บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า ความคืบหน้าการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้สร้างความคาดหวังต่อตลาดถึงความเป็นไปได้ของการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ โดยกรณีของเวียดนามถูกนำมาใช้อ้างอิงในการประเมินทิศทางและผลกระทบของข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นกับไทย
1.กรณีแย่ (โอกาส 30%) – หากไทยเผชิญอัตราภาษีส่งออกอยู่ที่ 25-36% จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของ GDP ราว 0.3-0.4 จุดเปอร์เซ็นต์ คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดเดิมที่ 1,055 จุด และมีความเสี่ยงที่จะทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีนี้ หุ้นแนะนำในกลุ่มนี้ ได้แก่ หุ้นปันผลที่มีค่าเบต้าน้อยกว่า
หุ้นแนะนำในกลุ่มนี้ ได้แก่ หุ้นปันผลที่มีค่าเบต้าน้อยกว่า 1 เช่น ADVANC, DMT, ICHI, MC, PROSPECT และ SCCC
2.กรณีฐาน (โอกาส 60%) – หากไทยสามารถเจรจาอัตราภาษีส่งออกได้ในช่วง 15-20% ถือเป็นสมมติฐานหลักที่ใช้ในการประเมิน GDP Growth ปีนี้และปีหน้าอยู่ที่ 1.6% และ 1.4% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในกรอบเดียวกับที่ตลาดประเมินไว้ ทั้งนี้ หากมีความชัดเจนในเรื่องอัตราภาษีดังกล่าวก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,140 และ 1,160 จุดตามลำดับ
หุ้นแนะนำสำหรับกลยุทธ์เทรดดิ้ง ได้แก่ AMATA, WHA, HANA และ KCE
3.กรณีดี (โอกาส 10%) – หากไทยสามารถเจรจาอัตราภาษีส่งออกได้ที่ 15% หรือต่ำกว่า ซึ่งจะต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ถือเป็นกรณีเชิงบวก มีโอกาสที่ตลาดและทิสโก้จะปรับประมาณการ GDP Growth ปี 2568 ขึ้นเป็นมากกว่า 2% และคาดว่า SET Index จะสามารถไต่ระดับขึ้นไปทดสอบที่ 1,200 จุดได้ไม่ยาก
หุ้นแนะนำในกรณีนี้ ได้แก่ หุ้นขนาดใหญ่ที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจและราคาปรับตัวลงมาแล้วมาก ได้แก่ BDMS, BH, BJC, CPALL, CRC และ GULF
https://www.kaohoon.com/news/765990
“ทิสโก้” ชี้ SET แกว่งตามดีลการค้า “ไทย-สหรัฐ” แนะเก็บหุ้นเด่นอิงเศรษฐกิจ-ปันผล
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า ความคืบหน้าการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้สร้างความคาดหวังต่อตลาดถึงความเป็นไปได้ของการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ โดยกรณีของเวียดนามถูกนำมาใช้อ้างอิงในการประเมินทิศทางและผลกระทบของข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นกับไทย
1.กรณีแย่ (โอกาส 30%) – หากไทยเผชิญอัตราภาษีส่งออกอยู่ที่ 25-36% จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของ GDP ราว 0.3-0.4 จุดเปอร์เซ็นต์ คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดเดิมที่ 1,055 จุด และมีความเสี่ยงที่จะทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีนี้ หุ้นแนะนำในกลุ่มนี้ ได้แก่ หุ้นปันผลที่มีค่าเบต้าน้อยกว่า
หุ้นแนะนำในกลุ่มนี้ ได้แก่ หุ้นปันผลที่มีค่าเบต้าน้อยกว่า 1 เช่น ADVANC, DMT, ICHI, MC, PROSPECT และ SCCC
2.กรณีฐาน (โอกาส 60%) – หากไทยสามารถเจรจาอัตราภาษีส่งออกได้ในช่วง 15-20% ถือเป็นสมมติฐานหลักที่ใช้ในการประเมิน GDP Growth ปีนี้และปีหน้าอยู่ที่ 1.6% และ 1.4% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในกรอบเดียวกับที่ตลาดประเมินไว้ ทั้งนี้ หากมีความชัดเจนในเรื่องอัตราภาษีดังกล่าวก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,140 และ 1,160 จุดตามลำดับ
หุ้นแนะนำสำหรับกลยุทธ์เทรดดิ้ง ได้แก่ AMATA, WHA, HANA และ KCE
3.กรณีดี (โอกาส 10%) – หากไทยสามารถเจรจาอัตราภาษีส่งออกได้ที่ 15% หรือต่ำกว่า ซึ่งจะต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ถือเป็นกรณีเชิงบวก มีโอกาสที่ตลาดและทิสโก้จะปรับประมาณการ GDP Growth ปี 2568 ขึ้นเป็นมากกว่า 2% และคาดว่า SET Index จะสามารถไต่ระดับขึ้นไปทดสอบที่ 1,200 จุดได้ไม่ยาก
หุ้นแนะนำในกรณีนี้ ได้แก่ หุ้นขนาดใหญ่ที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจและราคาปรับตัวลงมาแล้วมาก ได้แก่ BDMS, BH, BJC, CPALL, CRC และ GULF
https://www.kaohoon.com/news/765990