เรื่องย่อ
"The Snow Girl" (ชื่อภาษาสเปน: La chica de nieve) เป็นซีรีส์สเปนแนวอาชญากรรม ลึกลับ ระทึกขวัญ ที่ออกฉายในปี 2023 ทาง Netflix ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ
Javier Castillo บอกเล่าเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจของการหายตัวไปของเด็กหญิงตัวเล็กๆ และการตามล่าหาความจริงที่กินเวลานานหลายปี
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเมืองมาลากา ประเทศสเปน ในปี 2010 ระหว่างขบวนพาเหรดวันกษัตริย์ (Three Kings Day Parade) ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นที่มาร่วมเฉลิมฉลอง
Maya Ríos (Milena Smit) เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับจากอ้อมกอดของพ่อแม่เพียงชั่วพริบตา เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกและนำมาซึ่งความเจ็บปวดแสนสาหัสแก่ครอบครัว
คดีการหายตัวไปของ Maya กลายเป็นข่าวใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ตำรวจพยายามสืบสวนทุกวิถีทางแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ อย่างไรก็ตาม
Miri (Milena Smit) นักข่าวฝึกหัดจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ผู้มีบาดแผลในใจจากอดีตที่คล้ายคลึงกัน ได้หมกมุ่นกับการไขคดีนี้ เธอใช้ความสามารถและไหวพริบในการสืบสวนของตัวเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก
Eduardo (José Coronado) หัวหน้าบรรณาธิการผู้มากประสบการณ์
ซีรีส์เล่าเรื่องราวแบบไม่เป็นเส้นตรง มีการสลับไทม์ไลน์ไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน เพื่อเปิดเผยเบาะแสใหม่ๆ และความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคดีนี้ การตามหาตัว Maya กลายเป็นภารกิจอันยาวนานที่กินเวลาหลายปี และยิ่งสืบสวนลึกลงไปเท่าไร ก็ยิ่งพบกับความจริงที่มืดมิดและน่าตกใจมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดโปงอาชญากรรมที่ซับซ้อนและผลกระทบต่อชีวิตของหลายๆ คน
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Snow Girl" เป็นซีรีส์ที่ตรึงผู้ชมไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยพล็อตเรื่องที่ซับซ้อน ชวนติดตาม และเต็มไปด้วยปริศนา
บรรยากาศของเรื่องมีความมืดมนและหดหู่ ซึ่งเข้ากับโทนของคดีเด็กหายได้อย่างดี การดำเนินเรื่องไม่ช้าไม่เร็ว ทำให้ผู้ชมได้ร่วมลุ้นและปะติดปะต่อเบาะแสไปพร้อมๆ กับตัวละคร
Milena Smit ในบท Miri ถ่ายทอดความรู้สึกของนักข่าวผู้หมกมุ่นและมีปมในใจได้อย่างน่าเชื่อถือ เธอแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการไขคดี และความเจ็บปวดส่วนตัวที่สะท้อนผ่านการสืบสวนได้อย่างลึกซึ้ง
José Coronado ในบท Eduardo ก็เป็นตัวละครสมทบที่ช่วยเสริมให้เรื่องราวมีมิติมากขึ้น การทำงานร่วมกันของทั้งสองสร้างเคมีที่ดีในการสืบสวน
ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้ดีในการสร้างความตึงเครียดและคงความลึกลับไว้ได้ตลอด ไม่ได้เฉลยปมง่ายๆ และมีการหักมุมที่ทำให้ประหลาดใจ การเล่าเรื่องแบบสลับไทม์ไลน์อาจจะทำให้งงได้บ้างในช่วงแรก แต่เมื่อคุ้นเคยแล้ว ก็จะเห็นว่ามันช่วยเสริมความซับซ้อนและเปิดเผยข้อมูลได้อย่างน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวกับคดีเด็กหายและความรุนแรง ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะค่อนข้างหนักและสร้างความรู้สึกไม่สบายใจได้สำหรับผู้ชมบางคน แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวอาชญากรรมสืบสวนสอบสวนที่เน้นปริศนาและความมืดหม่น "The Snow Girl" ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าจับตามองและมีคุณภาพ
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 6.7/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 86% , คะแนนจากผู้ชม 64%
สรุป
"The Snow Girl" คือซีรีส์สเปนแนวลึกลับ อาชญากรรม ที่เต็มไปด้วยปริศนาและความตึงเครียด ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าติดตาม การแสดงที่เข้าถึงอารมณ์ และการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน ซีรีส์เรื่องนี้สามารถดึงดูดผู้ชมให้ดำดิ่งสู่การตามหาความจริงเบื้องหลังคดีเด็กหายอันน่าเศร้าได้อย่างลึกซึ้ง แม้ว่าจะเป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาค่อนข้างหนัก แต่ด้วยคุณภาพการผลิตและเรื่องราวที่เข้มข้น ก็ทำให้ "The Snow Girl" เป็นซีรีส์ที่คุ้มค่าแก่การรับชมสำหรับคอหนังแนวสืบสวนสอบสวนครับ
