หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (8)...เจนศึก เจนใจ
ทั้งสามสาวเดินไปช็อปปิงที่ห้องน้าวิว เธอรีบนำเสนอ
“นี่ปลอกที่นอน ปลอกหมอน แล้วก็หมอน ทำความสะอาดแล้วใช้ได้เลย ชั้นพลาสติกอย่างหนาสีขาวเอาไว้วางของใช้... เออ! เอาหม้อข้าวกับ
กาต้มน้ำร้อนไปด้วย ชุดนี้ไอ้นิลทิ้งไว้ให้น้องใหม่ก่อนกลับบ้าน”
“พอแล้วค่ะน้าวิวมันเยอะแล้ว”
“ยัง ๆ ห้องยังรกอยู่เลย เออ! เอาโคมไฟตั้งโต๊ะไปด้วยเก่าหน่อย แต่ยังใช้ได้อยู่ อีกอย่างตะกร้าสองใบเอาไว้ใช้เวลาเอาผ้าไปซักเครื่อง กอง
ของบริจาคกองโตวางด้านหน้าดวงเนตร น้าวิวค้นอะไรอยู่ครู่หนึ่งก็ถือถุงผ้าเดินมาส่งให้ นี่จาน ชาม ช้อน-ส้อม แล้วก็แก้วสี่ชุดจ้ะ บรรจุอยู่ในกล่องอีกที”
“มันเยอะมากเลยค่ะ... น้าวิว”
“สาวน้อย...แหมเล่นจะไม่รับแขกเลยเหรอ”
“เผื่อน้าแวะไปกินเวลาขี้เกียจทำอาหาร”
“ของที่ให้มามันเยอะมากเลยนะคะ...เนตรเกรงใจ”
“ยิ่งคนเอาไปแล้วใช้ประโยชน์ได้ยิ่งดี เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของผู้ให้ แล้วห้องน้าวิวจะได้จัดใหม่ซักที” เธอถือตะกร้าสานใบย่อมมาสองใบ
ดวงเนตรร้องเสียงหลง
“โอ๊ย! พอแล้วค่ะ”
“ไม่ต้องเลยก็เนตรยกน้าวิวให้เป็นแม่ทูนหัวแล้วก็เฉยไว้ ตะกร้านี้ไว้ใส่ของจิปาถะได้...สุดท้ายของสุดท้ายแล้ว เอ้า! ตะกร้าชุดเครื่องดื่มที่น้าจับฉลากได้ตอนไปสอยดาวที่วัดไทยในเซนต์หลุยส์”
“ไม่เอาได้ไหมคะน้าวิวเก็บให้คนอื่นเถอะ”
“เขามีแต่จะขอโน่นนี่ เนตรมีแต่ปฏิเสธ รีบยกมือไหว้ซะหมดแล้ว” เธอโดนแหย่ แต่ดวงเนตรทำจริงไหว้อย่างสวย แทบจะก้มลงติดพื้นเพราะ
นั่งล้อมวงกันอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามาเลยไม่ได้ล็อก” คนที่โผล่หน้ามาคือหนอย...เจนศึก ชายไทย ร่างสูง หน้าขาวเนียนบอกสัญชาติ ใบหน้าเกลี้ยง ตามีเหล่าเต๊ง คิ้วดก
เข้ม ใบหน้ากว้างและยาวลงรับกับกรามที่กางออกพอเหมาะ..ปลายคางแหลม ดวงตาโตมีประกายสดใส ร่างสูงมีมัดกล้ามแข็งแรง ทำให้หนอย
หรือเจนศึกเป็นตี๋หน้าหยกที่ดูแล้วหล่อมีเสน่ห์ทีเดียว เขายิ้มกว้าง ทักทายพี่ทั้งสอง แล้วหันมาทางดวงเนตร เธอยกมือไหว้สวัสดี น้าวิวทำหน้าที่
แนะนำให้รู้จักกัน พร้อมบอกหนอยว่า
“ซื้อทีวีดูดี ๆ นะ พี่น้อยกับดวงเนตรจะไปด้วย”
“ครับผม...ไม่ต้องห่วงไปกับพี่หนอยแล้วส.บ.ม...สบายมาก”
“แกเป็นพี่ของดวงเนตรเหรอหนอย”
“น่าจะ” หนอยตอบ พอสอบถามกันก็จริงดังหนอยว่า เพราะเขาแก่กว่าสองปี หนอยเรียนปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ที่นี่ จบปริญญาตรีจาก
