หัวข้อที่ผมจะพูดต่อไปนี้อาจจะอ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิด อ่านแล้วรู้สึกไม่พอใจ/ไม่สบายใจ
ขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ
ทั้งนี้คือการระบายโดยที่ผมไม่อยากให้คนรอบตัวหรือคนรู้จักผม รู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย
ผมเป็นนักศึกษา เรียนป.ตรี อายุ 21 กำลังเข้าสู่ช่วงฝึกงานก็จริง แต่ที่ผ่านมาผมไม่ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจทำงานส่งในแบบที่ควร เพราะผมจะปล่อยให้มันผ่านไปวันๆ เข้าไปในคลาสรับความรู้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนอย่างเดียว
พออาจารย์สั่งงานมาถ้างานเดี่ยวผมปล่อยทิ้งเลย พองานกลุ่มผมก็ต้องมีความรับผิดชอบช่วยทำงานหน่อย ทำสุดความสามารถในสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบในงานกลุ่ม
มันฟังดูแปลกๆ ว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับหัวข้อกระทู้ที่ผมตั้งมา
ลึกๆ แล้วผมฝืนความตั้งใจผมมากๆ ที่ผมเลือกที่มาเรียนตั้งแต่แรกเพราะอยากให้ทีบ้านมีใบปริญญาติดบ้านหน่อยก็ดี แต่พอเริ่มรู้สึกไม่ไหว จะถอนตัวก็กลัวจะทำให้คนรอบตัว ญาติโกโหติกาผิดหวัง ท้อแท้ตั้งแต่เรียนถึงปี 2 ฝืนมากๆ หลังๆ เริ่มมามหาลัยเพื่อใช้ชีวิตพบปะเพื่อนฝูงเฉยๆ ละ ตั้งแต่ปีแรกก็ไฟแรงอยู่ล่ะตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานส่ง แต่หลังๆ ก็จะเป็นแบบที่ผมเล่ามาตั้งแต่แรก
เหนื่อยเรียนไม่พอเหนื่อยเดินทางต้องขับรถวันละ 80 กิโลไปกลับเพื่อไปเรียนแล้วกลับบ้านมาดูแลยายที่บ้านอีก เหนื่อยเดินทางก็จริงเสียเวลามากด้วย
แต่ให้ที่บ้านช่วยลดภาระตรงนี้ได้เยอะเลย ไม่เสียค่าข้าวไม่เสียค่าที่อยู่ ซักผ้าก็ฟรีด้วยที่บ้านรับทำซักรีดพอดี และที่สำคัญมีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ
แต่ผลเสียหนักๆ ที่ตามมาเลยคือ ทำงานยาก อยู่มหาลัยทำงานดึกไม่ได้ ประสานงานกับเพื่อนก็ยาก พอเป็นงี้งานมันก็ไม่ค่อยเคลื่อนจนหลายๆ ครั้งผมก็คิดได้ว่าหรือเราจะไม่เหมาะกับการเรียนมหาลัยจริงๆ วะ
ท้อแท้ หมดกำลังใจ แต่ที่บ้านยังคาดหวังให้เรียนต่อเคยเปิดอกคุยขอออกดีๆ ก็แล้ว แต่ก็ยังยืนยันให้เรียนต่อไปเถอะใกล้จะจบละ ฝืนจนถึงตอนนี้ที่มหาลัยเปิดเทอมแล้ว เพื่อนน่าจะไปฝึกงานกันหมดละ แต่ผมไม่ได้ยื่นฝึกงานแล้วนอนเปื่อยไปวันๆ นั่งหน้าคอมเล่นเกมให้ชีวิต

ผ่านไปวันๆ เลย
