หุ้นไทยร่วง 9 จุด หลังมะกัน ร่อนจดหมาย ยืนยันเก็บภาษสินค้าไทย 36%
https://www.matichon.co.th/economy/news_5265582
.
.
หุ้นไทยร่วง 9 จุด หลังมะกัน ร่อนจดหมาย ยืนยันเก็บภาษสินค้าไทย 36%
.
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะดัชนีหลักทรัพย์ (หุ้น) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า วันนี้หุ้นเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,123 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,114.06 จุด ปรับลดลง 8.94 จุด หรือลบ 0.80% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,118.67 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,010.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 8,471.33 ล้านบาท
.
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางหุ้นไทยหลังจากประเทศไทยถูกเก็บภาษีสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน โดยปรับลงตามความกังวลต่อการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ ที่หาข้อสรุปไม่ได้ ก่อนที่ตลาดจะดีดตัวขึ้น (รีบาวด์) ในช่วงบ่ายหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงว่าไทยกำลังเสนอภาษีนำเข้าสินค้า 0% ให้กับสหรัฐ ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้น ก่อนที่เช้าวันนี้สหรัฐจะส่งจดหมายถึง 14 ประเทศ (รวมทั้งไทย) แจ้งอัตราภาษี reciprocal ที่แต่ละประเทศต้องจ่าย
นายรักพงศ์ กล่าวว่า โดยระบุภาษีของไทยที่ 36% ซึ่งไม่ลดลงจากการแถลงเมื่อ 2 เมษายน และสูงกว่า 32% ของอินโดนีเซีย, 25% ของมาเลเซีย และ 20% ของเวียดนาม ขณะเดียวกันโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เลื่อนวันที่บังคับใช้ของภาษีจาก 9 กรกฎาคม เป็น 1 สิงหาคม เรามองว่าประเด็นข่าวนี้จะยังคงกดดันหุ้นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค อาทิ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
.
นายรักพงศ์ กล่าวว่า หุ้นที่เชื่อมโยงกับภาพเศรษฐกิจไทยโดยรวม อาทิ กลุ่มค้าปลีก เนื่องจากการเติบโตของจีดีพีอาจชะลอลงมากกว่าที่คาด ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ด้านปัจจัยภายในประเทศ รมว.คลังแจ้งกับสื่อเมื่อวานนี้ ว่าจะยังไม่มีการเสนอชื่อผู้ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เข้ารอบสุดท้าย 2 ท่าน ซึ่งตลาดมองว่าผู้เข้ารอบสุดท้าย 2 ราย ได้แก่ ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส และนายวิทัย รัตนากร
.
.
“ศิริกัญญา” ช็อก ! ไทยโดนด้วยชุดแรก สหรัฐฯ ประกาศภาษี มองบวกยังมีเวลาหายใจ ลุ้นข้อเสนอใหม่ได้ต่ำกว่า 36% หรือไม่
.
วันที่ 8 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งจดหมายอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งไทยยังคงเดิมที่ 36% ว่า เป็นเรื่องค่อนข้างช็อก ตอนแรกที่มีการประกาศว่าจะส่งจดหมาย เรายังไม่ได้คิดว่าประเทศไทยจะอยู่ในรอบแรก เนื่องจากเพิ่งเข้าสู่กระบวนการเจรจาไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเดียวกันที่ได้รับจดหมาย
.
"การที่จบที่ 36% คิดว่าเป็นการบีบต้อนให้เราจนมุม ด้วยเดดไลน์ ทำให้ต้องคายข้อเสนอที่ยังตกลงกันไม่ได้ให้มากกว่าเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราภาษี 36% ดังนั้น 36% คงเป็นอัตราสูงสุดที่เราจะได้รับ คงไม่ได้เพิ่มมากขึ้นกว่านี้แล้ว เพราะหลายประเทศถูกปรับขึ้นภาษีด้วยซ้ำไป ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น มาเลเซีย จึงถือว่ายังมีช่วงเวลาให้เราได้หายใจ เพื่อปรับปรุงข้อเสนอใหม่ซึ่งข้อเสนอใหม่นี้ตนเข้าใจว่าถูกส่งไปตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.แล้ว จึงต้องรอท่าทีของทางสหรัฐอเมริกา จะเป็นอย่างไร" นางสาวศิริกัญญา กล่าว
.