ธรรมศาสตร์
“ไปได้แล้วเดี๋ยวมืด กลับมาแล้วไปกินพิซซ่ากัน..o.k! ”
หนอยขับรถคันค่อนข้างเก่าของเขาพาสองสาวไปที่มอลล์ หลังจากเลือกทีวีแล้วเดินอีกหน่อยดวงเนตรซื้อต้นพลูด่างมากระถางหนึ่ง พี่น้อย
ก็ชอบต้นไม้
“ดีแล้วน้องเนตรมีต้นไม้ในห้องทำให้น่าอยู่นะ”
“ค่ะ” ใกล้ประตูห้างมีคนมุงอยู่เต็ม กำลังจัดนาทีทองสินค้าหลายตัว เธอมองตรงไปที่น้องหมีตัวใหญ่ขนสีน้ำตาลเข้มสวยมาก
“อุ๊ย! อยากได้หมีจังเลยพี่น้อย” พี่น้อยรีบดันหนอยไปยืนหน้าสุด คงเป็นโชคของดวงเนตร คนขายชูหมีขึ้น “สิบเหรียญ” ไม่มีใครทันหนอย
เขารีบคว้ามับ ดวงเนตรดีใจกระโดดเหมือนเด็ก หนอยเห็นแล้วยิ้มหน้าบานใส่น้อง
“อยากได้ใช่ไหม...เอ! ให้ทำอะไรดีนะพี่น้อย” พี่น้อยยิ้มแต่เสียงดุใส่หนอย
“อย่าทะเล้นนะน่าเกลียด จะให้ก็ให้น้องเขาเอาไปจ่ายเงิน”
“ไม่ครับ”
“เอ! หนอยนี่ยังไงนะ...จะเอาไว้กอดนอนเหรอ”
“ไม่ครับ...คือหนอยจะซื้อให้น้องเขาน่ะ”
“แหม ๆ เสี่ยจะลงทุนซื้อให้เลยเหรอ”
“ถ้าจะให้เนตร ขอเนตรจ่ายเองนะคะ”
“ให้พี่หนอยซื้อให้นะ ๆ ” พี่น้อยมองแล้วรู้ใจว่าหนอยถูกใจดวงเนตร ก็น้องหมวยสวยอย่างนี้ พี่น้อยอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน ยังประทับใจกับความ
น่ารักของเธอ
ได้ของครบก็พากันกลับมา เอาของเก็บที่ห้องดวงเนตร โดยเธอช่วยหนอยยกทีวี พี่น้อยอาสาหิ้วของที่เหลือ แล้วทั้งสามก็กลับมาที่ห้องน้าวิวเพื่อรายงานตัว พี่น้อยเคาะห้องสองสามครั้ง
”เข้ามาเลยไม่ได้ล็อก” คำนี้เธอใช้ประจำ ห้องล็อกคือเวลาส่วนตัวของน้าวิว ซึ่งใคร ๆ ก็ต้องการโลกส่วนตัวมากน้อยตามเหตุปัจจัย
“มากันแล้วเหรอ ของที่ซื้อล่ะ”
“ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับเก็บไว้ในห้องน้องแล้ว”
“ดีมากเป็นพี่ ๆ ที่น่ารักมากทุกคน” ดวงเนตรเห็นด้วย หากไม่ได้พบคนเหล่านี้ป่านนี้ดวงเนตรคงไม่หายเหงา
“ขอบพระคุณทุกคนที่ช่วยเนตรนะคะ” พูดเสร็จน้องหมวยก็ยกมือไหว้ทุกคน พี่น้อยแซว
“แหมน้องเนตรเล่นยกมือไหว้กราดทุกคนเป็นนักมวยเลยนะ” เสียงทุกคนหัวเราะในความน่ารักของเธอ
“พอแล้ว ๆ ไม่ต้องไหว้บ่อยขี้เกียจรับไหว้”
“จะรับไหว้น้องเขาเป็นอั่งเปาก็ได้นะเจ๊ใหญ่”
“จ้า! พ่อลูกคนรวย” น้าวิวโต้เอา พี่น้อยเสริมอีกคน
"หนอยเขาซื้อตุ๊กตาหมีให้น้องเป็นของขวัญด้วยนะ”
“นั่น ๆ ยังไม่ทันไร แกไม่เห็นเหรอว่าหน้าห้องดวงเนตรเขาติดป้าย “
ห้ามยุ่ง ฮือ! ” น้าวิวเสียงเขียวและถลึงตาใส่ ดวงเนตรหน้าแดงเพราะ
