ผมได้มาฝึกงานที่นึงเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งเป็นงานที่ไม่ตรงกับที่เรียนมาสักเท่าไหร่ ฝ่ายที่ผมฝึกงานจะมี 4 ทีม (เรียกเป็นทีม A, B, C, D ละกัน ส่วนผมอยู่ทีม C) โดยโครงสร้างของทีมคร่าวๆ ประกอบด้วย หัวหน้า (ขอเรียกว่าพี่ X), รองหัวหน้า: พี่ Y พี่ senior 2 คน: พี่ A, พี่ B และ junior 2 คน (มี C และ D โดยผมแทนตัวเองเป็น D ละกัน) ฝึกงาน 3 เดือน เรื่องมีอยู่ว่า ...
วันแรกของการฝึกงาน:
อาจจะเป็นเพราะมาฝึกงานที่ผมอาจจะไม่ได้มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้หรือเปล่าประกอบกับเป็นคนที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่ 55 ประชุมเช้าวันแรกก็ตึงเลยครับ technical term มาเต็ม ไม่เข้าใจเลย พอหัวหน้าถามว่าไม่เข้าใจตรงไหนมั้ย อยากบอกไปว่าทุกตรง(แต่พูดไม่ได้) ขณะที่มองหาทางออก พี่สาวใส่มาส์กข้างๆก็บอกว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง พอพี่แกพามานั่งที่ทำงานทีม C แล้วก็แนะนำตัว
พี่สาวใส่มาส์ก: นี่พี่ C นะ
ผม: ... ครับ ทำไมวันนี้พี่ใส่มาส์กมาอะครับ
พี่ C: พี่ไม่ได้แต่งหน้ามา
ผม: .…ครับ 😳 (แอบยิ้มในใจว่าพี่แกน่ารักดีจัง…)
พอวันต่อมา พี่ C มาทำงานโดยไม่ใส่มาส์ก จริงๆพี่แกก็น่าจะสวยอยู่นะ ดีใจที่ได้ทำงานใกล้ๆ แถมรู้ว่าเรียนคณะเดียวกันอีก
วันที่ 2 ถึงวันสุดท้าย -1:
งานเริ่ม 10.00 - 18.00 หัวหน้าจะนัดให้ผมมา 9 โมงเพื่อเล่า report → แล้วรับ feedback อย่างหนักหน่วง 😵อารมณ์แบบตายในหน้าที่ แล้วก็กลับมานั่งที่โต๊ะ ผมมักจะเห็นพี่ C มาพร้อม wet look เสมอ(ผมพี่แกยังเปียกๆแล้วก็เอาพัดลมน้อยมาเป่า)
โต๊ะทำงานทีมผมจะมี 2 ฝั่ง โต๊ะผมจะติดกับพี่ C ส่วนโต๊ะพี่ A กับ B จะอยู่ข้างหลังโดยจะมีโต๊ะกลางไว้วางของหรือใช้ประชุม ดังนั้นเวลาผมมีปัญหาเรื่องงาน แค่หันไปข้างๆก็เจอพี่ C แล้วครับ
ระหว่างทำงานพี่ C ก็จะชวนกินขนมไม่ก็พาเดินไปสั่งกาแฟ เป็นช่วงเวลาที่ดีก่อนที่หัวหน้าจะให้ project มาทำ การที่ได้อยู่ใกล้ๆพี่ C ก็ทำให้ได้เห็นพี่แกในหลายๆมุมเหมือนกัน อย่างเช่นตอนพี่ C กินขนมแล้วเอามือไปเช็ดกางเกงหรือตอนที่นั่งส่องกระจกแล้วถอนผมหงอก (ผมนี่อยากช่วยเลย ) หรือตอนที่พี่แกชอบขอแตงกวาจากจานผมตอนไปกินข้าวมันไก่ 5555
ช่วงแนะนำตัวละคร (จะเรียกชื่อขึ้นต้นด้วยทีมแล้วตามด้วยตำแหน่งอย่างของผม -> CD)
ที่ฝึกงานไม่ค่อยคุยเรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่ (ตอนแรกคิดว่าน่าจะมีเรื่องเม้ามอยฉ่ำๆเหมือนในซีรี่ย์) การที่จะรู้จักพี่ C ให้มากขึ้นต้องมีผู้ช่วยครับ พร้อมเล่าจุดเรียนรู้ระหว่างที่ฝึกงานไปด้วยละกัน
i) พี่ BC นี่ความหวังจักรวาลเลยครับ อย่างวันวาเลนไทน์ผมก็ให้พี่ BC แอบถามพี่ C (ของผม) ว่าพี่แกนัดใครไว้ป่าวเห็นว่าจะกลับเร็ว วันต่อมาพี่ BC ก็เปิด ig พี่ C ให้ดูก็ไม่เห็นว่าไปกับใคร รูปใน ig ก็ไม่มีรูปคู่เลย (พอดีผมไม่เล่น ig ครับ) การได้เห็นรูปใน ig ทำให้ผมมั่นใจว่าพี่ C สวยอยู่นะครับ (ดูจาก comment ใน ig)
จุดเรียนรู้ที่โดนหัวหน้า feedback บ่อยๆก็คือ [ชอบตอบคำถามด้วยคำถาม]
ตัวอย่าง: ขณะที่กลับจากซื้อกาแฟกับพี่ BC และพี่ C
พี่ BC: น้องชอบผู้หญิงสวยหรือน่ารัก
ผม: ... แล้วพี่ C สวยหรือน่ารักอะครับ (อันนี้ไม่ได้พูดออกไปครับ)
พี่ C: โอย...
