ในวัยเด็ก หนังสือมักเป็นสิ่งที่เราอ่านเพราะ “ต้องอ่าน” ไม่ว่าจะเพื่อการบ้านหรือเตรียมสอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราได้พบกับหนังสือเล่มหนึ่งที่เปลี่ยนความหมายของการเรียนรู้ไปโดยสิ้นเชิง มันไม่ใช่แค่หนังสือ แต่มันคือประตูสู่ความเข้าใจชีวิต ประเด็นต่างๆ ถูกเล่าผ่านภาษาที่จับต้องได้ ชวนให้ตั้งคำถาม และเปิดมุมมองใหม่
1. ATOMIC HABITS เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น

ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า “อยากเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น แต่ทำไมมันยากจัง” หรือ “ตั้งเป้าไว้แต่ไปไม่ถึงสักที” หนังสือเล่มนี้คือคำตอบที่คุณต้องรู้
ก่อนอื่นเลย หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เจมส์ เคลียร์ นักเขียนชื่อดังที่เป็นกูรูด้านการสร้างนิสัย ตัวจริงเสียงจริง หนังสือเล่มนี้ดังมากกก ขายไปแล้วหลายล้านเล่มทั่วโลก แปลไปกว่า 40 ภาษา และติดอันดับ New York Times Bestseller ด้วย โอเค ฟังดูเว่อร์ แต่ที่มันเจ๋งจริงๆ เพราะมันพูดถึงวิธีเปลี่ยนนิสัยโดยใช้ หลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน การเงิน ความสัมพันธ์ สุขภาพ หรือแม้แต่ความคิดสร้างสรรค์ ทุกอย่างเริ่มจาก การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ทำได้ง่ายๆ แต่ผลลัพธ์มันยิ่งใหญ่สุดๆ
เจมส์ เคลียร์ บอกว่า ถ้าคุณพัฒนาตัวเองแค่วันละ 1% สม่ำเสมอ สะสมไปเรื่อยๆ มันจะพาคุณไปถึงเป้าหมายได้แบบไม่น่าเชื่อ ถ้าคุณอยากวิ่งมาราธอน อยากรวย หรืออยากมีหุ่นดี หนังสือเล่มนี้จะสอนวิธีที่ทำให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้จริงๆ โดยไม่ต้องฝืนตัวเองจนท้อ
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณเคยตั้งเป้าว่าจะตื่นเช้า ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือเลิกนิสัยแย่ๆ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวคุณ แต่เป็น ระบบ ที่คุณใช้ในการเปลี่ยนนิสัยต่างหาก เจมส์ เคลียร์ ใช้แนวคิดที่เรียกว่า Atomic Habits หรือนิสัยเล็กๆ ที่เหมือนอะตอม สะสมไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นพลังมหาศาล คล้ายๆ กับดอกเบี้ยทบต้นในวงการเงินเลย
2. จริง ๆ แล้วโลกดีขึ้นทุกวัน : Factfulness

ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า “โลกนี้มันแย่ลงทุกวัน” ข่าวร้ายเต็มไปหมด หรือรู้สึกท้อกับชีวิต หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเห็นว่า โลกไม่ได้แย่อย่างที่คิด และที่สำคัญ มันจะสอนให้คุณมองโลกด้วย ความจริง
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ฮันส์ รอสลิง แพทย์และศาสตราจารย์ด้านการพัฒนามนุษย์ที่ดังระดับโลก ได้รับการยกย่องจาก World Economic Forum, TIME, และ TED Talks ตัวพี่ฮันส์เนี่ยเป็นคนที่เก่งมากในการเอาข้อมูลมาอธิบายให้เราเห็นภาพว่าโลกมันดีขึ้นยังไง แม้ว่าสมองเราจะถูกหลอกให้คิดว่าโลกมันแย่ลงก็ตาม หนังสือเล่มนี้ดังมากกก สร้างปรากฏการณ์ทั่วโลก เพราะมันท้าทายความเชื่อของเราด้วย ข้อเท็จจริง และข้อมูลที่ชัดเจนสุดๆFactfulness พูดถึง 10 สัญชาตญาณของมนุษย์ ที่ทำให้เรามองโลกผิดเพี้ยนไป สัญชาตญาณพวกนี้เคยช่วยมนุษย์ในยุคโบราณให้รอดชีวิต แต่ในยุคนี้มันกลับทำให้เรากังวลเกินเหตุ ตัดสินใจผิดพลาด และมองไม่เห็นว่าโลกมันดีขึ้นเยอะแค่ไหน หนังสือเล่มนี้จะสอนให้คุณ ปลดแอกตัวเอง จากความกลัวที่ไม่มีเหตุผล และมองโลกในมุมที่เป็นจริงมากขึ้น ด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริงเป็นตัวนำทาง