พอมีใจอยากจะออกมาทำงานก็รู้สึกไม่มั่นคงอีก เพราะทำงานไปเดี๋ยวก็ต้องกลับไปเรียนอีก แล้วก็ต้องพลาดโอกาสทำงานไปอีก จะทำพาร์ทไทม์ก็ได้แต่ผมอยากทำงานยาวๆ ลดภาระการใช้จ่ายที่บ้านอะ แต่เค้าอยากให้ผมตั้งใจเรียน ทุกวันนี้นอกจากใช้ชีวิตไปวันๆ พยายามเล่นเกมหาเงินเล็กๆ น้อยๆ มาลดภาระตัวเองไม่ว่าจะค่าเน็ตหรือค่าขนม ช่วยงานบ้านบ้าง พายายไปจ่ายตลาดทุกวัน แต่พอทำงี้ทุกวันมันก็ดูจะเป็นภาระมากกว่าจะลดภาระ ใช่ผมก็คิดอย่างงั้นมาตลอดเลย ทั้งที่จริงๆ "ผมควรจะทำประโยชน์ได้มากกว่านี้" เป็นความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวผมแม้กระทั่งตอนจะนอน มันทำให้ผมนอนไม่หลับ/นอนไม่เป็นสุขมาเป็นปีละ อาการนอนไม่หลับก็ค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ แรกๆ ก็ตี 1 ไล่ไปตี 3(เวลาปกติจะประมาณนี้) ช่วงนี้ก็ตี 4 ลากจนถึง 7 โมงเช้าเลยก็มี
ช่วงนี้ผมก็เลยจะมีกลุ่มเพื่อนออนไลน์นั่งเล่นเกมด้วยกัน บางทีก็โต้รุ่งเลยก็มี แล้วมันจะกลายมาเป็นปัญหาที่ทำให้ผมต้องมาตั้งกระทู้นี้ แม่ผมบ่นเกือบทุกวัน ทำงานเหนื่อยๆ เวลานอนก็น้อยมากๆ แต่ลูกชายมีเวลานอนตั้งเยอะกลับไม่นอน
ล่าสุดแม่ทะเลาะกับผม แบบแกไม่ไหวแล้วจริงๆ แกทำงานเหนื่อยทุกวัน ผมเข้าใจและผมสงสารแม่มาก แต่ผมกลับช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย อย่างมากคือพยายามลดภาระแค่บางอย่างที่แม่ดูแลไม่ไหว
การทะเลาะครั้งนี้ แม่เป็นฝ่ายเดียวที่ระบายคำพูดแบบสุดจะทนต้องเค้าออกมา แต่ผมไม่ตอบโต้อะไรเลย เหมือนผมจะทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็จริง แต่ผมร่างกายชาไปทั้งตัวเลย ที่ผมเลือกที่จะไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดอะไรออกไปเลย เพราะตอนนั้นแม่ผมคงไม่ใจเย็นฟังผมแน่นอน แล้วตอนนั้นแม่ผมจะออกไปทำงานแล้วด้วย แม่สตาร์ทมอไซบิดเสียงดังมากขี่ออกไปเลย ผมกลัวแทบบ้ากลัวแม่จะเป็นไรไประหว่างทางมั้ย แม่เป็นอะไรขึ้นมาผมคงปล่อยโฮเป็นคนบ้าไปเลย ผมนั่งซึมเป็นชม. ส่วนยายตื่นเช้ามาทำงานซักรีดตามปกติ ผมก็พยายามไม่ร้องให้ยายเห็นละ แต่ยายน่าจะได้ยินเสียงทะเลาะแหละ พยายามหนีมาร้องไห้คนเดียว ในความคิดที่วนเวียนตอนนี้คือ ถ้าเราไม่เคยมีตัวตนอยู่ในชีวิตของคนรอบตัว ชีวิตเค้าจะมีความสุขมากกว่านี้มั้ย มีชีวิตต่อจะดีหรอ จะหนีออกจากบ้านก็ใช่เรื่องอยู่ จะฆตต. ทำร้ายตัวเอง

ก็ขี้ขลาดดีว่ะ อยู่ต่อก็มีแต่ทุกข์ตัวเองกับทุกข์คนรอบข้าง
ตอนนี้ ณ เวลาที่พิมพ์อยู่ผมยังอยู่ดีนะครับ สำหรับคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ อย่างน้อยให้ความเห็นในแบบของคุณหน่อยว่ามันควรจะทำยังไงต่อจากนี้ ด่าได้ตามสบายถ้าคุณสุดจะทนเช่นกัน ขอบคุณพวกคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ และขอบคุณคำตอบของพวกคุณล่วงหน้าด้วยนะครับ
