[CR] No.160 ราโฌมอณ (Rashoman Condominium) (2568) : ฆาตกุมหรรษา ใครฆ่ากันเนี่ย ?!


- ตอนดูละครเวที ความรักควรไปตาย (Private Life) (2568) ว่ามึนกับความสัมพันธ์ 4 เส้าจนปวดกบาลแล้วพอมาดูละครเรื่องนี้ต่อปรากฎว่ายิ่งปวกกบาลหนักยิ่งกว่า ด้วยเพราะความที่เนื้อเรื่องมันมาในโทน Whodonit สมองก็เริ่มทำงานทันทีเมื่อทราบว่ามีคนตุยเกิดขึ้นแล้วจึงรีบสืบสาวหาตอว่าใครเป็นคนฆ่า ? ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะทำหน้าที่นี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากตำรวจหรือไม่ก็นักสืบตามละครและหนังแนวนี้จนจำ Dialogue ได้ขึ้นใจว่าที่ใดมีเรื่องที่นั่นมีกู ทว่าคงจะไม่ใช่สำหรับกับละครเวทีเรื่องนี้นี่สิ เพราะ ตัวเรื่องไม่ได้เน้นที่การสืบสวนผ่านมุมคนเดียวแต่นำเสนอหลายมุมมองผ่านตัวละครที่อยู่ในเหตุการณ์ที่มีมากกว่า 1 ว่าแต่ละคนพบเจออะไร ? เมื่อไม่มีใครทำหน้าที่นี้หวยเลยตกไปที่คนดูที่จะต้องไปพิสูจน์หาคำตอบกันเองตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

- เพียงเริ่มเปิด Floor ด้วยเสียงฝนตกกลางคืนมืดมิดพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าตามดังเปรี้ยง ! จนแสงแวบผ่านลูกตาก็สัมผัสได้ถึงความสะพรึงที่กำลังจะอุบัติต่อจากนี้จนไฟ Spotlight ค่อย ๆ ฉายเป็นห้อง ๆ หนึ่งที่มีอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์วางไว้อย่างเป็นระเบียบจนมีแม่บ้านคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลนโดยมีคนขับไรเดอร์เดินเข้ามาตามหลัง จากนั้นทั้ง 2 ยืนคุยกันจนเริ่มตรัสรู้ในนาทีต่อมาว่าเพิ่งกลับมาจากการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพักถึงเรื่องคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในคอนโดที่ทั้ง 2 รวมถึงเจ๊ 2 ที่เพิ่งเข้ามาร่วมวงสนทนาในฐานะคนที่อาศัยอยู่ในที่เกิดเหตุแห่งนี้ พอทั้ง 3 ยืนประชุมหน้ากองไฟแล้วตัวเรื่องก็จะพาเราย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดอะไรกันแน่ ?

- ด้วยวิธีการเล่าตามที่กล่าวไปตอนต้นระหว่างดูในใจก็คิดว่าจะดูลำบากมั้ย ? ในเมื่อมีนักแสดงเพิ่มขึ้นจากเรื่องที่แล้วถึง 3 นำโดยคุณเท่าฟ้า , คุณรัชชานนท์ และ คุณโมฬีวรรณ สมทบกับ คุณปวิตร , คุณเมจิ และ คุณชอน จากละครเวทีเรื่องที่แล้วรอ Standby เรียบร้อยก่อนแล้ว ถ้าไม่นับคุณบัวที่มารับเชิญประกอบเสริมกับคุณนอทที่มารับจ๊อบเสริมในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็น พอดูจบแล้วขอประมวลผลซัก 4-5 วันปรากฏว่าไม่ได้ยากลำบากใด ๆ  เพราะถ้าดูภาพ Poster ก็พอคาดเดาได้อยู่ว่าแต่ละคนได้แบ่งทีมโอน้อยออกแล้วว่าใครอยู่ทีมไหน ? แล้วคุณดำเกิงในฐานะผู้กำกับที่ได้นำเรื่องสั้น In a Grove (1922) ของ Ryunosuke Akutagawa และหนัง Classic อย่าง Rashomon (1950) มาดัดแปลงให้เข้าถึงบริบทในปัจจุบันที่เราดูไปสามารถสัมผัสถึงความร่วมสมัยจากการลำดับเรื่องก็ดีหรือตัวบทพูดที่ทันกระแสบ้านเมืองอย่างกะดูหอแต๋วแตกที่ยังคงแก่นโครงของเรื่องตามต้นฉบับไว้เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้วไม่หายไปไหนเหมือนเรื่องที่ผ่านมาแล้วกำหนดว่าทีมไหนจะโผล่ออกมาก่อนตามลำดับ

- ขณะประติดประต่อ Details จากปากของแต่ละคนสังเกตุได้ว่าช่วงที่มีการเปลี่ยนไฟส่องนักแสดงแต่ละทีมหรือเสียงฝนตกตามด้วยเสียงฟ้าผ่านอกจากช่วยเบี่ยงเบนอาการปวดกบาลที่สะสมจี๊ด ๆ มาแต่ต้นจนค่อย ๆ ทุเลาลงแล้วยังช่วยกระตุ้นบรรยากาศมีความอมพะนำอย่างไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ที่วนอยู่แต่ในคอนโดจนเริ่มคาดการณ์ลำบากว่าสิ่งที่เห็น อย่างเช่นความสัมพันธ์ 3 เส้าระหว่างคุณชอน , คุณเมจิ และ คุณเท่าฟ้า ที่ซับซ้อนซ่อนเสวไม่แพ้เรื่องที่แล้วและไหนจะอารมณ์ม่วนซื่นของทีมคุณปวิตร , คุณรัชชานนท์ และ คุณโมฬีวรรณที่แข่งกันประสานมุขจนไหลไปถึงเรื่องผีได้ไงว่าจะใช่สิ่งที่คิดไว้หรือเปล่า ? ยิ่งเห็นแต่ละคนพูดไปทางก็ยิ่งปวดขมับไปใหญ่

- จนเมื่อแน่ใจแล้วว่าดูท่าจะแยกครี้แยกเย่วลำบากแล้วก็เลยปล่อย Joint ตามไปเรื่องที่เริ่มควบคุมไม่อยู่จนนำไปสู่บทสรุปที่ผมโอเคกับการมา way นี้ มองว่ามันสะท้อนกับความจริงที่เป็นอยู่อย่างบริสุทธิ์ใจว่า ถึงอยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพูดเหมือนกันหมด ถ้าสิ่งที่คิดก่อนจะพูดหรือทำออกไปมันอาจส่งผลกระทบต่อตนเองก็จะพยายามหาทางเลี่ยงบาลีให้มากที่สุด เว้นแต่ถ้าไม่กลัวผลตามมาแล้วบอกให้โลกรู้ไปเลยว่ากูนี่แหล่ะที่เป็นคนฆ่า แล้วอย่างนี้จะมีกฎหมายไว้ทำไม ? ถ้ามีคนคิดอยากจะทำอะไรก็ทำตามอำเภอใจโดยไม่สนต่อมสำนึกทางศีลธรรม ฉะนั้นสำหรับผมนอกจากละครเวทีสามารถตีแผ่สังคมในปัจจุบันได้ปวดแสบจนเริ่มข่มขืนตามหลังแล้วยังปั่นประสาทจนเขว้ลงข้างทางได้สำเร็จอีกด้วย


ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
ชื่อสินค้า:   Review By EMistique
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่