กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ขอเชิญชวนผู้กู้ยืมทุกรายเร่งชำระเงินคืนภายในวันที่
5 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระเงินคืนรายปี เพื่อร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียน นักศึกษารุ่นน้องต่อไป
นางสาวนันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุน กยศ. เปิดเผยว่า ปีนี้มีผู้กู้ยืมที่ต้องชำระเงินคืนประมาณ 3.5 ล้านบัญชี กยศ. ได้ส่งหนังสือแจ้งภาระหนี้ รวมถึงการแจ้งเตือนผ่าน SMS และแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ไปยังผู้กู้ยืมทั้งหมดแล้ว
ข้อจำกัดงบประมาณ ดันคลังเข้มงวดปล่อยกู้ปีหน้า
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า กยศ. กำลังเผชิญกับ
ข้อจำกัดด้านงบประมาณ หลังการแก้ไขกฎหมาย กยศ. ฉบับใหม่ที่ปรับลดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และลำดับการชำระหนี้ ทำให้กองทุนต้องพึ่งพาการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐมากขึ้น โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเงินจากงบกลางฯ จำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าปัญหาการเมืองในปัจจุบันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณส่วนนี้
ด้วยเหตุนี้
การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ กยศ. ในปีการศึกษาหน้าจะมีความเข้มงวดมากขึ้น กระทรวงการคลังจะเชื่อมโยงระบบกับส่วนราชการอื่น เพื่อตรวจสอบรายได้ครัวเรือนของผู้กู้ยืมอย่างละเอียด โดยจะให้โอกาสทางการศึกษาแก่
ผู้มีรายได้น้อยเป็นลำดับแรก
นอกจากนี้
สาขาวิชาที่ผู้กู้ยืมศึกษาจะมีผลต่อการพิจารณา โดยสาขาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน เช่น วิศวกร, การแพทย์, อุตสาหกรรม EV, และ AI จะได้รับการพิจารณาก่อน เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการมีงานทำและศักยภาพในการชำระหนี้คืนในอนาคต ส่วนสาขาอื่นจะได้รับการพิจารณาหากยังมีงบประมาณเหลืออยู่
ช่องทางการชำระเงินที่สะดวกสบาย
กยศ. ขอเชิญชวนผู้กู้ยืมชำระเงินคืนตามกำหนด โดยสามารถชำระผ่านช่องทาง
Mobile Banking ของทุกธนาคารด้วยการสแกน QR Code ซึ่งสะดวกและทำได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ผู้กู้ยืมสามารถดูช่องทางการชำระเงินอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th
ปัจจุบัน กยศ. ได้มอบโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษาไปแล้วกว่า 7.1 ล้านคน คิดเป็นเงินกู้ยืมกว่า 800,000 ล้านบาท
ที่มา
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9833826
กยศ. วอนผู้กู้ยืมเร่งชำระคืนภายใน 5 ก.ค. นี้ มอบโอกาสรุ่นน้อง ด้านคลังเตรียมคุมเข้มการอนุมัติเงินกู้ปีหน้า
นางสาวนันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุน กยศ. เปิดเผยว่า ปีนี้มีผู้กู้ยืมที่ต้องชำระเงินคืนประมาณ 3.5 ล้านบัญชี กยศ. ได้ส่งหนังสือแจ้งภาระหนี้ รวมถึงการแจ้งเตือนผ่าน SMS และแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ไปยังผู้กู้ยืมทั้งหมดแล้ว
ข้อจำกัดงบประมาณ ดันคลังเข้มงวดปล่อยกู้ปีหน้า
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า กยศ. กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดด้านงบประมาณ หลังการแก้ไขกฎหมาย กยศ. ฉบับใหม่ที่ปรับลดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และลำดับการชำระหนี้ ทำให้กองทุนต้องพึ่งพาการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐมากขึ้น โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเงินจากงบกลางฯ จำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าปัญหาการเมืองในปัจจุบันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณส่วนนี้
ด้วยเหตุนี้ การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ กยศ. ในปีการศึกษาหน้าจะมีความเข้มงวดมากขึ้น กระทรวงการคลังจะเชื่อมโยงระบบกับส่วนราชการอื่น เพื่อตรวจสอบรายได้ครัวเรือนของผู้กู้ยืมอย่างละเอียด โดยจะให้โอกาสทางการศึกษาแก่ ผู้มีรายได้น้อยเป็นลำดับแรก
นอกจากนี้ สาขาวิชาที่ผู้กู้ยืมศึกษาจะมีผลต่อการพิจารณา โดยสาขาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน เช่น วิศวกร, การแพทย์, อุตสาหกรรม EV, และ AI จะได้รับการพิจารณาก่อน เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการมีงานทำและศักยภาพในการชำระหนี้คืนในอนาคต ส่วนสาขาอื่นจะได้รับการพิจารณาหากยังมีงบประมาณเหลืออยู่
ช่องทางการชำระเงินที่สะดวกสบาย
กยศ. ขอเชิญชวนผู้กู้ยืมชำระเงินคืนตามกำหนด โดยสามารถชำระผ่านช่องทาง Mobile Banking ของทุกธนาคารด้วยการสแกน QR Code ซึ่งสะดวกและทำได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ผู้กู้ยืมสามารถดูช่องทางการชำระเงินอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th
ปัจจุบัน กยศ. ได้มอบโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษาไปแล้วกว่า 7.1 ล้านคน คิดเป็นเงินกู้ยืมกว่า 800,000 ล้านบาท
ที่มา https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9833826