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมเราถึงรู้สึกว่าโลกมันแย่ลง ทั้งที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เช่น ข่าวอาชญากรรมเต็มไปหมด หรือคิดว่าคนจนทั่วโลกเยอะขึ้น Factfulness จะบอกว่า สมองเราถูก 10 สัญชาตญาณจอมลวง หลอกให้มองโลกในแง่ร้าย ฮันส์ รอสลิง ใช้ข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ตัวเลขการพัฒนาคุณภาพชีวิต อายุขัย การศึกษา และความยากจน เพื่อพิสูจน์ว่า โลกดีขึ้นทุกวัน แต่วิธีคิดของเราต่างหากที่ทำให้มองไม่เห็นสิ่งดีๆ พวกนี้
3. ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น

หนังสือสุดลึกซึ้งที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และธรรมะเข้าไว้ด้วยกันแบบลงตัวสุดๆ นั่นคือ ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น โดย สม สุจีรา จากสำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ ถ้าคุณเคยสงสัยว่า วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาจะมาเจอกันได้ยังไง หรือทำไมความจริงที่พระพุทธเจ้าค้นพบเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว ถึงเชื่อมโยงกับทฤษฎีของไอน์สไตน์ได้
หนังสือเล่มนี้พูดถึงการเชื่อมโยงระหว่าง วิทยาศาสตร์ ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแห่งศตวรรษที่ 21 กับ พุทธศาสนา ของ พระพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้สัจธรรมเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว ชื่อหนังสืออาจทำให้งงว่า “เอ๊ะ ไอน์สไตน์พบอะไร? พระพุทธเจ้าเห็นอะไร?” แต่ผู้เขียน สม สุจีรา จะพาคุณไปเห็นว่า ความรู้ที่ไอน์สไตน์ค้นพบ เช่น ทฤษฎีสัมพัทธภาพ จริงๆ แล้วสอดคล้องกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เมื่อนานมาแล้ว หนังสือเล่มนี้เหมือนสะพานที่เชื่อม โลกแห่งวิทยาศาสตร์ ที่จับต้องได้ กับ โลกแห่งจิตใจ ที่ลึกซึ้ง โดยใช้ตัวอย่างและคำถามชวนคิด เช่น โลกและจักรวาลนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? ทำไมอายุขัยของคน สุนัข หรือยุงต่างกัน? หรือทำไมพระองคุลิมาลวิ่งตามพระพุทธเจ้าไม่ทัน? คำตอบทั้งหมดนี้จะทำให้คุณอึ้งว่า วิทยาศาสตร์กับธรรมะมันไปด้วยกันได้จริงๆ
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า วิทยาศาสตร์มันดูเย็นชา เป็นแค่สูตรหรือทฤษฎี หรือคิดว่าธรรมะมันลึกเกินไป เข้าใจยาก หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนมุมมองของคุณ มันจะพาคุณเห็นว่า ความจริงของโลก ที่ไอน์สไตน์ค้นพบ เช่น การที่เวลาไม่ใช่สิ่งตายตัว สามารถอธิบายได้ด้วยมุมมองของพระพุทธเจ้า ที่เห็นความจริงของทุกสิ่งด้วย พระสัพพัญญุตญาณ หรือการรู้แจ้งเห็นจริง!ที่สำคัญ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้แค่เล่าถึงความรู้ แต่ยังชวนให้คุณตั้งคำถามถึงชีวิต เช่น ทำไมเรามีเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ใจเรายังทุกข์? หรือทำไมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้ชีวิตสะดวก แต่ไม่ช่วยให้ใจสงบ? หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปหาคำตอบแบบที่ทั้งสมองและจิตใจอิ่มเอม
4. ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข Good Vibes Good Life

ถ้าคุณอยากเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น ดึงดูดความสุข ความสำเร็จ และอยากรู้วิธีรักตัวเองให้ปัง
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เว็กซ์ คิง อินฟลูเอนเซอร์และผู้นำทางจิตวิญญาณที่คนรุ่นใหม่ยกให้เป็นไอดอล เขามาแชร์วิธีเปลี่ยนชีวิตด้วย กฎแห่งแรงสั่นสะเทือน (Law of Vibration) ซึ่งบอกว่า ทุกอย่างในจักรวาลมีพลังงาน และถ้าคุณส่ง พลังบวก ออกไป จักรวาลจะส่งความสุขและโอกาสดีๆ กลับมาให้แบบทวีคูณ ฟังดูเหมือนเวทมนตร์ แต่จริงๆ มันคือแนวคิดที่ผสมจิตวิทยาและการปฏิบัติที่ใช้ได้จริง!หนังสือเล่มนี้เขียนในสไตล์ที่อ่านง่ายมาก แบ่งเป็นหัวข้อสั้นๆ มีภาพประกอบสวยๆ และแทรก Quote สุดปังที่ให้แรงบันดาลใจ ไม่ว่าคุณจะอยากรักตัวเองมากขึ้น อยากเลิกคิดลบ หรืออยากไปถึงเป้าหมายใหญ่ในชีวิต เล่มนี้จะช่วยคุณเปลี่ยน คลื่นความถี่ทางอารมณ์ ให้สอดคล้องกับพลังบวก เพื่อดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามา
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
เคยรู้สึกมั้ยว่า ชีวิตมันเหมือนวนลูป? หรือบางทีรู้สึกว่าทำไมสิ่งดีๆ ไม่ค่อยเข้ามาในชีวิต? Good Vibes Good Life จะบอกว่า ปัญหาอาจอยู่ที่ พลังงาน ที่คุณส่งออกไป ถ้าคุณคิดลบ บ่นเยอะ หรือกลัวไปหมด จักรวาลก็จะสะท้อนพลังงานแบบนั้นกลับมา แต่ถ้าคุณปรับอารมณ์ คำพูด และการกระทำให้เป็นบวก คุณจะได้บวกกลับมาให้
5. อิคิไก THE LITTLE BOOK IKIGAI

ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่า “ชีวิตนี้มันมีอะไรที่ขาดหายไปมั้ย?” หรืออยากหาความหมายให้การตื่นเช้ามาทุกวัน หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปค้นพบ อิคิไก ปรัชญาญี่ปุ่นที่ช่วยให้ชีวิตมีคุณค่าและมีความสุข
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เคน โมงิ นักประสาทวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่เก่งสุดๆ ในการถ่ายทอดแนวคิด อิคิไก ซึ่งแปลว่า “เหตุผลที่ทำให้เราอยากตื่นเช้ามาทุกวัน” หรือพูดง่ายๆ คือ ความหมายของชีวิต อิคิไกคือปรัชญาญี่ปุ่นที่ช่วยให้คนพบความสุขและคุณค่าในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านงาน งานอดิเรก หรือสิ่งเล็กๆ รอบตัวเคน โมงิเล่าเรื่องนี้ผ่านมุมมองทั้ง วิทยาศาสตร์ และ วัฒนธรรมญี่ปุ่น ตั้งแต่ประวัติศาสตร์โบราณไปจนถึงยุคสมัยใหม่ที่เราคุ้นเคย เช่น วัฒนธรรมอนิเมะ หรือช่างฝีมือญี่ปุ่นที่ทุ่มเทให้งานของตัวเอง หนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับคนที่กำลังตั้งคำถามว่า “ชีวิตที่ดีคืออะไร?” หรือ “งานที่ทำอยู่มันมีความหมายจริงๆ มั้ย?” อ่านแล้วคุณจะรู้สึกมีพลัง อยากตื่นเช้ามาทำอะไรเจ๋งๆ ทุกวัน
