ความรู้สึกหลังชม MV Hokori no Oka จดหมายรักถึงแฟนคลับ การเปลี่ยนผ่านรุ่นต่อไป วางหมุดหมายเมืองล้านนา

ก็จบกันไปหมาด ๆ กับงาน TANABATA 2025 ของวง CGM48 มันก็เป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าต้นเดือนกรกฎาคมต้องมีงานนี้เป็นประจำของวงมิ้นต์ และเหมือนว่าปีนี้ก็จะเล่นใหญ่จัดเต็ม Outdoor หน่อย เพราะว่ามันมีเปิดตัวซิงเกิล Hokori no Oka ซึ่งเป็นเพลงอัลบั้มที่ 3 ของวงพร้อมกับ Music Video ด้วยครับ ส่วนใครที่ไม่ได้ร่วมงาน ก็มีให้รับชมทาง Youtube และตัว MV ก็ปล่อยออกมาไล่เลี่ยกัน หลังจากได้ดู MV เพลงจบก็รู้สึกได้ว่ามันมีความหมายมากมายที่ซ่อนอยู่เยอะทีเดียวครับ

Hokori no Oka จะเล่าเรื่องเปรียบเหมือนกับการวิ่งไปยังจุดหมาย โดยมี ลูกยาง เป็นสิ่งของที่เมมเบอร์ทั้ง 12 คนต้องพามันไปให้ถึงยอดเนินเขาให้ได้ ซึ่ง ลูกยาง ก็เป็นตัวแทนสื่อถึงวง CGM48 ที่เมมเบอร์ช่วยกันขับเคลื่อนวงให้เดินหน้าต่อไป แม้ระหว่างทางก็มีทางชันทางขรุขระเป็นอุปสรรค บางคนที่ถือก็เหนื่อยจนล้า แต่ก็ส่งต่อให้กับคนถัดไป สำหรับคนที่ตามวง CGM หลายซีนที่เห็นก็มีความหมายแฝงอยู่ด้วยครับอย่าง สิตา ที่ถือกล่องวิ่งออกนำเป็นคนแรก ก็เหมือนกับซิงเกิลแรกของวงที่เธอเป็นเซ็นเตอร์ ตามด้วย คนิ้ง, แชมพู, เหมย, น้องพิม/นีนี่



ก็จะสังเกตได้ว่ามันเป็นการเรียงแต่ละซิงเกิลมาเลยครับ เหมือนว่าเส้นทางวิ่งนี้เป็นการเดินทางของวงที่ผ่านอะไรมามากมาย จนระทั่งถึงจุด ๆ หนึ่งที่เมมเบอร์รุ่น 1 เหนื่อยจนหมดแรง แต่แล้วก็มีเมมเบอร์รุ่น 2 นำโดย นานา มาประคองรุ่นพี่และส่งต่อลูกยางเพื่อไปให้ถึงจุดหมายครับ ซึ่งในไทม์ไลน์ตอนนั้นรุ่น 2 ก็เข้าวงมาแล้ว มาช่วยซัพพอร์ตรุ่น 1 ครับ



จนสุดท้ายพวกเธอก็เข้าเส้นชัยกันครบทุกคนนำพา ลูกยาง มาถึงเนินเขาแห่งฝันได้สำเร็จ แต่ไม่หมดแค่นั้น นานา และหลิงหลิง ก็ทำบางอย่างที่จะสื่อไปถึงแฟนคลับนั่นคือยิงลูกยางจากยอดเขาลงไปสู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นสัญลักษณ์ว่า CGM48 จะยังอยู่ที่เชียงใหม่นี่แหละ ก็น่าจะสยบเสียงลือกันเรื่องยุบวงได้อยู่นะครับ

สตอรี่ของ MV นี้เรียกว่ามีความหมายลึกซึ้ง ทำเอานึกถึง MV เพลง Yume wa Nigenai กับ Generation Change เลยกับเรื่องราวของการส่งต่อ เปลี่ยนผ่านจากรุ่นนึงไปอีกรุ่น และทำตามความฝันที่ตั้งใจไว้ และที่เด็ดขาดของเพลง Hokori no Oka ก็คือมีแฟลชแบ็คเซ็นเตอร์รุ่นหนึ่งไล่เรียงกันมาตั้งแต่ต้นเลยครับ เชื่อว่าใครที่เจอฉากนี้มีน้ำตารื้นกันบ้างล่ะ มันให้ฟีลเหมือนตอนที่เห็น รินะซัง พูดว่า "สู้ ๆ นะ" ในเพลง Yume wa Nigenai ครับ

