🌍 สิ่งที่เกิดขึ้น“ทั่วโลก”หลังปี 1971 คือ “หายนะแบบเนียนๆ” Cr. Jack Mallers, อจ. ตั๊ม
โลกไม่ได้เปลี่ยนตอนมีสงคราม
โลกเปลี่ยนจริงๆ ตอนสหรัฐฯ “พิมพ์เงินโดยไม่ต้องมีทองค้ำ” แล้วให้ทั้งโลกต้องใช้มัน
🏦 จุดเริ่มต้น: ข้อตกลง
Bretton Woods
ก่อนหน้านั้น เงินดอลลาร์ยังต้องมีทองค้ำ (Gold Standard)
แต่เมื่อ นิกสันยกเลิกการผูกดอลลาร์กับทอง → อเมริกาเริ่ม “พิมพ์เงินลอยๆ” ได้
ทั้งโลกยังต้องใช้ดอลลาร์เพื่อค้าขาย โดยเฉพาะน้ำมัน → Petrodollar
🎯 นับจากนั้น ทุกประเทศถูกบังคับให้ “เก็บหนี้ในสกุลที่พวกเขาควบคุมไม่ได้”
->ทุกคนถูกบังคับให้แลกเปลี่ยนในระบบดอลลาร์
->ไม่ว่า จีน รัสเซีย อินเดีย ยุโรป UAE หรือชาติใดบนโลกก็ยึดกฏเดียวกัน
->อเมริกา คือ ผู้ตั้งกฏ และ ผู้คุมเกมนี้
📈 แล้วเกิดอะไรขึ้นกับทั้งโลก?
หนี้ของสหรัฐฯ พุ่งเกิน $35 ล้านล้าน (2025)
หนี้ของโลกทั้งใบ > $300 ล้านล้าน
เงินเฟ้อซึมลึก → ค่าครองชีพขึ้น / บ้านแพง / สุขภาพแย่
คนจนไม่มีทางรวย เพราะระบบเงินถูกออกแบบให้ “รวยจากดอกเบี้ย-ทุน-ฟองสบู่”
อัตราการเกิดลดลง…หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง

คนหย่าร้างกันมากขึ้น หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง
ปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่ เป็นเพราะความรักหรอ? …เปล่า ทะเลาะกันเรื่องเงินนี่แหละ

คนเจ็บป่วยกันมากขึ้น …..หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง
อาหารที่เรากินทุกวันนี้ จ่ายแพงขึ้น แต่กลับมีอาหารแปรรูป(processed food)ที่แย่ต่อสุขภาพมากขึ้น
คนเป็นมะเร็งมากขึ้นเรื่อยๆ อายุน้อยลงเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขมากขึ้นเรื่อยๆ

ค่าจ้าง แม้จะเพิ่มบ้าง แต่เพิ่มเล็กน้อย ขณะที่ค่าบ้านกลับสูงลิบลิ่ว…หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง
คิดว่าแค่เฉพาะในไทยหรอ…เปล่า ทุกที่ทั่วโลกก็เป็นเหมือนกัน
คนที่ได้ประโยชน์คือคนชนชั้นบน ถ้าคุณไม่ใช่ 5% top ของประเทศ -> คุณคือชนชั้นตะเกียกตะกายเช่นกัน
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรอ ที่ทุกอย่างแย่ลงหลังการพิมพ์เงิน???
…ใดใดก็ตาม ….
🔥 เมื่อหนี้ล้นจนจ่ายไม่ไหว สหรัฐฯ เลือก “บีบคนอื่น”: นักธุรกิจ ก็คิดแบบนักธุรกิจ
พวกเขาไม่ยอมลดหนี้ด้วยการ “ประหยัด”
พวกเขา “ใช้อำนาจบีบประเทศอื่นให้ช่วยจ่ายแทน”
กลยุทธ์ของสหรัฐฯ:
✅ ขึ้นดอกเบี้ยให้ทุนไหลกลับ
✅ ใช้ IMF/World Bank กดประเทศจนต้องขายทรัพย์สินรัฐ
✅ ขึ้นภาษีประเทศคู่ค้า → รีดเงินจากภาษีนำเข้า
✅ หั่น GSP / กีดกันการค้า / คว่ำบาตร
🇹🇭 แล้วไทยล่ะ? ทำไมถึง “แพ้ทั้งสองทาง”?