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า ชีวิตมันวนลูป ทำงานไปวันๆ หรือรู้สึกว่างเปล่า The Little Book of Ikigai จะช่วยคุณค้นหา เหตุผลที่ทำให้ชีวิตมีค่า หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดลอยๆ แต่เคน โมงิใช้ทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สมองและเรื่องราวจากชีวิตจริงของคนญี่ปุ่น เช่น ช่างทำซูชิที่ใส่ใจทุกขั้นตอน หรือคนที่หาความสุขจากสิ่งเล็กๆ อย่างการชงชา มันจะทำให้คุณเห็นว่า ความสุขและความหมายในชีวิตไม่ได้ต้องยิ่งใหญ่ แค่เข้าใจตัวเองและทำสิ่งที่รักก็พอ
6. ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ

นิยายที่ทั้งลึกลับ ซึ้ง และไม่เหมือนใคร หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แค่นิยายธรรมดา แต่เป็นเหมือนการเดินทางข้ามเวลาที่ผสมความลึกลับ ดราม่า และความหมายของชีวิตไว้ด้วยกัน
หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนนิยายสืบสวนที่ดังสุดๆ ในญี่ปุ่น และเล่มนี้คือหนึ่งในนิยายที่คนพูดถึงเยอะมาก มันติดอันดับขายดีในร้านนายอินทร์อยู่นาน และมียอดขายทั่วโลกถึง 12 ล้านเล่ม แถมยังถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ทั้งในญี่ปุ่นและจีน อะไรที่ทำให้มันปังขนาดนี้ เพราะมันไม่ใช่แค่นิยายสืบสวน แต่เป็นเรื่องราวที่ผสม ปาฏิหาริย์ การข้ามเวลา และ ความสัมพันธ์ของมนุษย์ เข้าไว้ด้วยกัน!เรื่องราวเริ่มจาก หัวขโมย 3 คน ที่หลบเข้าไปใน ร้านชำของคุณนามิยะ ซึ่งร้างไปนานถึง 33 ปี แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ พวกเขาได้รับ จดหมายลึกลับ จากอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน จดหมายเหล่านี้เขียนโดยคนที่ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิตจากเจ้าของร้าน คุณนามิยะ และหัวขโมยทั้งสามคนนี้ก็เลยนึกสนุก สวมรอยตอบจดหมายกลับไป สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคือ ปาฏิหาริย์ ที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันแบบที่คุณคาดไม่ถึง
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณชอบนิยายที่ทั้งสนุก ลุ้น และมีอะไรให้คิดต่อ ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ คือตัวเลือกที่ห้ามพลาด มันเริ่มจากพล็อตที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่พอดำดิ่งไป คุณจะเจอกับการเล่าเรื่องที่ ผูกโยงตัวละครทุกตัว เข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน ผ่านจดหมายที่ข้ามเวลา และคำตอบของหัวขโมยที่เปลี่ยนชีวิตคนในอดีตและอนาคต อ่านจบแล้วคุณจะรู้สึกซึ้ง อิ่มใจ และอาจจะน้ำตาซึม เพราะมันทำให้เห็นว่า การกระทำเล็กๆ น้อยๆ สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ คือนิยายที่เหมือนกล่องปริศนา ที่เริ่มจากเรื่องราวของหัวขโมย 3 คน แต่พาคุณไปเจอกับปาฏิหาริย์ข้ามเวลา และเรื่องราวที่เชื่อมโยงตัวละครทุกตัวเข้าด้วยกัน! ฮิงาชิโนะ เคโงะ สร้างเรื่องราวที่ทั้งลุ้น ซึ้ง และทำให้คุณเห็นว่า การช่วยเหลือผู้อื่นแค่เล็กน้อยก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้
โอเคทุกคน หวังว่าการพูดถึงหนังสือทั้ง 6 เล่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น Atomic Habits, Factfulness, ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น, Good Vibes Good Life, หรือ ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ จะจุดประกายให้คุณอยากหยิบมาอ่าน และนำไอเดียเจ๋งๆ ไปใช้ในชีวิต แต่ละเล่มมีมุมมองที่ต่างกัน แต่ทั้งหมดล้วนช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง โลก และคนรอบตัวได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างนิสัยดีๆ มองโลกในมุมใหม่ เข้าใจความจริงผ่านวิทยาศาสตร์และธรรมะ ดึงดูดพลังบวก หรือค้นพบความหมายของชีวิตผ่านปาฏิหาริย์

