เรื่องมีอยู่ว่า น้องชายรองผม ทุ่มเทซื้อแมว2ตัวให้กับน้องผู้หญิงทั้งๆที่พึ่งรู้จักกันยังไม่ถึงเดือน และออก คชจ. เกือบทุกอย่าง ทั้งอาหาร/ของใช้แมว/วัคซีน ฯลฯ โดยแมวนำไปเลี้ยงที่บ้านน้องผู้หญิง
.
ผ่านมา2สัปดาห์ ทางบ้านน้องผู้หญิงไม่อยากให้เลี้ยง ​น้องชายผมก็เลยนำแมวกลับมาไว้ที่บ้าน ที่จริงทางบ้านผมก็ไม่อยากให้เลี้ยงเช่นกัน ​เพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ชอบ น้องชายรองผมเลยบอกพ่อแม่ไปว่าจะเลี้ยงในห้องไม่ให้ออกไปไหน
.
ช่วง1เดือนในการนำแมวมาไว้ที่บ้าน ชั้นสองของบ้านกลิ่นอึแมวฉี่แมวแรงมาก จนพ่อแม่บ่น ใช้น้ำยาปรับอากาศ ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก แค่แม่เดินผ่านห้องน้อง กลิ่นก็แรงมากแล้วและต่อมาเป็นสิ่งที่ทำให้แม่โมโหจนยื่นคำขาดให้เอาแมวออกไปจากบ้าน คือหมัดแมวเต็มบ้านเลย เป็นสิ่งที่แม่กลัวที่สุด แม่ผมไม่ใช้คนที่เกียจแมวอะไรขนาดนั้น แต่แม่เป็นที่แพ้พวกแมลงหนักกว่าทุกคนในบ้าน อย่างแตนต่อย พ่อผมเฉยๆไม่เป็นอะไร แต่แม่ผมถึงกับต้องหามส่งโรงบาล ส่วนหมัดแมวแม่ผมโดนทั่วตัวเลย6-8จุดและหายช้ามากๆ ​ผมโดนแค่ที่เท้า2จุด สุดท้ายน้องผมแก้ปัญหาโดยให้น้องผู้หญิงไปเลี้ยงที่หอเพราะใกล้เปิดเทอม เลยทนอยู่จนกว่าจะนำแมวไปให้น้องผู้หญิง หลังจากนั้นทำความสะอาดบ้านยกใหญ่ทั้งฉีดยากำจัดหมัดทั่วบ้าน
.
ช่วงนำแมวไปเลี้ยงที่หอพัก(หอพักสามารถเลี้ยงแมวได้) ส่วนน้องผมก็แวะไปหาและเล่นกับแมวสัปดาห์ละ1-2ครั้ง
.
ผ่านมายังไม่ถึงเดือนน้องผู้หญิงก็สร้างปัญหาให้กับหอพัก คือน้องเค้าชอบชวนเพื่อนมาดื่มสังสรรค์ที่ห้องบ่อยมาก เสียงดังจนรบกวนผู้เข้าพักคนอื่นๆ จนเจ้าของหอต้องเชิญออก
.
น้องผู้หญิงก็นำแมวกลับมาเลี้ยงที่บ้าน ที่บ้านน้องผู้หญิงก็ไม่ให้เลี้ยงเหมือนเดิม ทางบ้านผมก็ไม่ให้เลี้ยงเหมือนกัน
.
สุดท้ายน้องผมก็นำแมวกลับมาแต่ไม่นำมาไว้บ้าน เพราะรู้ว่าพ่อแม่ไม่ให้ แต่นำไปฝากให้น้องชายคนเล็กเลี้ยงแทน ​โดยจะช่วยออกค่าอาหารแมว วัคซีน ต่างๆ น้องชายคนเล็กผมเลี้ยงแมว3ตัว เพิ่มมาจากน้องคนรองไปอีก ก็5ตัวละ
.
ตอนนี้หลังจากนี้ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก น้องชายคนเล็กผมเช่าหอพักเพราะทำงาน ตอนนี้ออกจากงานมาทำขนม/อาหารขาย รายได้ดีกว่า มีแมวมาให้เลี้ยงเพิ่มอีก ​ไม่สร้างภาระเพิ่มอีกเหรอ? ส่วนแม่ผมก็กังวลเรื่องความสะอาดในการทำขนม/อาหารที่น้องจะไปขายอีก