คุ้มค่ามั้ยที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ในเมื่อตัวเองยังไม่ค่อยทำประโยชน์ใดๆ ให้คนรอบตัว
ขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ
ทั้งนี้คือการระบายโดยที่ผมไม่อยากให้คนรอบตัวหรือคนรู้จักผม รู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย
ผมเป็นนักศึกษา เรียนป.ตรี อายุ 21 กำลังเข้าสู่ช่วงฝึกงานก็จริง แต่ที่ผ่านมาผมไม่ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจทำงานส่งในแบบที่ควร เพราะผมจะปล่อยให้มันผ่านไปวันๆ เข้าไปในคลาสรับความรู้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนอย่างเดียว
พออาจารย์สั่งงานมาถ้างานเดี่ยวผมปล่อยทิ้งเลย พองานกลุ่มผมก็ต้องมีความรับผิดชอบช่วยทำงานหน่อย ทำสุดความสามารถในสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบในงานกลุ่ม
มันฟังดูแปลกๆ ว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับหัวข้อกระทู้ที่ผมตั้งมา
ลึกๆ แล้วผมฝืนความตั้งใจผมมากๆ ที่ผมเลือกที่มาเรียนตั้งแต่แรกเพราะอยากให้ทีบ้านมีใบปริญญาติดบ้านหน่อยก็ดี แต่พอเริ่มรู้สึกไม่ไหว จะถอนตัวก็กลัวจะทำให้คนรอบตัว ญาติโกโหติกาผิดหวัง ท้อแท้ตั้งแต่เรียนถึงปี 2 ฝืนมากๆ หลังๆ เริ่มมามหาลัยเพื่อใช้ชีวิตพบปะเพื่อนฝูงเฉยๆ ละ ตั้งแต่ปีแรกก็ไฟแรงอยู่ล่ะตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานส่ง แต่หลังๆ ก็จะเป็นแบบที่ผมเล่ามาตั้งแต่แรก
เหนื่อยเรียนไม่พอเหนื่อยเดินทางต้องขับรถวันละ 80 กิโลไปกลับเพื่อไปเรียนแล้วกลับบ้านมาดูแลยายที่บ้านอีก เหนื่อยเดินทางก็จริงเสียเวลามากด้วย
แต่ให้ที่บ้านช่วยลดภาระตรงนี้ได้เยอะเลย ไม่เสียค่าข้าวไม่เสียค่าที่อยู่ ซักผ้าก็ฟรีด้วยที่บ้านรับทำซักรีดพอดี และที่สำคัญมีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ
แต่ผลเสียหนักๆ ที่ตามมาเลยคือ ทำงานยาก อยู่มหาลัยทำงานดึกไม่ได้ ประสานงานกับเพื่อนก็ยาก พอเป็นงี้งานมันก็ไม่ค่อยเคลื่อนจนหลายๆ ครั้งผมก็คิดได้ว่าหรือเราจะไม่เหมาะกับการเรียนมหาลัยจริงๆ วะ
ท้อแท้ หมดกำลังใจ แต่ที่บ้านยังคาดหวังให้เรียนต่อเคยเปิดอกคุยขอออกดีๆ ก็แล้ว แต่ก็ยังยืนยันให้เรียนต่อไปเถอะใกล้จะจบละ ฝืนจนถึงตอนนี้ที่มหาลัยเปิดเทอมแล้ว เพื่อนน่าจะไปฝึกงานกันหมดละ แต่ผมไม่ได้ยื่นฝึกงานแล้วนอนเปื่อยไปวันๆ นั่งหน้าคอมเล่นเกมให้ชีวิต