ถ้าคุณมีเล่มไหนในใจ หรืออยากแชร์ว่าหนังสือเล่มไหนเปลี่ยนชีวิตคุณบ้าง มาคอมเมนต์บอกกันได้เลย แล้วอย่าลืมกดแชร์ให้คนที่ชอบหนังสือแนวนี้
หนังสือที่ทำให้ฉันอยากลุกมาอ่านตอนดึก (และไม่ใช่เพราะมีสอบ)
ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า “อยากเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น แต่ทำไมมันยากจัง” หรือ “ตั้งเป้าไว้แต่ไปไม่ถึงสักที” หนังสือเล่มนี้คือคำตอบที่คุณต้องรู้
ก่อนอื่นเลย หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เจมส์ เคลียร์ นักเขียนชื่อดังที่เป็นกูรูด้านการสร้างนิสัย ตัวจริงเสียงจริง หนังสือเล่มนี้ดังมากกก ขายไปแล้วหลายล้านเล่มทั่วโลก แปลไปกว่า 40 ภาษา และติดอันดับ New York Times Bestseller ด้วย โอเค ฟังดูเว่อร์ แต่ที่มันเจ๋งจริงๆ เพราะมันพูดถึงวิธีเปลี่ยนนิสัยโดยใช้ หลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน การเงิน ความสัมพันธ์ สุขภาพ หรือแม้แต่ความคิดสร้างสรรค์ ทุกอย่างเริ่มจาก การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ทำได้ง่ายๆ แต่ผลลัพธ์มันยิ่งใหญ่สุดๆ
เจมส์ เคลียร์ บอกว่า ถ้าคุณพัฒนาตัวเองแค่วันละ 1% สม่ำเสมอ สะสมไปเรื่อยๆ มันจะพาคุณไปถึงเป้าหมายได้แบบไม่น่าเชื่อ ถ้าคุณอยากวิ่งมาราธอน อยากรวย หรืออยากมีหุ่นดี หนังสือเล่มนี้จะสอนวิธีที่ทำให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้จริงๆ โดยไม่ต้องฝืนตัวเองจนท้อ
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณเคยตั้งเป้าว่าจะตื่นเช้า ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือเลิกนิสัยแย่ๆ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวคุณ แต่เป็น ระบบ ที่คุณใช้ในการเปลี่ยนนิสัยต่างหาก เจมส์ เคลียร์ ใช้แนวคิดที่เรียกว่า Atomic Habits หรือนิสัยเล็กๆ ที่เหมือนอะตอม สะสมไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นพลังมหาศาล คล้ายๆ กับดอกเบี้ยทบต้นในวงการเงินเลย
ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า “โลกนี้มันแย่ลงทุกวัน” ข่าวร้ายเต็มไปหมด หรือรู้สึกท้อกับชีวิต หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเห็นว่า โลกไม่ได้แย่อย่างที่คิด และที่สำคัญ มันจะสอนให้คุณมองโลกด้วย ความจริง
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ฮันส์ รอสลิง แพทย์และศาสตราจารย์ด้านการพัฒนามนุษย์ที่ดังระดับโลก ได้รับการยกย่องจาก World Economic Forum, TIME, และ TED Talks ตัวพี่ฮันส์เนี่ยเป็นคนที่เก่งมากในการเอาข้อมูลมาอธิบายให้เราเห็นภาพว่าโลกมันดีขึ้นยังไง แม้ว่าสมองเราจะถูกหลอกให้คิดว่าโลกมันแย่ลงก็ตาม หนังสือเล่มนี้ดังมากกก สร้างปรากฏการณ์ทั่วโลก เพราะมันท้าทายความเชื่อของเราด้วย ข้อเท็จจริง และข้อมูลที่ชัดเจนสุดๆFactfulness พูดถึง 10 สัญชาตญาณของมนุษย์ ที่ทำให้เรามองโลกผิดเพี้ยนไป สัญชาตญาณพวกนี้เคยช่วยมนุษย์ในยุคโบราณให้รอดชีวิต แต่ในยุคนี้มันกลับทำให้เรากังวลเกินเหตุ ตัดสินใจผิดพลาด และมองไม่เห็นว่าโลกมันดีขึ้นเยอะแค่ไหน หนังสือเล่มนี้จะสอนให้คุณ ปลดแอกตัวเอง จากความกลัวที่ไม่มีเหตุผล และมองโลกในมุมที่เป็นจริงมากขึ้น ด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริงเป็นตัวนำทาง
