วิหารธรรมคือขณะนั้น “จิตรู้อยู่กับอารมณ์อะไร”
มี ปิติ สุข อุเบกขา เป็นวิหารธรรม(ฌาน2,3,) คือ มีผู้รู้ เป็นผู้ดูการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ อันเป็นผู้ถูกรู้
ผู้ถูกรู้คืออารมณ์ทางขันธ์5แต่ละขณะ อันได้แก่ อาการทาง กาย เวทนา จิต ธรรม เช่น ลมหายใจ เวทนา ความคิด สภาพจิตใจ การเดิน 9ล
สภาพจิตใจ สุข ทุกข์ ก็จัดเป็นผู้ถูกรู้หรืออารมณ์เช่นกัน
แต่ละขณะจึงมีแต่”ผู้รู้กับผู้ถูกรู้ ไม่มีเรา“
มีวิหารธรรม จึงคือขณะนั้นจิตอยู่กับอารมณ์อะไร
อยู่กับจิตใจตัวเองที่กว้างคลุมกาย หรืออารมณ์อะไรใหญ่ เล็ก กว้าง แคบ แค่ไหนก็ให้รู้
รู้แล้วก็ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไตรลักษณ์ “ทั้งผู้รู้และผู้ถูกรู้”
นี่เป็น “หลักสติปัฐฐาน”
วิหารธรรม
มี ปิติ สุข อุเบกขา เป็นวิหารธรรม(ฌาน2,3,) คือ มีผู้รู้ เป็นผู้ดูการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ อันเป็นผู้ถูกรู้
ผู้ถูกรู้คืออารมณ์ทางขันธ์5แต่ละขณะ อันได้แก่ อาการทาง กาย เวทนา จิต ธรรม เช่น ลมหายใจ เวทนา ความคิด สภาพจิตใจ การเดิน 9ล
สภาพจิตใจ สุข ทุกข์ ก็จัดเป็นผู้ถูกรู้หรืออารมณ์เช่นกัน
แต่ละขณะจึงมีแต่”ผู้รู้กับผู้ถูกรู้ ไม่มีเรา“
มีวิหารธรรม จึงคือขณะนั้นจิตอยู่กับอารมณ์อะไร
อยู่กับจิตใจตัวเองที่กว้างคลุมกาย หรืออารมณ์อะไรใหญ่ เล็ก กว้าง แคบ แค่ไหนก็ให้รู้
รู้แล้วก็ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไตรลักษณ์ “ทั้งผู้รู้และผู้ถูกรู้”
นี่เป็น “หลักสติปัฐฐาน”