❌ หันไปหาอเมริกา → ก็โดนบีบภาษี
ส่งออกเยอะเกิน (ทั้งที่ส่วนหนึ่งคือจีน 0 เหรียญ)→ แต่เรากลับโดนขึ้นภาษี 36%
ค่าเงินบาทผันผวนเพราะเงินทุนไหลกลับสหรัฐ
เงินเฟ้อกระทบคนไทยชั้นกลางโดยตรง
❌ หันไปหาจีน → ก็ยังติดกับระบบที่สหรัฐคุม
*****หยวนยังไม่แทนดอลลาร์ได้*****เราจะหาจีนก็ไม่ได้
จีนยังใช้ SWIFT และถือพันธบัตรสหรัฐ
หากไทย “ซบจีน” เต็มตัว แต่ยังใช้เงินดอลลาร์ → สุดท้ายก็แพ้ระบบเดิมอยู่ดี
📌 เพราะฉะนั้น…
ต่อให้ไทย “เปลี่ยนฝั่ง” → เราก็ยังอยู่ใน “กระดานที่เขาคุมอยู่ดี”
ทางรอดจึงไม่ใช่แค่ “เลือกจีนหรืออเมริกา”
แต่คือ เข้าใจระบบ และสร้างภูมิคุ้มกันของตัวเอง
✊ ถ้าไม่อยาก “ติดกับเกมเดิม” — คนไทยต้องทำสิ่งนี้
✅ 1. เข้าใจว่าเกมมันไม่แฟร์
เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และหนี้ → ไม่ได้เกิดขึ้นธรรมชาติ แต่มาจาก “ระบบที่ออกแบบมาให้คุณแพ้”
✅ 2. อย่าพึ่งพิงฝั่งใดฝั่งเดียว
หัดตั้งไข่ในหลายตะกร้า
ทองคำ / หุ้นต่างประเทศ / ตราสารทางเลือก / BTC
หยุดผูกกับระบบที่ไม่มีทางชนะได้
✅ 3. เสริม “ภูมิคุ้มกันความรู้”
เข้าใจการเงิน การลงทุน
ใช้เงินให้เข้าเกมแทนเรา ไม่ใช่ให้เราทำงานหาเงินตลอดไป
✅ 4. ไม่ต้องงัดกับโลก — แค่ไม่ยอมให้โลกงัดคุณ
อเมริกาจะเป็นผู้แพ้คนสุดท้ายในเกมที่เค้าตั้งกฏขึ้น
โลกไม่ได้เปลี่ยนตอนมีสงคราม
โลกเปลี่ยนจริงๆ ตอนสหรัฐฯ “พิมพ์เงินโดยไม่ต้องมีทองค้ำ” แล้วให้ทั้งโลกต้องใช้มัน
🏦 จุดเริ่มต้น: ข้อตกลง Bretton Woods
ก่อนหน้านั้น เงินดอลลาร์ยังต้องมีทองค้ำ (Gold Standard)
แต่เมื่อ นิกสันยกเลิกการผูกดอลลาร์กับทอง → อเมริกาเริ่ม “พิมพ์เงินลอยๆ” ได้
ทั้งโลกยังต้องใช้ดอลลาร์เพื่อค้าขาย โดยเฉพาะน้ำมัน → Petrodollar
🎯 นับจากนั้น ทุกประเทศถูกบังคับให้ “เก็บหนี้ในสกุลที่พวกเขาควบคุมไม่ได้”
->ทุกคนถูกบังคับให้แลกเปลี่ยนในระบบดอลลาร์
->ไม่ว่า จีน รัสเซีย อินเดีย ยุโรป UAE หรือชาติใดบนโลกก็ยึดกฏเดียวกัน
->อเมริกา คือ ผู้ตั้งกฏ และ ผู้คุมเกมนี้
📈 แล้วเกิดอะไรขึ้นกับทั้งโลก?
