แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน ปี 2536

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
ก่อนการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 แรงงานไทย 79.1%  มีการศึกษาระดับประถมหรือต่ำกว่า เพราะ รัฐธรรมนูญ 2534 ให้สิทธิการศึกษาเพียงชั้นประถม หรือ เท่ากับ พระราชบัญญัติประถมศึกษา 2448

คนชนบทจึงต้องละทิ้ง ถิ่นฐาน บ้าน และ ครอบครัว เพื่อมาตายดาบหน้าในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากต้องทน กับ ความอดหยาก และ  แร้นแค้นในชนบท


ปี 2536 สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) : ปรัชญาเศรษฐศาสตร์เพื่อประชาชน ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ ของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล 



ในฐานะผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย คนที่ 5 คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล จัดทำแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ คือ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ตามพันธกิจรางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย



เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ลดความหนาแน่นของประชากร และ กระจายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้เชียงใหม่เติบโตควบคู่ไปกับกรุงเทพมหานคร ในฐานะเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา



 
สำหรับประเทศไทย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีทุนตามธรรมชาติคือ  ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และ อัธยาศัยไมตรีของคนไทย





การพัฒนาเฉพาะกรุงเทพมหานคร จนกระทั่ง กลายเป็น เมืองโตเดี่ยว โดยไม่กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ได้นำไปสู่ปัญหาความแออัดในเขตเมือง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนการใช้ทรัพยากรอย่างไม่สมดุล



ปี2536 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สังกัดกระทรวงมหาดไทย จัดทำระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ ในขณะนั้น MRT ขึ้นกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ก่อนจะโอนไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี, กรุงเทพมหานคร สังกัด กระทรวงมหาดไทย โดยพรรค พลังธรรมให้ สัมปทาน BTS



คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล จึงเสนอให้ จัดทำแผนแม่บทปฏิรูประบบราชการตั้งแต่ ปี 2537  ในรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชวน 1 เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างเป็นรูปธรรม ลดปัญหาระหว่างหน่วยงานราชการ จนกระทั่งสำเร็จในปี 2540 นับเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
 
การปฏิรูประบบราชการ ในประเทศไทย

ครั้งที่ 1  ภายใต้ระบอบราชาสมเด็จพระบรมโตรโลกนาถ หรือ พระราเมศวร รัชกาลที่ 8แห่งกรุงศรีอยุธยา




ครั้งที่ 2 สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 แห่งสยามประเทศ ยุตสมบูรณาญาสิทธิราช


ครั้งที่ 3 แผนแม่บทปฏิรูประบบราชการ (2540-2544)




แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่ จัดทำและศึกษาความเป็นไปได้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ปี 2536 ด้วยมาตรฐานเดียวกับ แผนแมบทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (MTMP) ระยะทาง 135กิโลเมตรขององค์การรถไฟฟามหานคร (MRT)และ ระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อเข้าสูระบบหลัก
11 สายระยะทาง 206 กิโลเมตร รวมเป็น 341 กิโลเมตร โดยเป็น Public-Private-Partnership ตัวอย่างโครงสร้างพื้นฐานทีเป็น PPP

Timelineเค้าล้อเล่นublic-Private-Partnership
ปี 2537 PPP สะพานมิตรภาพ
ปี 2537 PPP รถไฟใต้ดิน MRT
ปี 2539 PPP ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


ความจริงเชิงประจักษ์ ในปัจจุบัน รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สร้างโดยรัฐ ต้นทุนถูกกว่าบนดิน ซึ่งสร้างโดยการให้สัมปทานเอกชน BTS เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือในฐานะประเทศด้อยพัฒนา มีการดำเนินการอย่างโปร่งใสเพื่อประชาชน ต่างจากโครงการสัมปทานเพราะ ผลตอบแทนของ MRT คือ ความก้าวหน้าของประเทศไทย  ไม่ใช่จำนวนเงิน ค่าโดยสาร MRT จึงถูกกว่า BTS และ มีบริการสถานี Soft Power เพื่อให้นักท่องเที่ยวพักผ่อน & ถ่ายภาพ  รวมทั้งติดเครื่องปรับอากาศ บริเวณสถานีและทางเดิน














 
เชียงใหม่มีทรัพยากร สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพร้อมทุกประการ และ มากกว่ากรุงเทพมหานครเสียอีก ด้านสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ทั้งภูเขา และ น้ำตก ในขณะที่ กรุงเทพมหานคร มีเพียง โบราณสถาน วัฒนธรรม แต่ไม่มีธรรมชาติ

สาเหตุซึ่งกรุงเทพมหานครติดอันดับต้นๆ เมืองท่องเที่ยวระดับโลก ทิ้งห่างเชียงใหม่ ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว และ รายได้จากการท่องเที่ยว เนื่องจากเชียงใหม่ไม่มีระบบขนส่งมวลชน


วันนั้นในปี 2536 คุณพ่อสุขวิช รังสิตจะตั้งเป้าหมาย พลิกโฉม ชลบุรี และ ฉะเชิงเทรา 2 เมืองใน 8 เมือง ของ แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่
ให้เป็นเมืองท่าอุตสาหกรรมชายทะเล ของ ประเทศไทย เช่นเดียวกับ หลายๆเมืองในโลก ซึ่งปัจจุบันเซินเจิ้นเป็น 1 ในเมืองเหล่านั้น ด้วยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น ระบบขนส่งมวลชน 8เมืองใหญ่


สุขวิชโนมิกส์— แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่  เพื่อพลเมืองไทยทุกคน เท่าเทียม ทั่วทั้งแผ่นดินไทย

ก่อนยุคประชานิยม ก่อนระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพมหานครแล้วเสร็จ พลเมืองไทยในจังหวัดเชียงใหม่ มีรายได้รวมไม่ต่างจากกรุงเทพมหานคร จึงส่งผลให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยในปี 2536 เลือกเมืองเชียงใหม่เป็นจังหวัดนำร่อง ในการสร้างระบบขนส่งมวลชนก่อนกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีการต่อต้านว่ากรุงเทพมหานครดินอ่อน และ สร้างรถไฟใต้ดินไม่ได้ ตั้งแต่ปี 2536

ประเทศไทยเปลี่ยนมาใช้ระบบประชานิยม เน้นแจกเงิน ทั้งรัฐบาลพลเรือน และ รัฐบาลทหาร  หยุดการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากปี2544  ใช้แนวทางประชานิยมทุกรัฐบาลทั้งพลเรือน และ รัฐบาลทหาร ตั้งแต่ปี 2544 -2568 เน้นแจกส่งผลให้แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ขึ้นหิ้ง 31ปี
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่