พอมีใจอยากจะออกมาทำงานก็รู้สึกไม่มั่นคงอีก เพราะทำงานไปเดี๋ยวก็ต้องกลับไปเรียนอีก แล้วก็ต้องพลาดโอกาสทำงานไปอีก จะทำพาร์ทไทม์ก็ได้แต่ผมอยากทำงานยาวๆ ลดภาระการใช้จ่ายที่บ้านอะ แต่เค้าอยากให้ผมตั้งใจเรียน ทุกวันนี้นอกจากใช้ชีวิตไปวันๆ พยายามเล่นเกมหาเงินเล็กๆ น้อยๆ มาลดภาระตัวเองไม่ว่าจะค่าเน็ตหรือค่าขนม ช่วยงานบ้านบ้าง พายายไปจ่ายตลาดทุกวัน แต่พอทำงี้ทุกวันมันก็ดูจะเป็นภาระมากกว่าจะลดภาระ ใช่ผมก็คิดอย่างงั้นมาตลอดเลย ทั้งที่จริงๆ "ผมควรจะทำประโยชน์ได้มากกว่านี้" เป็นความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวผมแม้กระทั่งตอนจะนอน มันทำให้ผมนอนไม่หลับ/นอนไม่เป็นสุขมาเป็นปีละ อาการนอนไม่หลับก็ค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ แรกๆ ก็ตี 1 ไล่ไปตี 3(เวลาปกติจะประมาณนี้) ช่วงนี้ก็ตี 4 ลากจนถึง 7 โมงเช้าเลยก็มี
ช่วงนี้ผมก็เลยจะมีกลุ่มเพื่อนออนไลน์นั่งเล่นเกมด้วยกัน บางทีก็โต้รุ่งเลยก็มี แล้วมันจะกลายมาเป็นปัญหาที่ทำให้ผมต้องมาตั้งกระทู้นี้ แม่ผมบ่นเกือบทุกวัน ทำงานเหนื่อยๆ เวลานอนก็น้อยมากๆ แต่ลูกชายมีเวลานอนตั้งเยอะกลับไม่นอน
ล่าสุดแม่ทะเลาะกับผม แบบแกไม่ไหวแล้วจริงๆ แกทำงานเหนื่อยทุกวัน ผมเข้าใจและผมสงสารแม่มาก แต่ผมกลับช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย อย่างมากคือพยายามลดภาระแค่บางอย่างที่แม่ดูแลไม่ไหว
การทะเลาะครั้งนี้ แม่เป็นฝ่ายเดียวที่ระบายคำพูดแบบสุดจะทนต้องเค้าออกมา แต่ผมไม่ตอบโต้อะไรเลย เหมือนผมจะทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็จริง แต่ผมร่างกายชาไปทั้งตัวเลย ที่ผมเลือกที่จะไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดอะไรออกไปเลย เพราะตอนนั้นแม่ผมคงไม่ใจเย็นฟังผมแน่นอน แล้วตอนนั้นแม่ผมจะออกไปทำงานแล้วด้วย แม่สตาร์ทมอไซบิดเสียงดังมากขี่ออกไปเลย ผมกลัวแทบบ้ากลัวแม่จะเป็นไรไประหว่างทางมั้ย แม่เป็นอะไรขึ้นมาผมคงปล่อยโฮเป็นคนบ้าไปเลย ผมนั่งซึมเป็นชม. ส่วนยายตื่นเช้ามาทำงานซักรีดตามปกติ ผมก็พยายามไม่ร้องให้ยายเห็นละ แต่ยายน่าจะได้ยินเสียงทะเลาะแหละ พยายามหนีมาร้องไห้คนเดียว ในความคิดที่วนเวียนตอนนี้คือ ถ้าเราไม่เคยมีตัวตนอยู่ในชีวิตของคนรอบตัว ชีวิตเค้าจะมีความสุขมากกว่านี้มั้ย มีชีวิตต่อจะดีหรอ จะหนีออกจากบ้านก็ใช่เรื่องอยู่ จะฆตต. ทำร้ายตัวเอง
ตอนนี้ ณ เวลาที่พิมพ์อยู่ผมยังอยู่ดีนะครับ สำหรับคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ อย่างน้อยให้ความเห็นในแบบของคุณหน่อยว่ามันควรจะทำยังไงต่อจากนี้ ด่าได้ตามสบายถ้าคุณสุดจะทนเช่นกัน ขอบคุณพวกคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ และขอบคุณคำตอบของพวกคุณล่วงหน้าด้วยนะครับ