ii) พี่ AD เป็นรุ่นพี่มหาลัยแต่คนละคณะกันเลยคุยกันสนุกอยู่ ตอนแรกคิดว่าพี่ AD เป็นแฟนพี่ C เพราะดูสนิทกันมากผมเลยไม่ค่อยถามเรื่องพี่ C ด้วยเท่าไหร่ กลัวหลุด (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าพี่แกมีแฟนแล้ว ผมนี่โล่งใจเลย 55)
จุดเรียนรู้อีกข้อของผมก็น่าจะเป็น [พูดไม่รู้เรื่อง]
ตัวอย่าง: เวลาที่ต้องเล่า project ให้อีกทีมฟัง
ผม: @_@xxx*_*
พี่ AD: ???
พี่ C: โอย... น้องนี่ก็... (ทำหน้าดุๆ นอยๆ) แล้วก็ค่อยๆฟังผมเล่าเรื่องแล้วแปลให้พี่ AD อีกที (ยิ่งกว่าล่ามส่วนตัว)
iii) พี่ DD น่าจะเป็นน้องรักพี่ C ครับ 55 ดูจากวิธีการต่อปากต่อคำเวลาที่พี่ DD แวะเวียนมาคุยที่ฝั่งทีมผม อาจจะเป็นเพราะพี่ C เคยอยู่ทีม D มาก่อนเลยได้คุยกันบ่อยๆ ทุกเย็นผมจะนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน ก็พี่ DD นี่แหละที่ผมชวนเม้ามอยเรื่องพี่ C ครับ
อันนี้น่าจะเรียกว่าเป็นจุดที่ทำให้หงุดหงิดมากกว่าคือ [เป็นคนที่ชอบ go with the flow] แต่พี่ C แปลให้สั้นๆว่า "ไปเรื่อย" 55
ตัวอย่าง: พี่ DD กำลังกดสั่งกาแฟ
พี่ C: เอา Moccha เย็นไม่หวาน
ผม: +1 ครับ (แต่จะมีบางอย่างที่ผม +1 ไม่ได้เช่นถ้าพี่ C สั่งกะเพราเผ็ดๆ ผมก็จะยอมแพ้ 55)
พี่ C: โอย… 🙄
จริงๆ ผมแอบ cross check คนอื่นๆในฝ่ายหลายๆครั้งเรื่องของแฟนพี่ C (ตอนพี่แกไม่อยู่) ประมาณว่า "วันนี้พี่ C ดูนอยๆจังหรือว่าพี่เค้าทะเลาะกับแฟนมาอะครับ" ทุกคนก็ดูงงๆว่าพี่ C มีแฟนด้วยเหรอ ใจผมเรื่มฟูละ 555 ประกอบกับผู้ชายในฝ่ายผมถ้าไม่มีครอบครัวก็มีแฟนกันหมดแล้ว เข้าทางสุดๆ ผมว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้วครับ
แต่ความคิดฟุ้งๆก็ต้องหยุดลง เมื่อถึง White Day ที่คนในทีมมานั่งกินเค้กที่พี่ C เอามา พี่ C ฝากมือถือให้ผมถ่ายรูปให้ ด้วยความใส่ใจผมเลยได้เห็นภาพ background พี่แกกับอีกคน (ใครเห็นก็เดาได้) แต่ให้ถามพี่ C ตรงๆก็ดูใส่ใจเกินไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกเลย (หรือว่าเรามีข้อมูลไม่เพียงพอ) สมมติถ้าให้ถามก็น่าจะประมาณว่า
ผม: พี่ C ครับ คนในรูป background คือใครอะครับ
พี่ C: แฟนพี่เองอะ เค้กนี่เค้าก็ซื้อมาให้ ^^
ผม: ... ครับ 😏😏
วันสุดท้าย:
พี่ๆในฝ่ายพาไปคาราโอเกะ นี่แหละโอกาสสุดท้ายที่จะได้เจอกัน ตอนนี้ต้องงัดทุกเพลงมาบอกพี่แกให้รับรู้ แอลกอฮอล์มาแล้วเพลงก็มา ...