เมื่อถามว่าข้อเสนอลดสินค้าเกษตรของไทย จะทำให้ผลการเจรจาดีขึ้นหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่า สินค้าเกษตรดังกล่าวมีอะไรบ้าง รวมถึงข้อเสนอที่ จะเก็บภาษี 0% ใน 90% ของสินค้าสหรัฐที่นำเข้ามาในไทย เมื่อเทียบกับเวียดนาม ที่ประกาศไปแล้วว่าจะลดเหลือ 0% ทุกรายการของสินค้าสหรัฐ ทำให้ได้ลดอัตราภาษีอยู่ที่ 20% ก็อาจจะทำให้ข้อเสนอของไทย ไม่ได้น่าดึงดูดนัก ขณะเดียวกันเราคงต้องขอดู ทั้ง 90% ของรายการสินค้าสหรัฐที่ไทยจะลดภาษีให้ มีอะไรบ้าง ซึ่งอาจเป็นสินค้าที่ทดแทนกันได้ ดังนั้น โอกาสที่จะกระทบต่อเกษตรกรไทย ก็ค่อนข้างสูง
.
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเทหมดหน้าตักเหมือนเวียดนามหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องชั่งน้ำหนัก เพราะหากเทหมดหน้าตักก็คงไม่ได้ไปลดไปต่ำกว่า 20 % และยังต้องดูอีกว่าถ้าได้เท่าๆกับประเทศคู่แข่ง ไม่ใช่ว่าเราจะได้เปรียบ เพราะขึ้นอยู่กับการทำกำไรของผู้ประกอบการ ตัวอย่างเช่น เวียดนาม หากเขาทำกำไรได้ ราว 20% เขาก็สามารถลดราคาผู้นำเข้าได้ 20% ทำให้เรื่องภาษีไม่มีผลกระทบต่อเขาเลย ซึ่งในขณะที่ไทย เสียเปรียบในต้นทุนการผลิตสินค้า ที่มีราคาสูงกว่าประเทศคู่แข่ง เช่น ค่าไฟฟ้า และวัตถุดิบอื่นๆ ทำให้เราไม่สามารถตัดราคาแข่งกับคู่แข่งได้ จึงต้องมาดูแล รายละเอียดรายสินค้าอีกทีหนึ่ง
.
ส่วนเรื่องของการย้ายฐานการผลิต ก็เป็นเรื่องที่หนึ่งที่ไทยต้องกังวลขึ้น ตอนนี้ฝุ่นยังตลบค่อนข้างมาก ยังไม่รู้ว่าภาษีสุดท้ายจะอยู่ที่เท่าไหร่ และความสามารถในการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนก็ไม่เท่ากัน ไม่คงที่ สินค้าที่สามารถย้ายฐานการผลิตได้ง่ายก็อาจจะตัดสินใจย้าย แต่สุดท้าย ก็ต้องรอการเจรจาให้เสร็จสิ้นลงก่อนทุกประเทศ ซึ่งคู่แข่งอาจจะไม่ใช่ในภูมิภาคเดียวกันด้วยซ้ำไป เพราะอินเดีย ขณะนี้ก็เป็นหนึ่งในจุดหมายของนักลงทุน เช่น สินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์
.
