ไปปรึกษาจัดฟันที่คลินิกแห่งหนึ่งของภาคอีสาน ที่มีหลายสาขามาก แต่ต้องจองคิวล่วงหน้าโอเคเราก็จองคิวพอวันที่เราไปพบคุณหมอหน้าเคาน์เตอร์ก็บอกเราว่าปรึกษาจัดฟันฟรีไม่มีเสียค่าใช้จ่ายแต่พอเราเดินเข้าห้องคุณหมอก็ตรวจฟัน ปกติแหละแต่สักพักคุณหมอก็บอกให้เราเอกซเรย์ดูรากฟันเพราะเรายังมีฟันน้ำนมแล้วฟันก็ห่างเยอะเราก็เลยเอกซเรย์แต่เขาไม่บอกเราว่า เอกซเรย์มีค่าใช้จ่าย เราคิดว่าเอกซเรย์ฟรี พอคุณหมอดูก็ไม่อยากรับเคสเรา ​เขาบอกว่าเคสเรามันยากแล้วก็สงสัยนะว่าเขาเลือกคนไข้ได้ด้วยหรอเขาก็โยนให้คุณหมออีกท่านนึงเราก็โอเคไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่พอเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ หน้าเคาน์เตอร์บอกว่าวันนี้มีค่าเอกซเรย์ 600 บาท เราก็ห่ะ แค่มาปรึกษาจัดฟันว่าภาพรวมนั้นต้องเสียเท่าไหร่แต่ทำไมถึงมีค่าใช้จ่ายผิดที่เราด้วยที่ไม่ได้ทำหน้าเคาน์เตอร์ว่าทำไมวันนี้ถึงมีค่าใช้จ่ายแค่มาปรึกษาจัดฟันเฉยๆ สักพักเราก็เลยติดต่อกลับไปที่สาขาใหญ่อยู่กรุงเทพฯทางสาขาใหญ่ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปสักช่วงบ่ายกว่าๆก็มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาเขาบอกว่าค่าใช้จ่าย 600 บาทที่เสียให้ทางคลินิกเป็นค่าเอกซเรย์วางแนวทางการศึกษาจัดฟันแต่เราก็บอกเขาไปแล้วว่าเราอยากรู้ภาพรวมไม่ได้อยากรู้ถึงรากลึกให้คลินิกก็เลยบอกว่ายินดีที่จะคืนเงินให้ 300 บาทอีก 300 ถือว่าเป็นค่าฟิล์มแต่ต้องให้เราโหลด​​app ของทางคลินิกนั้นด้วยซึ่งเราแค่ไปปรึกษาจัดฟันทำไมต้องโหลด app ตอนแรกทางสาขานั้นจะไม่ยอมคืนเงินให้แต่จะให้เป็นคูปอง 300 บาทแล้วก็ส่วนลดของโปรโมชั่นแต่เรายืนยันว่าเราจะไม่จัด สาขาก็เลยทำได้แค่คืนเงินให้เราและส่งฟิล์มรากฟันให้เรา เหมือนมัดมือชกยังไงอย่างนั้นที่อื่นก็ปรึกษามาก็ไม่มีการให้เอกซเรย์ถึงแม้จะเป็นคลินิกที่ดังหรือคลินิกที่ยังไม่ดัง ​ก็ไม่มีให้เราต้องมาเอกซเรย์อะไรแบบนี้เพราะเรายืนยันไปตั้งแต่เนิ่นๆแล้วว่าแค่ปรึกษาจัดฟันเฉยๆอยากรู้ภาพรวมว่าถ้าจัดที่นี่เราจะเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดกี่บาท ใครที่กำลังมองหาที่จัดฟัน เราอยากให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆเลือกสาขาหรือคลินิกที่ดีกว่านี้นะคะจะได้ไม่ต้องเจอเหมือนเรา ย่อๆdio