The Snow Girl: หายนะในวันขบวนพาเหรด ปริศนาเด็กหายที่มาพร้อมความลับดำมืด
เรื่องย่อ
"The Snow Girl" (ชื่อภาษาสเปน: La chica de nieve) เป็นซีรีส์สเปนแนวอาชญากรรม ลึกลับ ระทึกขวัญ ที่ออกฉายในปี 2023 ทาง Netflix ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ Javier Castillo บอกเล่าเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจของการหายตัวไปของเด็กหญิงตัวเล็กๆ และการตามล่าหาความจริงที่กินเวลานานหลายปี
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเมืองมาลากา ประเทศสเปน ในปี 2010 ระหว่างขบวนพาเหรดวันกษัตริย์ (Three Kings Day Parade) ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นที่มาร่วมเฉลิมฉลอง Maya Ríos (Milena Smit) เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับจากอ้อมกอดของพ่อแม่เพียงชั่วพริบตา เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกและนำมาซึ่งความเจ็บปวดแสนสาหัสแก่ครอบครัว
คดีการหายตัวไปของ Maya กลายเป็นข่าวใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ตำรวจพยายามสืบสวนทุกวิถีทางแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ อย่างไรก็ตาม Miri (Milena Smit) นักข่าวฝึกหัดจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ผู้มีบาดแผลในใจจากอดีตที่คล้ายคลึงกัน ได้หมกมุ่นกับการไขคดีนี้ เธอใช้ความสามารถและไหวพริบในการสืบสวนของตัวเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Eduardo (José Coronado) หัวหน้าบรรณาธิการผู้มากประสบการณ์
ซีรีส์เล่าเรื่องราวแบบไม่เป็นเส้นตรง มีการสลับไทม์ไลน์ไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน เพื่อเปิดเผยเบาะแสใหม่ๆ และความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคดีนี้ การตามหาตัว Maya กลายเป็นภารกิจอันยาวนานที่กินเวลาหลายปี และยิ่งสืบสวนลึกลงไปเท่าไร ก็ยิ่งพบกับความจริงที่มืดมิดและน่าตกใจมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดโปงอาชญากรรมที่ซับซ้อนและผลกระทบต่อชีวิตของหลายๆ คน
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Snow Girl" เป็นซีรีส์ที่ตรึงผู้ชมไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยพล็อตเรื่องที่ซับซ้อน ชวนติดตาม และเต็มไปด้วยปริศนา บรรยากาศของเรื่องมีความมืดมนและหดหู่ ซึ่งเข้ากับโทนของคดีเด็กหายได้อย่างดี การดำเนินเรื่องไม่ช้าไม่เร็ว ทำให้ผู้ชมได้ร่วมลุ้นและปะติดปะต่อเบาะแสไปพร้อมๆ กับตัวละคร
Milena Smit ในบท Miri ถ่ายทอดความรู้สึกของนักข่าวผู้หมกมุ่นและมีปมในใจได้อย่างน่าเชื่อถือ เธอแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการไขคดี และความเจ็บปวดส่วนตัวที่สะท้อนผ่านการสืบสวนได้อย่างลึกซึ้ง José Coronado ในบท Eduardo ก็เป็นตัวละครสมทบที่ช่วยเสริมให้เรื่องราวมีมิติมากขึ้น การทำงานร่วมกันของทั้งสองสร้างเคมีที่ดีในการสืบสวน
ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้ดีในการสร้างความตึงเครียดและคงความลึกลับไว้ได้ตลอด ไม่ได้เฉลยปมง่ายๆ และมีการหักมุมที่ทำให้ประหลาดใจ การเล่าเรื่องแบบสลับไทม์ไลน์อาจจะทำให้งงได้บ้างในช่วงแรก แต่เมื่อคุ้นเคยแล้ว ก็จะเห็นว่ามันช่วยเสริมความซับซ้อนและเปิดเผยข้อมูลได้อย่างน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวกับคดีเด็กหายและความรุนแรง ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะค่อนข้างหนักและสร้างความรู้สึกไม่สบายใจได้สำหรับผู้ชมบางคน แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวอาชญากรรมสืบสวนสอบสวนที่เน้นปริศนาและความมืดหม่น "The Snow Girl" ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าจับตามองและมีคุณภาพ
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 6.7/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 86% , คะแนนจากผู้ชม 64%
สรุป
"The Snow Girl" คือซีรีส์สเปนแนวลึกลับ อาชญากรรม ที่เต็มไปด้วยปริศนาและความตึงเครียด ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าติดตาม การแสดงที่เข้าถึงอารมณ์ และการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน ซีรีส์เรื่องนี้สามารถดึงดูดผู้ชมให้ดำดิ่งสู่การตามหาความจริงเบื้องหลังคดีเด็กหายอันน่าเศร้าได้อย่างลึกซึ้ง แม้ว่าจะเป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาค่อนข้างหนัก แต่ด้วยคุณภาพการผลิตและเรื่องราวที่เข้มข้น ก็ทำให้ "The Snow Girl" เป็นซีรีส์ที่คุ้มค่าแก่การรับชมสำหรับคอหนังแนวสืบสวนสอบสวนครับ