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมเราถึงรู้สึกว่าโลกมันแย่ลง ทั้งที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เช่น ข่าวอาชญากรรมเต็มไปหมด หรือคิดว่าคนจนทั่วโลกเยอะขึ้น Factfulness จะบอกว่า สมองเราถูก 10 สัญชาตญาณจอมลวง หลอกให้มองโลกในแง่ร้าย ฮันส์ รอสลิง ใช้ข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ตัวเลขการพัฒนาคุณภาพชีวิต อายุขัย การศึกษา และความยากจน เพื่อพิสูจน์ว่า โลกดีขึ้นทุกวัน แต่วิธีคิดของเราต่างหากที่ทำให้มองไม่เห็นสิ่งดีๆ พวกนี้
หนังสือสุดลึกซึ้งที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และธรรมะเข้าไว้ด้วยกันแบบลงตัวสุดๆ นั่นคือ ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น โดย สม สุจีรา จากสำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ ถ้าคุณเคยสงสัยว่า วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาจะมาเจอกันได้ยังไง หรือทำไมความจริงที่พระพุทธเจ้าค้นพบเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว ถึงเชื่อมโยงกับทฤษฎีของไอน์สไตน์ได้
หนังสือเล่มนี้พูดถึงการเชื่อมโยงระหว่าง วิทยาศาสตร์ ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแห่งศตวรรษที่ 21 กับ พุทธศาสนา ของ พระพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้สัจธรรมเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว ชื่อหนังสืออาจทำให้งงว่า “เอ๊ะ ไอน์สไตน์พบอะไร? พระพุทธเจ้าเห็นอะไร?” แต่ผู้เขียน สม สุจีรา จะพาคุณไปเห็นว่า ความรู้ที่ไอน์สไตน์ค้นพบ เช่น ทฤษฎีสัมพัทธภาพ จริงๆ แล้วสอดคล้องกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เมื่อนานมาแล้ว หนังสือเล่มนี้เหมือนสะพานที่เชื่อม โลกแห่งวิทยาศาสตร์ ที่จับต้องได้ กับ โลกแห่งจิตใจ ที่ลึกซึ้ง โดยใช้ตัวอย่างและคำถามชวนคิด เช่น โลกและจักรวาลนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? ทำไมอายุขัยของคน สุนัข หรือยุงต่างกัน? หรือทำไมพระองคุลิมาลวิ่งตามพระพุทธเจ้าไม่ทัน? คำตอบทั้งหมดนี้จะทำให้คุณอึ้งว่า วิทยาศาสตร์กับธรรมะมันไปด้วยกันได้จริงๆ
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า วิทยาศาสตร์มันดูเย็นชา เป็นแค่สูตรหรือทฤษฎี หรือคิดว่าธรรมะมันลึกเกินไป เข้าใจยาก หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนมุมมองของคุณ มันจะพาคุณเห็นว่า ความจริงของโลก ที่ไอน์สไตน์ค้นพบ เช่น การที่เวลาไม่ใช่สิ่งตายตัว สามารถอธิบายได้ด้วยมุมมองของพระพุทธเจ้า ที่เห็นความจริงของทุกสิ่งด้วย พระสัพพัญญุตญาณ หรือการรู้แจ้งเห็นจริง!ที่สำคัญ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้แค่เล่าถึงความรู้ แต่ยังชวนให้คุณตั้งคำถามถึงชีวิต เช่น ทำไมเรามีเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ใจเรายังทุกข์? หรือทำไมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้ชีวิตสะดวก แต่ไม่ช่วยให้ใจสงบ? หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปหาคำตอบแบบที่ทั้งสมองและจิตใจอิ่มเอม