นางสาวศิริกัญญา ยังยอมรับว่า ตอนนี้เรายังพอมีหวังที่จะได้ลดอัตราภาษี การขยับเดดไลน์ครั้งนี้เป็นการขยับเดดไลน์การจัดเก็บภาษี จากที่จะเริ่ม 9 ก.ค. ขยับไปเป็น 1 ส.ค. ถึงแม้เราจะได้เจรจาไปแค่ครั้งเดียว แต่ก็ได้ส่งข้อเสนอใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น โอกาสที่เราจะได้ลดอัตราภาษีน้อยลงกว่า 36% ยังมีอยู่ จึงต้องลุ้นว่า ข้อเสนอที่ส่งไปใหม่สหรัฐอเมริกาจะยอมรับหรือไม่ และก็ต้องคำนึงด้วยว่า สิ่งที่เราเสียสละไป เพื่อที่จะแลกกับอยู่บนโต๊ะเจรจา มีสินค้าตัวไหนที่ได้รับผลกระทบ
.
"การบีบการขู่ ด้วยจดหมายแบบนี้ เอาเดดไลน์มาบีบ ให้เราจนมุมขนาดนี้ ก็ทำการทำให้การเจรจามีแรงกดดันสูงมากๆ จึงไม่แน่ใจว่าเราได้ให้อะไรที่ไม่สมควรที่จะให้ ไว้หรือไม่ เพราะไม่ได้มีการเปิดเผยเป็นทางการต่อสาธารณะเลย เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆก็คงต้องเตรียมแผนรองรับ และยาวๆผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทางภาคส่งออกเอง ถ้าโดน 20% ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะแข่งขันได้ หรือโดนเกิน 20% เพราะเราไม่ได้ให้ข้อเสนอที่ดีแบบทางเวียดนาม ก็ต้องยิ่งเตรียมตัวรับผลกระทบหนัก"
.
นางสาวศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า หลังการเจรจาเดือน เม.ย. ยังไม่ค่อยเห็นรัฐบาลเตรียมการ เยียวยาผลกระทบให้กับผู้ส่งออกและเกษตรกร ที่ผ่านมามีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ประมาณหมื่นล้านเศษ ให้กับผู้ที่รับผลกระทบกับสงครามการค้า แต่มันน้อยนิดเหลือเกิน ซึ่งโครงการที่ใหญ่ที่สุด คือ ให้ประกันสังคมปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อพยุงการจ้างงาน ไม่แน่ใจว่าจะพยุงได้กี่ตำแหน่งงาน ถือมีความเสี่ยงมาก เนื่องจากหน้าตักทางการคลัง ก็ลดน้อยลงไปทุกที
.
นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึง การจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพื่อเจรจากับสหรัฐ ว่า ตนเป็นคนแรกๆที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่าได้ทำสัญญากันไปครบถ้วนหรือไม่ ทั้งทางฝั่งของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ แต่คาดว่าน่าจะยังทำสัญญาได้ไม่เสร็จสิ้น เพราะถ้าจะทำสัญญาแล้ว จ่ายเงินไปกว่า 200 ล้านบาท น่าจะได้ผลการเจรจาที่ดีกว่านี้ ได้พบคนสำคัญมากกว่านี้ จึงขอภาวนาว่ายังใช้เงินไม่หมด และใช้เงินน้อยกว่า 200 ล้านบาท เพราะผลที่ได้ไม่ค่อยน่าพึงพอใจเท่าไหร่ และก็ยังพูดได้ยากว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือไม่ เพราะยังไม่เซ็นสัญญาว่าจ้าง ถ้าทำสัญญาเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 หน่วย ก็จะเสียเงินเดือนละ 400,000 บาท US Dollar หรือเป็นอัตราที่สูงมาก ก็คงต้องถือว่าเป็นการตำน้ำพริกมาหลายแม่น้ำจริงๆ
.
นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวตอบด้วยว่า ในคณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 พรรคประชาชน เสนอจัดทำงบประมาณใหม่ ให้สอดรับกับสถานการณ์เรื่องการขึ้นกำแพงภาษีสหรัฐ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการตอบรับ ทำให้จะเสนอใหม่อีกครั้ง แต่ต้องให้นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการมา มาอธิบายก่อน
.