♫หมื่นคำลา ก็จะฟัง หากมันช่วยรั้งเธออยู่ สักแค่นาที♫
(ผมเชื่อว่า หากจะพูดว่ารักได้ตรงอย่างใจคิดคงไม่ใช่เพราะพิษของแอลกอฮอล์ แต่ ณ จุดนั้นก็คงไม่สนอะไรละ)
หลังร้องเกะเสร็จ ผมก็ฝากบัตรฝึกงานไว้ให้พี่ C เพราะไม่ได้ใช้แล้วเหมือนกับใจที่ฝากไว้แล้วไม่ได้ใช้อีกแล้ว (ว่าไป...) จากนั้นก็แยกย้ายกัน
.
.
.
3 เดือนผ่านไปผมได้งานที่บริษัทเดิมที่ไปฝึกงาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ทำที่ฝ่ายเดิมแถมยังทีมเดิม (ผมไม่ move on จากทีมหรือทีมไม่ move on จากผม ไม่แน่ใจเหมือนกัน 55) อารมณ์วันแรกที่มาทำงานก็จะประมาณว่า:
♫บางอย่างก็ไม่เปลี่ยนไป แม้อะไรๆจะเปลี่ยน (พี่ๆทีมอื่นก็มีออกจากงานหรือย้ายไปฝ่ายอื่นบ้างยกเว้นทีมผม อยู่กันครบทุกคนเลย พี่ C ก็ด้วย)♫
♫บางสิ่งก็คล้ายบทเรียน ที่ฉันไม่เคยผ่านมันได้เลยซ้ำซ้ำ (เช่นการที่โดน feedback จากหัวหน้าและการที่ต้องนั่งข้างๆพี่ C)♫
♫แค่วันนี้ได้สบสายตา แค่พูดคุยกันไม่กี่คำ ต่อให้เฝ้าระวังให้ยั้งยังไง ก็พลั้งพลาดไปทุกที (ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ)♫
ผมมีช่วงเวลาทดลองงานที่นี่ 6 เดือน ความรู้สึกหลายๆอย่างก็คงคล้ายๆเดิมแต่คูณ 2 (ความคาดหวังหัวหน้า จำนวนและความยากของงาน) แต่ที่ไม่อยากให้เหมือนเดิมคือความรู้สึกต่อพี่ C บางครั้งที่หันไปทางโต๊ะพี่แก ก็เห็นพี่แกดูรูปคู่กับแฟนอยู่บ่อยๆ ผมนี่นอยจัดๆเลยครับ
วันแรกที่มาทำงานพี่ C ก็มาชวนคุย
พี่ C: น้องยังดูเหมือนเดิมเลยนะ
ผม: เหมือนเดิมนี่คือดีหรือไม่ดีอะครับ
พี่ C: คิดสักครู่...