ถ้าคุณอยากเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น ดึงดูดความสุข ความสำเร็จ และอยากรู้วิธีรักตัวเองให้ปัง
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เว็กซ์ คิง อินฟลูเอนเซอร์และผู้นำทางจิตวิญญาณที่คนรุ่นใหม่ยกให้เป็นไอดอล เขามาแชร์วิธีเปลี่ยนชีวิตด้วย กฎแห่งแรงสั่นสะเทือน (Law of Vibration) ซึ่งบอกว่า ทุกอย่างในจักรวาลมีพลังงาน และถ้าคุณส่ง พลังบวก ออกไป จักรวาลจะส่งความสุขและโอกาสดีๆ กลับมาให้แบบทวีคูณ ฟังดูเหมือนเวทมนตร์ แต่จริงๆ มันคือแนวคิดที่ผสมจิตวิทยาและการปฏิบัติที่ใช้ได้จริง!หนังสือเล่มนี้เขียนในสไตล์ที่อ่านง่ายมาก แบ่งเป็นหัวข้อสั้นๆ มีภาพประกอบสวยๆ และแทรก Quote สุดปังที่ให้แรงบันดาลใจ ไม่ว่าคุณจะอยากรักตัวเองมากขึ้น อยากเลิกคิดลบ หรืออยากไปถึงเป้าหมายใหญ่ในชีวิต เล่มนี้จะช่วยคุณเปลี่ยน คลื่นความถี่ทางอารมณ์ ให้สอดคล้องกับพลังบวก เพื่อดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามา
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
เคยรู้สึกมั้ยว่า ชีวิตมันเหมือนวนลูป? หรือบางทีรู้สึกว่าทำไมสิ่งดีๆ ไม่ค่อยเข้ามาในชีวิต? Good Vibes Good Life จะบอกว่า ปัญหาอาจอยู่ที่ พลังงาน ที่คุณส่งออกไป ถ้าคุณคิดลบ บ่นเยอะ หรือกลัวไปหมด จักรวาลก็จะสะท้อนพลังงานแบบนั้นกลับมา แต่ถ้าคุณปรับอารมณ์ คำพูด และการกระทำให้เป็นบวก คุณจะได้บวกกลับมาให้
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่า “ชีวิตนี้มันมีอะไรที่ขาดหายไปมั้ย?” หรืออยากหาความหมายให้การตื่นเช้ามาทุกวัน หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปค้นพบ อิคิไก ปรัชญาญี่ปุ่นที่ช่วยให้ชีวิตมีคุณค่าและมีความสุข
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เคน โมงิ นักประสาทวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่เก่งสุดๆ ในการถ่ายทอดแนวคิด อิคิไก ซึ่งแปลว่า “เหตุผลที่ทำให้เราอยากตื่นเช้ามาทุกวัน” หรือพูดง่ายๆ คือ ความหมายของชีวิต อิคิไกคือปรัชญาญี่ปุ่นที่ช่วยให้คนพบความสุขและคุณค่าในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านงาน งานอดิเรก หรือสิ่งเล็กๆ รอบตัวเคน โมงิเล่าเรื่องนี้ผ่านมุมมองทั้ง วิทยาศาสตร์ และ วัฒนธรรมญี่ปุ่น ตั้งแต่ประวัติศาสตร์โบราณไปจนถึงยุคสมัยใหม่ที่เราคุ้นเคย เช่น วัฒนธรรมอนิเมะ หรือช่างฝีมือญี่ปุ่นที่ทุ่มเทให้งานของตัวเอง หนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับคนที่กำลังตั้งคำถามว่า “ชีวิตที่ดีคืออะไร?” หรือ “งานที่ทำอยู่มันมีความหมายจริงๆ มั้ย?” อ่านแล้วคุณจะรู้สึกมีพลัง อยากตื่นเช้ามาทำอะไรเจ๋งๆ ทุกวัน
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณเคยรู้สึกว่า ชีวิตมันวนลูป ทำงานไปวันๆ หรือรู้สึกว่างเปล่า The Little Book of Ikigai จะช่วยคุณค้นหา เหตุผลที่ทำให้ชีวิตมีค่า หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดลอยๆ แต่เคน โมงิใช้ทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สมองและเรื่องราวจากชีวิตจริงของคนญี่ปุ่น เช่น ช่างทำซูชิที่ใส่ใจทุกขั้นตอน หรือคนที่หาความสุขจากสิ่งเล็กๆ อย่างการชงชา มันจะทำให้คุณเห็นว่า ความสุขและความหมายในชีวิตไม่ได้ต้องยิ่งใหญ่ แค่เข้าใจตัวเองและทำสิ่งที่รักก็พอ
