์โมนแห่งรัก เคมีที่สร้างแรงดึงดูด”
เพื่อน ๆ เคยรู้สึกมั้ยว่าเวลาตกหลุมรักเนี่ย มันเหมือนมีผีเสื้อบินวนในท้อง หรือใจเต้นตึกตักจนนอนไม่หลับ? นั่นแหละ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกเฉย ๆ นะ ร่างกายของเรากำลัง ผลิตฮอร์โมน ออกมาแบบโรงงานเคมีขนาดย่อมเลย  เมื่อเราตกหลุมรัก ร่างกายจะหลั่ง ฮอร์โมน หลายตัวที่ทำให้เรารู้สึกฟิน ใจเต้น และบางทีก็ทำตัวแปลก ๆ (เช่น ส่งข้อความไปหาคนที่แอบชอบตอนตีสอง) เราจะมาดูกันว่า ฮอร์โมนตัวไหนทำอะไรบ้าง และมันเปลี่ยนเราให้กลายเป็นคนคลั่งรักได้ยังไง

ทูตกุหลาบฮอร์โมนตัวที่ 1 โดพามีน (Dopamine) – ความฟินสุดขีด
โดพามีน หรือที่ผมขอเรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความฟิน ตัวนี้คือตัวการที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น ใจสั่น เหมือนนั่งรถไฟเหาะทุกครั้งที่เจอคนที่ชอบ

มันทำงานยังไง?
โดพามีนจะหลั่งออกมาในช่วงที่เรา รู้สึกสนุก หรือ ตื่นเต้น เช่น ตอนจีบกันใหม่ ๆ ได้คุยกับคนที่แอบชอบ หรือตอนที่เขาแอบยิ้มให้ มันเหมือนร่างกายบอกว่า “ว้าววว สิ่งนี้ดีต่อใจ” ลองนึกตอนที่เราได้เดทครั้งแรก หรือตอนที่ได้รับข้อความว่า “คิดถึงนะ” โอ้โห โดพามีนพุ่งปรี๊ดเลย

ตัวอย่างในชีวิตจริง
เพื่อน ๆ เคยรู้สึกแบบใจเต้นตึกตักตอนได้เจอคนที่ชอบมั้ย? นั่นแหละ โดพามีนทำงาน มันเหมือนยาเสพติดธรรมชาติที่ทำให้เราอยากเจอเขาบ่อย ๆ อยากคุยด้วยตลอดเวลา

ทูตกุหลาบฮอร์โมนตัวที่ 2 ออกซิโทซิน (Oxytocin) – ตัวเชื่อมใจ
ออกซิโทซิน หรือที่เรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน ตัวนี้คือตัวที่ทำให้เรารู้สึกอยากใกล้ชิด อยากกอด อยากจูบคนที่รัก

มันทำงานยังไง?
ออกซิโทซินจะหลั่งออกมาเมื่อมีการ สัมผัสทางกายภาพ เช่น กอด จูบ หรือแม้แต่จับมือ มันทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และผูกพันกับอีกฝ่ายมากขึ้น เปรียบเหมือนกาวที่ยึดหัวใจของสองคนไว้ด้วยกัน

ตัวอย่างในชีวิตจริง
ลองนึกถึงตอนที่กอดแฟน หรือตอนที่ได้จับมือกันครั้งแรก มันเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า “คนนี้แหละ ที่พิเศษ” ออกซิโทซินนี่แหละที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง

ทูตกุหลาบฮอร์โมนตัวที่ 3 เซโรโทนิน (Serotonin) – ความสงบที่ทำให้คลั่งรัก
เซโรโทนิน หรือ ฮอร์โมนแห่งความสงบ แต่ในช่วงที่เราตกหลุมรัก เซโรโทนินมันอาจจะ ลดลง ทำให้เราคิดถึงคนนั้นตลอดเวลา

มันทำงานยังไง?
ปกติเซโรโทนินช่วยให้เราสงบและควบคุมตัวเองได้ดี แต่พอเราตกหลุมรัก ระดับมันอาจจะดรอปลง ทำให้เราเหมือนคนเสียสติ คิดถึงเขาทุกนาที อยากส่งข้อความหาตลอดเวลา หรือบางทีก็แอบเช็กโซเชียลมีเดียของเขาทั้งวัน

ตัวอย่างในชีวิตจริง
เพื่อน ๆ เคยรู้สึกแบบ ทำไมฉันถึงหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย? นั่นแหละ เซโรโทนินกำลังเล่นตลกกับเรา มันทำให้เราคลั่งรักจนบางทีก็ลืมตัวเองไปเลย