พี่ A: คิดนานแสดงว่า ... 😏
พี่ B: พี่ว่าการบอกว่าดีหรือไม่ดีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ผม: ... ครับ 🙄🙄
♫เคยคิดเวลาจะช่วยทำใจให้ฉันลืมเธอคนนี้ แต่แล้วอาการเดิมเดิมก็กลับมา♫
แต่ผมจะเอาผลต่อหัวใจมามีผลต่อ KPI ไม่ได้เหมือนกัน งานที่หัวหน้าสั่งส่วนมากก็ต้องให้พี่ C ช่วยเหมือนกัน (หัวหน้านี่ก็นะ 555)
ใครมีแนวทางทำใจ/move on หรือแนวเพลงที่ฟังดูเศร้าๆแต่ยังดูเท่ มาแบ่งปันได้นะครับ (คิดว่าถ้าเป็นเพลงรักเดี๋ยวใจมันจะฟูอีกรอบอะครับ ส่วนถ้าเป็นเพลงเศร้าจ๋าๆนี่ก็หน่วงไป อันนี้ใจเหลวเลยครับ)
หมายเหตุ
เนื่องจากเวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน เรื่องเล่าอาจจะเลอะเทอะไปหน่อย ความทรงจำอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้างมีแต่ความรู้สึกเหมือนว่าจะยังชัดเจนอยู่นะครับ
เอาไงต่อดีครับ
วันแรกของการฝึกงาน:
อาจจะเป็นเพราะมาฝึกงานที่ผมอาจจะไม่ได้มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้หรือเปล่าประกอบกับเป็นคนที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่ 55 ประชุมเช้าวันแรกก็ตึงเลยครับ technical term มาเต็ม ไม่เข้าใจเลย พอหัวหน้าถามว่าไม่เข้าใจตรงไหนมั้ย อยากบอกไปว่าทุกตรง(แต่พูดไม่ได้) ขณะที่มองหาทางออก พี่สาวใส่มาส์กข้างๆก็บอกว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง พอพี่แกพามานั่งที่ทำงานทีม C แล้วก็แนะนำตัว
พี่สาวใส่มาส์ก: นี่พี่ C นะ
ผม: ... ครับ ทำไมวันนี้พี่ใส่มาส์กมาอะครับ
พี่ C: พี่ไม่ได้แต่งหน้ามา
ผม: .…ครับ 😳 (แอบยิ้มในใจว่าพี่แกน่ารักดีจัง…)
พอวันต่อมา พี่ C มาทำงานโดยไม่ใส่มาส์ก จริงๆพี่แกก็น่าจะสวยอยู่นะ ดีใจที่ได้ทำงานใกล้ๆ แถมรู้ว่าเรียนคณะเดียวกันอีก
วันที่ 2 ถึงวันสุดท้าย -1:
งานเริ่ม 10.00 - 18.00 หัวหน้าจะนัดให้ผมมา 9 โมงเพื่อเล่า report → แล้วรับ feedback อย่างหนักหน่วง 😵อารมณ์แบบตายในหน้าที่ แล้วก็กลับมานั่งที่โต๊ะ ผมมักจะเห็นพี่ C มาพร้อม wet look เสมอ(ผมพี่แกยังเปียกๆแล้วก็เอาพัดลมน้อยมาเป่า)
โต๊ะทำงานทีมผมจะมี 2 ฝั่ง โต๊ะผมจะติดกับพี่ C ส่วนโต๊ะพี่ A กับ B จะอยู่ข้างหลังโดยจะมีโต๊ะกลางไว้วางของหรือใช้ประชุม ดังนั้นเวลาผมมีปัญหาเรื่องงาน แค่หันไปข้างๆก็เจอพี่ C แล้วครับ
ช่วงแนะนำตัวละคร (จะเรียกชื่อขึ้นต้นด้วยทีมแล้วตามด้วยตำแหน่งอย่างของผม -> CD)
ที่ฝึกงานไม่ค่อยคุยเรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่ (ตอนแรกคิดว่าน่าจะมีเรื่องเม้ามอยฉ่ำๆเหมือนในซีรี่ย์) การที่จะรู้จักพี่ C ให้มากขึ้นต้องมีผู้ช่วยครับ พร้อมเล่าจุดเรียนรู้ระหว่างที่ฝึกงานไปด้วยละกัน
i) พี่ BC นี่ความหวังจักรวาลเลยครับ อย่างวันวาเลนไทน์ผมก็ให้พี่ BC แอบถามพี่ C (ของผม) ว่าพี่แกนัดใครไว้ป่าวเห็นว่าจะกลับเร็ว วันต่อมาพี่ BC ก็เปิด ig พี่ C ให้ดูก็ไม่เห็นว่าไปกับใคร รูปใน ig ก็ไม่มีรูปคู่เลย (พอดีผมไม่เล่น ig ครับ) การได้เห็นรูปใน ig ทำให้ผมมั่นใจว่าพี่ C สวยอยู่นะครับ (ดูจาก comment ใน ig)
จุดเรียนรู้ที่โดนหัวหน้า feedback บ่อยๆก็คือ [ชอบตอบคำถามด้วยคำถาม]
ตัวอย่าง: ขณะที่กลับจากซื้อกาแฟกับพี่ BC และพี่ C
พี่ BC: น้องชอบผู้หญิงสวยหรือน่ารัก
ผม: ... แล้วพี่ C สวยหรือน่ารักอะครับ (อันนี้ไม่ได้พูดออกไปครับ)
พี่ C: โอย...