เมื่อถามว่ามีการเปรียบเทียบว่าประเทศกัมพูชาได้ลดจาก 49% เหลือ 36% เท่าไทย นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ตามที่ประกาศใหม่ไม่มีประเทศไหนได้เกิน 40% กัมพูชาบอกว่าเจรจาเรียบร้อยแล้วและกำลังจะแถลง แต่ก็โดนจดหมายนี้ด้วย แต่เมื่อดูปริมาณการค้ากับทางสหรัฐอเมริกา กัมพูชา ถือว่าเบาบางมาก และไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ได้เปรียบเสียเปรียบอะไร แต่ที่สำคัญคือกัมพูชาได้เจรจาก่อนหน้าไทย ไปที่สหรัฐอเมริกาเหมือนกัน ไม่แน่ใจมีความคืบหน้าไปกว่าประเทศไทยหรือไม่
.
เมื่อถามว่าเป็นเพราะเราเริ่มช้าหรือไม่ทำให้ผลการเจรจาออกมาแบบนี้ นางสาวศิริกัญญา ยอมรับว่ามีผลมาก เพราะตอนนี้หลายๆประเทศ เหลือรายละเอียดอีกไม่กี่อย่าง ที่ยังตกลงกันไม่ได้ และการที่พูดคุยกันหลายรอบ ก็มีการปรับเปลี่ยนข้อเสนอกันตามเดดไลน์ที่กำหนด เหลือเพียงเล็กน้อยก็บรรลุข้อตกลง แต่สำหรับประเทศไทยกลายเป็นว่าพูดคุยไปเพียงแค่ครั้งเดียว และโดนบีบให้จนมุมด้วยเดดไลน์ที่กระชั้นชิด ทำให้เราต้องยื่นข้อเสนออะไรบางอย่าง ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ตามต้องรอให้รัฐบาลออกมาเปิดเผยอย่างจริงจังในข้อเสนอล่าสุดที่ส่งให้สหรัฐไป รวมไปถึงจะต้องได้รับผลกระทบอะไรบ้าง และจะมีการเยียวยาอย่างไร
.
.
เดือด! ‘สว.นันทนา-พิสิษฐ์’ ซัดกันนัว ไล่ออกจากห้อง ประธานรีบชิงวินิจฉัยให้จบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9839888
.
ประชุมวุฒิสภา เดือด ‘พิสิษฐ์‘ ไล่ ‘นันทนา’ ออกจากห้อง หลังขอชะลอโหวตเลือก กก.ติดตามการปฏิบัติงานกสทช. เจ้าตัวลั่น “ท่านไม่สิทธิ์ไล่” ยันไม่ร่วมสังฆกรรมแน่ ‘มงคล’ รีบชิงวินิจฉัยให้จบ
.
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 8 ก.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนาย
มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระพิจารณาเลือกกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรา 70 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการคมนาคม (กสทช.) พ.ศ.2553
JJNY : หุ้นไทยร่วง 9 จุด│“ศิริกัญญา” ช็อก ! ไทยโดนชุดแรก│เดือด! ‘สว.นันทนา-พิสิษฐ์’ ซัดกันนัว│"วธ."ตรวจสอบไม่พบข้อมูล
https://www.matichon.co.th/economy/news_5265582
.
.
.
เดือด! ‘สว.นันทนา-พิสิษฐ์’ ซัดกันนัว ไล่ออกจากห้อง ประธานรีบชิงวินิจฉัยให้จบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9839888
.
ประชุมวุฒิสภา เดือด ‘พิสิษฐ์‘ ไล่ ‘นันทนา’ ออกจากห้อง หลังขอชะลอโหวตเลือก กก.ติดตามการปฏิบัติงานกสทช. เจ้าตัวลั่น “ท่านไม่สิทธิ์ไล่” ยันไม่ร่วมสังฆกรรมแน่ ‘มงคล’ รีบชิงวินิจฉัยให้จบ
.
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 8 ก.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระพิจารณาเลือกกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรา 70 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการคมนาคม (กสทช.) พ.ศ.2553