ทูตกุหลาบฮอร์โมนตัวที่ 4 เทสโทสเตอโรน / เอสโตรเจน – แรงปรารถนาสุดร้อนแรง
ปิดท้ายด้วย เทสโทสเตอโรน และ เอสโตรเจน หรือที่ผมขอเรียกว่า ฮอร์โมนแห่งไฟรัก ตัวนี้คือตัวที่ทำให้เรารู้สึกอยากใกล้ชิดในแบบที่...เอ่อ...ลึกซึ้งหน่อย

มันทำงานยังไง?
เทสโทสเตอโรน (ในผู้ชาย) และเอสโตรเจน (ในผู้หญิง) จะ กระตุ้นความต้องการทางเพศ และทำให้เกิดแรงดึงดูดในระดับกายภาพ มันเหมือนสวิตช์ที่เปิดไฟให้ใจเราเต้นแรงเมื่อเจอคนที่ใช่

ตัวอย่างในชีวิตจริง
เคยรู้สึกมั้ยว่าเห็นคนที่ชอบแล้วมันมีพลังงานบางอย่างที่ทำให้อยากเข้าไปใกล้ ๆ? นั่นแหละ ฮอร์โมนตัวนี้กำลังทำงาน! มันทำให้เรารู้สึกว่า “คนนี้แซ่บจัง”

จู๊บ รักคือเคมีสุดมหัศจรรย์
ความรักมันเหมือน ค็อกเทลเคมี ที่ร่างกายเราผสมขึ้นมาเอง
โดพามีน ทำให้เราฟินและตื่นเต้น  
ออกซิโทซิน ทำให้เราอยากกอด อยากผูกพัน  
เซโรโทนิน ทำให้เราคลั่งรักจนหยุดคิดถึงเขาไม่ได้  
เทสโทสเตอโรน/เอสโตรเจน จุดไฟให้ใจร้อนแรง

ทั้งหมดนี้รวมกันกลายเป็นพลังแห่งรักที่ทำให้เราทำอะไรแปลก ๆ แต่ก็ฟินสุด ๆ ไปเลย เพื่อน ๆ ล่ะ เคยรู้สึกถึงพลังของฮอร์โมนตัวไหนชัดสุด?

loveฟีโรโมน กลิ่นไร้กลิ่นที่สื่อสารผ่านอากาศ
กลิ่นที่มองไม่เห็น สมมติเราเดินผ่านใครสักคน แล้วจู่ ๆ รู้สึกใจเต้นตึกตัก โดยที่เขาไม่ได้ฉีดน้ำหอมอะไรเลย นั่นอาจจะเป็นพลังของ ฟีโรโมน มันคือ สารเคมีลับ ที่ร่างกายเราปล่อยออกมาแบบไม่มีสี ไม่มีกลิ่นที่เราจะรับรู้ได้ด้วยจมูกแบบปกติ แต่! มันมีพลังในการ ส่งผลต่อพฤติกรรม ของคนอื่นได้

มันเหมือน ข้อความลับ ที่ร่างกายเราส่งผ่านอากาศไปถึงคนอื่น โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย เหมือนมีมนต์สะกดที่ทำให้คนรู้สึกดึงดูดโดยไม่รู้ว่าทำไม

แผลงศรฟีโรโมนในสัตว์ แชทลับแห่งธรรมชาติ
ก่อนจะไปถึงมนุษย์ เรามาดูในโลกของสัตว์กันก่อน ในสัตว์ ฟีโรโมนคือ เครื่องมือสุดเจ๋ง ที่ช่วยในเรื่อง
- การเลือกคู่ เช่น น้องผีเสื้อตัวเมียปล่อยฟีโรโมนออกมาเพื่อบอกตัวผู้ว่า “ฉันพร้อมแล้วนะ”

- บ่งบอกช่วงเจริญพันธุ์ ฟีโรโมนจะบอกว่าตอนนี้เป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการสืบพันธุ์

เหมือนสัตว์มีแอปแชทลับอยู่ในตัว ที่ส่งข้อความไปหาคู่ที่ใช่โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย ธรรมชาตินี่มันเก่งจริง ๆ นะ