ii) พี่ AD เป็นรุ่นพี่มหาลัยแต่คนละคณะกันเลยคุยกันสนุกอยู่ ตอนแรกคิดว่าพี่ AD เป็นแฟนพี่ C เพราะดูสนิทกันมากผมเลยไม่ค่อยถามเรื่องพี่ C ด้วยเท่าไหร่ กลัวหลุด (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าพี่แกมีแฟนแล้ว ผมนี่โล่งใจเลย 55)
จุดเรียนรู้อีกข้อของผมก็น่าจะเป็น [พูดไม่รู้เรื่อง]
ตัวอย่าง: เวลาที่ต้องเล่า project ให้อีกทีมฟัง
ผม: @_@xxx*_*
พี่ AD: ???
พี่ C: โอย... น้องนี่ก็... (ทำหน้าดุๆ นอยๆ) แล้วก็ค่อยๆฟังผมเล่าเรื่องแล้วแปลให้พี่ AD อีกที (ยิ่งกว่าล่ามส่วนตัว)
iii) พี่ DD น่าจะเป็นน้องรักพี่ C ครับ 55 ดูจากวิธีการต่อปากต่อคำเวลาที่พี่ DD แวะเวียนมาคุยที่ฝั่งทีมผม อาจจะเป็นเพราะพี่ C เคยอยู่ทีม D มาก่อนเลยได้คุยกันบ่อยๆ ทุกเย็นผมจะนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน ก็พี่ DD นี่แหละที่ผมชวนเม้ามอยเรื่องพี่ C ครับ
อันนี้น่าจะเรียกว่าเป็นจุดที่ทำให้หงุดหงิดมากกว่าคือ [เป็นคนที่ชอบ go with the flow] แต่พี่ C แปลให้สั้นๆว่า "ไปเรื่อย" 55
ตัวอย่าง: พี่ DD กำลังกดสั่งกาแฟ
พี่ C: เอา Moccha เย็นไม่หวาน
ผม: +1 ครับ (แต่จะมีบางอย่างที่ผม +1 ไม่ได้เช่นถ้าพี่ C สั่งกะเพราเผ็ดๆ ผมก็จะยอมแพ้ 55)
พี่ C: โอย… 🙄
จริงๆ ผมแอบ cross check คนอื่นๆในฝ่ายหลายๆครั้งเรื่องของแฟนพี่ C (ตอนพี่แกไม่อยู่) ประมาณว่า "วันนี้พี่ C ดูนอยๆจังหรือว่าพี่เค้าทะเลาะกับแฟนมาอะครับ" ทุกคนก็ดูงงๆว่าพี่ C มีแฟนด้วยเหรอ ใจผมเรื่มฟูละ 555 ประกอบกับผู้ชายในฝ่ายผมถ้าไม่มีครอบครัวก็มีแฟนกันหมดแล้ว เข้าทางสุดๆ ผมว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้วครับ
แต่ความคิดฟุ้งๆก็ต้องหยุดลง เมื่อถึง White Day ที่คนในทีมมานั่งกินเค้กที่พี่ C เอามา พี่ C ฝากมือถือให้ผมถ่ายรูปให้ ด้วยความใส่ใจผมเลยได้เห็นภาพ background พี่แกกับอีกคน (ใครเห็นก็เดาได้) แต่ให้ถามพี่ C ตรงๆก็ดูใส่ใจเกินไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกเลย (หรือว่าเรามีข้อมูลไม่เพียงพอ) สมมติถ้าให้ถามก็น่าจะประมาณว่า
ผม: พี่ C ครับ คนในรูป background คือใครอะครับ
พี่ C: แฟนพี่เองอะ เค้กนี่เค้าก็ซื้อมาให้ ^^
ผม: ... ครับ 😏😏
วันสุดท้าย:
พี่ๆในฝ่ายพาไปคาราโอเกะ นี่แหละโอกาสสุดท้ายที่จะได้เจอกัน ตอนนี้ต้องงัดทุกเพลงมาบอกพี่แกให้รับรู้ แอลกอฮอล์มาแล้วเพลงก็มา ...