นิยายที่ทั้งลึกลับ ซึ้ง และไม่เหมือนใคร หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แค่นิยายธรรมดา แต่เป็นเหมือนการเดินทางข้ามเวลาที่ผสมความลึกลับ ดราม่า และความหมายของชีวิตไว้ด้วยกัน
หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนนิยายสืบสวนที่ดังสุดๆ ในญี่ปุ่น และเล่มนี้คือหนึ่งในนิยายที่คนพูดถึงเยอะมาก มันติดอันดับขายดีในร้านนายอินทร์อยู่นาน และมียอดขายทั่วโลกถึง 12 ล้านเล่ม แถมยังถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ทั้งในญี่ปุ่นและจีน อะไรที่ทำให้มันปังขนาดนี้ เพราะมันไม่ใช่แค่นิยายสืบสวน แต่เป็นเรื่องราวที่ผสม ปาฏิหาริย์ การข้ามเวลา และ ความสัมพันธ์ของมนุษย์ เข้าไว้ด้วยกัน!เรื่องราวเริ่มจาก หัวขโมย 3 คน ที่หลบเข้าไปใน ร้านชำของคุณนามิยะ ซึ่งร้างไปนานถึง 33 ปี แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ พวกเขาได้รับ จดหมายลึกลับ จากอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน จดหมายเหล่านี้เขียนโดยคนที่ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิตจากเจ้าของร้าน คุณนามิยะ และหัวขโมยทั้งสามคนนี้ก็เลยนึกสนุก สวมรอยตอบจดหมายกลับไป สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคือ ปาฏิหาริย์ ที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันแบบที่คุณคาดไม่ถึง
ทำไมต้องอ่านเล่มนี้
ถ้าคุณชอบนิยายที่ทั้งสนุก ลุ้น และมีอะไรให้คิดต่อ ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ คือตัวเลือกที่ห้ามพลาด มันเริ่มจากพล็อตที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่พอดำดิ่งไป คุณจะเจอกับการเล่าเรื่องที่ ผูกโยงตัวละครทุกตัว เข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน ผ่านจดหมายที่ข้ามเวลา และคำตอบของหัวขโมยที่เปลี่ยนชีวิตคนในอดีตและอนาคต อ่านจบแล้วคุณจะรู้สึกซึ้ง อิ่มใจ และอาจจะน้ำตาซึม เพราะมันทำให้เห็นว่า การกระทำเล็กๆ น้อยๆ สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ คือนิยายที่เหมือนกล่องปริศนา ที่เริ่มจากเรื่องราวของหัวขโมย 3 คน แต่พาคุณไปเจอกับปาฏิหาริย์ข้ามเวลา และเรื่องราวที่เชื่อมโยงตัวละครทุกตัวเข้าด้วยกัน! ฮิงาชิโนะ เคโงะ สร้างเรื่องราวที่ทั้งลุ้น ซึ้ง และทำให้คุณเห็นว่า การช่วยเหลือผู้อื่นแค่เล็กน้อยก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้
โอเคทุกคน หวังว่าการพูดถึงหนังสือทั้ง 6 เล่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น Atomic Habits, Factfulness, ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น, Good Vibes Good Life, หรือ ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ จะจุดประกายให้คุณอยากหยิบมาอ่าน และนำไอเดียเจ๋งๆ ไปใช้ในชีวิต แต่ละเล่มมีมุมมองที่ต่างกัน แต่ทั้งหมดล้วนช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง โลก และคนรอบตัวได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างนิสัยดีๆ มองโลกในมุมใหม่ เข้าใจความจริงผ่านวิทยาศาสตร์และธรรมะ ดึงดูดพลังบวก หรือค้นพบความหมายของชีวิตผ่านปาฏิหาริย์