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนเซ็มที่จำกัดทำให้เมมเบอร์รุ่นหนึ่งหลายท่านตกหล่นไป ไม่มีซีนแฟลชแบ็คครบ แต่พอจะเข้าใจได้ว่าผู้กำกับต้องการเล่าเรื่องของคนที่อยู่ใน MV แต่ก็นะ....หลายคนก็คงอยากให้มีครบ ๆ จะได้สมบูรณ์มากขึ้น

ด้านเนื้อเพลงก็ยังแปลดีเลยครับ พูดถึงเนินเขาแห่งฝัน สถานที่เติมฝันให้ใครหลายคน หากตั้งใจไม่ว่าอะไรก็จะเป็นจริงในสักวัน ถึงจะมีเรื่องท้อแท้จนอยากจะเลิกไป แต่ก็ภูมิใจที่ได้อยู่ตรงนี้ หากว่ามีใครสนใจอยากจะขึ้นเนินแห่งนี้ ก็อยากจะบอกว่า ที่แห่งนี้ยังมีที่ให้รองรับอีกมากมาย โดยเฉพาะเนื้อร้องที่ร้องว่า

"ฝากไปถึงคนที่ มาทีหลัง ดินแดนนี้ ชีวิตที่ต้องนอนที่นี่ นับจากวันนี้ บนนั้น ยังมีที่ ให้ความฝัน ที่ว่างยังมีอีกมากมาย"

ก็เป็นการสื่อถึงเมมเบอร์รุ่นน้องและเด็กสาวที่สนใจอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของ CGM48 ด้วยครับ ชอบเนื้อหาเพลงมาก ดูมีความใส่ใจ อยากจะสื่อสารบางอย่างไปให้ผู้ฟังและรู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่ทำมาเพื่อคนที่ตามวงกันตั้งแต่แรกเริ่มด้วยครับ


ส่วนชุดเซ็มฯ ก็มาในธีมสีน้ำเงินกึ่งฟ้า ชุดกระโปรงและเสื้อซีทรูมีประดับด้วยกลิตเตอร์ ให้ความระยิบระยับ แต่ดู ๆ ไปก็เหมือนชุดสาวงานพรอมเลยครับ อย่างสองเซ็นเตอร์ นานา ที่มีมงกุฎนางงาม หรือ หลิงหลิง ก็มีดวงดาวประดับที่หัว ตัวชุดโทนสีมันสวยครับ แต่พอมาอยู่ใน MV พื้นหลังป่าเขียว ๆ ตอนกลางวันมันดูขัด ๆ บอกไม่ถูก หากปรับเป็นตอนกลางคืน หรือเต้นตอนกลางคืนที่จุดชมวิวดอยสุเทพ น่าจะเข้ากันกว่านี้ครับ


พวกงานภาพก็ไม่ได้เน้นอะไรมาก จะหนักไปที่สตอรี่ครับ แต่อย่างน้อย ๆ เราก็ได้เห็นวิวจากมุมสูงมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเห็นกี่ทีก็สวยครับ

สรุปแล้ว MV เพลง Hokori no Oka ไม่ได้เป็นแค่มิวสิควีดีโอให้กำลังใจเย็น ๆ ทั่วไป แต่มันมีความหมายที่สื่อออกมาหลายอย่างทั้งบอกแก่เมมเบอร์ New Gen กับการเปลี่ยนผ่านรุ่นสู่รุ่น บอกถึงเรื่องราวการเดินทางของ CGM48 และบอกแก่แฟนคลับกับคนที่ติดตามวงว่าพวกเราไม่ได้หนีหายไปไหน จะยังอยู่ที่เชียงใหม่เหมือนเดิมนะ (อาจจะแวบไปเมืองกรุงบ้างนิดหน่อยก็ตาม ฮ่า ๆ)





Hokori no Oka รับชมมิวสิควีดีโอได้ทาง Youtube CGM48 Official ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่