♫หมื่นคำลา ก็จะฟัง หากมันช่วยรั้งเธออยู่ สักแค่นาที♫
(ผมเชื่อว่า หากจะพูดว่ารักได้ตรงอย่างใจคิดคงไม่ใช่เพราะพิษของแอลกอฮอล์ แต่ ณ จุดนั้นก็คงไม่สนอะไรละ)
หลังร้องเกะเสร็จ ผมก็ฝากบัตรฝึกงานไว้ให้พี่ C เพราะไม่ได้ใช้แล้วเหมือนกับใจที่ฝากไว้แล้วไม่ได้ใช้อีกแล้ว (ว่าไป...) จากนั้นก็แยกย้ายกัน
.
.
.
3 เดือนผ่านไปผมได้งานที่บริษัทเดิมที่ไปฝึกงาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ทำที่ฝ่ายเดิมแถมยังทีมเดิม (ผมไม่ move on จากทีมหรือทีมไม่ move on จากผม ไม่แน่ใจเหมือนกัน 55) อารมณ์วันแรกที่มาทำงานก็จะประมาณว่า:
♫บางอย่างก็ไม่เปลี่ยนไป แม้อะไรๆจะเปลี่ยน (พี่ๆทีมอื่นก็มีออกจากงานหรือย้ายไปฝ่ายอื่นบ้างยกเว้นทีมผม อยู่กันครบทุกคนเลย พี่ C ก็ด้วย)♫
♫บางสิ่งก็คล้ายบทเรียน ที่ฉันไม่เคยผ่านมันได้เลยซ้ำซ้ำ (เช่นการที่โดน feedback จากหัวหน้าและการที่ต้องนั่งข้างๆพี่ C)♫
♫แค่วันนี้ได้สบสายตา แค่พูดคุยกันไม่กี่คำ ต่อให้เฝ้าระวังให้ยั้งยังไง ก็พลั้งพลาดไปทุกที (ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ)♫
ผมมีช่วงเวลาทดลองงานที่นี่ 6 เดือน ความรู้สึกหลายๆอย่างก็คงคล้ายๆเดิมแต่คูณ 2 (ความคาดหวังหัวหน้า จำนวนและความยากของงาน) แต่ที่ไม่อยากให้เหมือนเดิมคือความรู้สึกต่อพี่ C บางครั้งที่หันไปทางโต๊ะพี่แก ก็เห็นพี่แกดูรูปคู่กับแฟนอยู่บ่อยๆ ผมนี่นอยจัดๆเลยครับ
วันแรกที่มาทำงานพี่ C ก็มาชวนคุย
พี่ C: น้องยังดูเหมือนเดิมเลยนะ
ผม: เหมือนเดิมนี่คือดีหรือไม่ดีอะครับ
พี่ C: คิดสักครู่...
พี่ A: คิดนานแสดงว่า ... 😏
พี่ B: พี่ว่าการบอกว่าดีหรือไม่ดีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ผม: ... ครับ 🙄🙄
♫เคยคิดเวลาจะช่วยทำใจให้ฉันลืมเธอคนนี้ แต่แล้วอาการเดิมเดิมก็กลับมา♫
แต่ผมจะเอาผลต่อหัวใจมามีผลต่อ KPI ไม่ได้เหมือนกัน งานที่หัวหน้าสั่งส่วนมากก็ต้องให้พี่ C ช่วยเหมือนกัน (หัวหน้านี่ก็นะ 555)
ใครมีแนวทางทำใจ/move on หรือแนวเพลงที่ฟังดูเศร้าๆแต่ยังดูเท่ มาแบ่งปันได้นะครับ (คิดว่าถ้าเป็นเพลงรักเดี๋ยวใจมันจะฟูอีกรอบอะครับ ส่วนถ้าเป็นเพลงเศร้าจ๋าๆนี่ก็หน่วงไป อันนี้ใจเหลวเลยครับ)
หมายเหตุ
เนื่องจากเวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน เรื่องเล่าอาจจะเลอะเทอะไปหน่อย ความทรงจำอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้างมีแต่ความรู้สึกเหมือนว่าจะยังชัดเจนอยู่นะครับ