หนี้ของสหรัฐฯ พุ่งเกิน $35 ล้านล้าน (2025)
หนี้ของโลกทั้งใบ > $300 ล้านล้าน
เงินเฟ้อซึมลึก → ค่าครองชีพขึ้น / บ้านแพง / สุขภาพแย่
คนจนไม่มีทางรวย เพราะระบบเงินถูกออกแบบให้ “รวยจากดอกเบี้ย-ทุน-ฟองสบู่”
อัตราการเกิดลดลง…หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง
คนหย่าร้างกันมากขึ้น หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง
ปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่ เป็นเพราะความรักหรอ? …เปล่า ทะเลาะกันเรื่องเงินนี่แหละ
คนเจ็บป่วยกันมากขึ้น …..หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง
อาหารที่เรากินทุกวันนี้ จ่ายแพงขึ้น แต่กลับมีอาหารแปรรูป(processed food)ที่แย่ต่อสุขภาพมากขึ้น
คนเป็นมะเร็งมากขึ้นเรื่อยๆ อายุน้อยลงเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขมากขึ้นเรื่อยๆ
ค่าจ้าง แม้จะเพิ่มบ้าง แต่เพิ่มเล็กน้อย ขณะที่ค่าบ้านกลับสูงลิบลิ่ว…หลังปี 1971 ปีที่เริ่มการพิมพ์เงิน และเลิกผูกค่าเงินกับทอง
คิดว่าแค่เฉพาะในไทยหรอ…เปล่า ทุกที่ทั่วโลกก็เป็นเหมือนกัน
คนที่ได้ประโยชน์คือคนชนชั้นบน ถ้าคุณไม่ใช่ 5% top ของประเทศ -> คุณคือชนชั้นตะเกียกตะกายเช่นกัน
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรอ ที่ทุกอย่างแย่ลงหลังการพิมพ์เงิน???
…ใดใดก็ตาม ….
🔥 เมื่อหนี้ล้นจนจ่ายไม่ไหว สหรัฐฯ เลือก “บีบคนอื่น”: นักธุรกิจ ก็คิดแบบนักธุรกิจ
พวกเขาไม่ยอมลดหนี้ด้วยการ “ประหยัด”
พวกเขา “ใช้อำนาจบีบประเทศอื่นให้ช่วยจ่ายแทน”
กลยุทธ์ของสหรัฐฯ:
✅ ขึ้นดอกเบี้ยให้ทุนไหลกลับ
✅ ใช้ IMF/World Bank กดประเทศจนต้องขายทรัพย์สินรัฐ
✅ ขึ้นภาษีประเทศคู่ค้า → รีดเงินจากภาษีนำเข้า
✅ หั่น GSP / กีดกันการค้า / คว่ำบาตร
🇹🇭 แล้วไทยล่ะ? ทำไมถึง “แพ้ทั้งสองทาง”?
❌ หันไปหาอเมริกา → ก็โดนบีบภาษี
ส่งออกเยอะเกิน (ทั้งที่ส่วนหนึ่งคือจีน 0 เหรียญ)→ แต่เรากลับโดนขึ้นภาษี 36%
ค่าเงินบาทผันผวนเพราะเงินทุนไหลกลับสหรัฐ
เงินเฟ้อกระทบคนไทยชั้นกลางโดยตรง
❌ หันไปหาจีน → ก็ยังติดกับระบบที่สหรัฐคุม
*****หยวนยังไม่แทนดอลลาร์ได้*****เราจะหาจีนก็ไม่ได้
จีนยังใช้ SWIFT และถือพันธบัตรสหรัฐ
หากไทย “ซบจีน” เต็มตัว แต่ยังใช้เงินดอลลาร์ → สุดท้ายก็แพ้ระบบเดิมอยู่ดี
📌 เพราะฉะนั้น…
ต่อให้ไทย “เปลี่ยนฝั่ง” → เราก็ยังอยู่ใน “กระดานที่เขาคุมอยู่ดี”
ทางรอดจึงไม่ใช่แค่ “เลือกจีนหรืออเมริกา”
แต่คือ เข้าใจระบบ และสร้างภูมิคุ้มกันของตัวเอง
✊ ถ้าไม่อยาก “ติดกับเกมเดิม” — คนไทยต้องทำสิ่งนี้
✅ 1. เข้าใจว่าเกมมันไม่แฟร์
เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และหนี้ → ไม่ได้เกิดขึ้นธรรมชาติ แต่มาจาก “ระบบที่ออกแบบมาให้คุณแพ้”
✅ 2. อย่าพึ่งพิงฝั่งใดฝั่งเดียว
หัดตั้งไข่ในหลายตะกร้า
ทองคำ / หุ้นต่างประเทศ / ตราสารทางเลือก / BTC
หยุดผูกกับระบบที่ไม่มีทางชนะได้
✅ 3. เสริม “ภูมิคุ้มกันความรู้”
เข้าใจการเงิน การลงทุน
ใช้เงินให้เข้าเกมแทนเรา ไม่ใช่ให้เราทำงานหาเงินตลอดไป
✅ 4. ไม่ต้องงัดกับโลก — แค่ไม่ยอมให้โลกงัดคุณ