แผลงศรฟีโรโมนในมนุษย์ กลิ่นลับที่ทำให้ใจสั่น
แม้ว่าฟีโรโมนในคนจะไม่ชัดเจนเหมือนในสัตว์ แต่ว่าเราก็ยังมี ฟีโรโมน ที่ปล่อยออกมาผ่าน ต่อมเหงื่อ และ ผิวหนัง ตัวอย่างที่เด็ดสุดคือ androstenone ซึ่งเป็นฟีโรโมนที่พบในผู้ชาย ฟีโรโมนตัวนี้บางทีอาจทำให้ผู้หญิงบางคนรู้สึก ดึงดูด โดยไม่รู้ตัว มันเหมือนกลิ่นที่มองไม่เห็น แต่สมองของอีกฝ่ายรับรู้ได้ แล้วก็แบบ “ว้าว คนนี้มีอะไรบางอย่างที่พิเศษ”

แผลงศรการทดลองสุดว้าว เสื้อยืดกลิ่นตัว
การทดลองที่เจ๋งมาก ๆ นั่นคือ การทดลองเสื้อยืด นักวิจัยให้ผู้ชายใส่เสื้อยืดไปนอนสักสองสามคืน เพื่อให้เสื้อซึมซับ กลิ่นตัว ของเขาแบบเต็ม ๆ แล้วเอาเสื้อไปให้ผู้หญิงดม (ฟังดูแปลก ๆ แต่เพื่อวิทยาศาสตร์นะ)

ผลคืออะไร? ผู้หญิงบางคนรู้สึกว่า ถูกดึงดูด กับกลิ่นของเสื้อบางตัว โดยที่พวกเธอไม่รู้ตัวเลยว่าทำไม มันเหมือนสมองของพวกเธอรับรู้ฟีโรโมน แล้วส่งสัญญาณว่า “คนนี้แหละ น่าสนใจ” นี่คือพลังของฟีโรโมนที่ทำงานแบบเงียบ ๆ แต่ทรงพลังสุด ๆ

ฟีโรโมน มันคือ กลิ่นไร้กลิ่น ที่เหมือนมีพลังวิเศษ มันลอยอยู่ในอากาศ ส่งข้อความลับจากร่างกายเราไปถึงคนอื่น ทำให้เกิดความดึงดูดแบบที่เราไม่รู้ตัว! ไม่ว่าจะเป็นในสัตว์ที่ช่วยเลือกคู่ หรือในมนุษย์ที่ทำให้ใจเต้นโดยไม่ต้องฉีดน้ำหอม ฟีโรโมนคือตัวช่วยที่ทำให้ความรักมันมีสีสัน

loveความรักคือเคมีสุดมหัศจรรย์
เคยรู้สึกมั้ยว่าเวลาตกหลุมรักเนี่ย มันเหมือนโลกทั้งใบเปลี่ยนไป หัวใจเต้นตึกตัก มือเย็น เหงื่อออก แล้วก็คิดถึงเขาตลอดเวลา นั่นไม่ใช่แค่ความรู้สึกเฉย ๆ นะ แต่มันคือ ปฏิกิริยาทางเคมี ที่เกิดขึ้นในสมองและร่างกายของเรา มันเหมือนร่างกายเรากลายเป็น โรงงานเคมี ที่ผลิตสารแห่งความรักออกมาแบบไม่หยุด  และที่สำคัญ มันไม่ใช่แค่เรื่องของหัวใจอย่างเดียว แต่มันเกี่ยวข้องกับ จิตใจ และ ร่างกาย ด้วย มาดูกันว่าเคมีของความรักมันทำงานยังไงบ้าง

1. สมองตอนตกหลุมรัก เหมือนติดยาเสพติด
เมื่อเราตกหลุมรัก สมองของเราจะทำงานเหมือนตอนที่เรา ติดยาเสพติด โดยเฉพาะ โดพามีน หรือที่ผมขอเรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความฟิน โดพามีนจะหลั่งออกมาแบบพรั่งพรู ทำให้เรารู้สึก ยิ่งกว่าใช่ มันเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น กระตือรือร้น และเหมือนโลกนี้เป็นสีชมพูไปหมด ลองนึกภาพตอนที่เราได้เจอคนที่ชอบครั้งแรก หรือตอนที่เขาแอบยิ้มให้  สมองเราจะปล่อยโดพามีนออกมาเหมือนจุดพลุ

นอกจากความฟินแล้ว สารเคมีในสมองยังทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นแรง เหงื่อออก มือเย็น และรู้สึกกระตือรือร้นแบบสุด ๆ มันเหมือนร่างกายเรากำลังบอกว่า “คนนี้แหละ ที่ทำให้ชีวิตเรามีสีสัน”

อ่านต่อ หน้า 2 ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่