เอาเรื่องเธอมาฉะกันกลางสาธารณะเลย หนอยมองหน้าน้องแบบขอโทษและรีบเปลี่ยนเรื่อง
“น้าวิว...น้องเขาจะตัดผมให้ก็เลยให้เป็นค่าจ้างล่วงหน้าครับ” น้าวิวชอบประคารมกับหนอยประจำอยู่แล้วเป็นที่รู้กันเพราะคารมพอกันทั้งคู่
“แกถามแม่เขารึยัง” หนอยออกอาการแปลกใจน้อย ๆ
"อ้าว ! แม่เขามาส่งที่นี่เลยหรือครับ” คนอื่นอมยิ้มเพราะหนอยพลาดให้น้าวิวซะแล้ว คนพูดขำกลิ้งพอหนอยรู้ตัวว่าโดนอำก็ออกอาการ น้าวิว
แก้เกมด้วยการบอกว่าตัวเองเป็นแม่ทูนหัวของเนตร
“จริงเหรอ...ถึงว่าป้องกันกันเหลือเกิน เฮ้อ! ”
“น้องเนตรตัดผมได้ หนอยขอคิวแรก ถ้าออกมาดีขอพี่น้อยต่อนะคะ”
“เนตรจัดคิวดี ๆ นะนี่ก็จะเปิดภาคเรียนอยู่แล้ว”
“ไง ๆ ก็ขอผมหล่อก่อนเปิดเทอมนะครับ” หนอยเอ่ยเสียงนุ่ม เขายิ้มแบบเอาใจ พี่หนอยนี่ทีแรกดูงั้น ๆ แต่คิ้วเข้มและรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ ทำ
ให้ดวงเนตรเขวได้เหมือนกัน
“อ้าว! คุยกันเพลินเลย มา ๆ รู้จักกันก่อน ท่าจะอายุเท่ากันนะ...นี่ชื่อวิศาล”
“เอ! ถ้าน้าวิวจำไม่ผิด วิศาลมาเข้าเรียนเมื่อปีที่แล้วเนอะ”
“ครับผม... สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ ชื่อดวงเนตร เรียกเนตรก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มให้เขา วิศาลยิ้มน้อย ๆ น้าวิวขยายความเพราะถ้ารอให้ออกมาจากปากชายหนุ่ม พวกเราคง
ต้องแก่คาห้องแน่ น้าวิวคิดแล้วยิ้ม
"คุณชายเนี้ยบคนนี้เขามาเรียนต่อปริญญาโทวิศวะไฟฟ้า เขาชอบความเป็นส่วนตัว ผมตัดเองนะคะ”
“จริงเหรอคะ”
“จริงเลยล่ะ” พี่ศิริเสริมขึ้นขณะเข้ามาในห้อง
“เนตรดูสิเนี๊ยบไหม”
“ค่ะสวย” เนตรเอ่ยพลางมองดูวิศาล ตัวเขาค่อนข้างสูงกว่าทุกคนในห้อง ผมที่ซอยเองดูเรียบร้อยหน้าหล่อ ดูแป๊บเดียวก็สรุปได้เลยว่ามีโลก
ส่วนตัวที่ไม่ค่อยให้ใครเข้าไปยุ่ง พูดน้อย สนใจแต่ชีวิตตัวเอง
ดวงเนตรประเมินลักษณะคนเก่ง เพราะได้มาจากประสบการณ์ที่เป็นพี่ใหญ่ เมื่อสมัยเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ ทุกครั้งที่จะจัดงานอะไรก็แล้วแต่
ไม่ว่าจะเป็นน้องคนไหนก็ตาม เจ๊ใจดีให้พามาเฮฮาได้ที่บ้าน เรื่องอาหารไม่ต้องห่วง ขนม ของหวาน ผลไม้จัดเต็ม ดวงเนตรลงทุนขนาดนี้เพียงแค่
จะได้รู้จักเพื่อนของน้องทุกคน เตี่ยเป็นคนสอนว่าจะได้รู้จักเพื่อน ๆ น้องเป็นคนแบบไหน
“เอาไว้ใกล้ตาดีที่สุดเพราะเราคุมได้ แม้จะเหนื่อยหน่อยนะเนตรนะ”
“ค่ะเตี่ยไม่ต้องห่วง เนตรจะดูแลน้องให้ดีที่สุด” สิ่งเหล่านี้เพาะบ่มให้เธอเป็นคนช่างสังเกต เพราะเหตุนี้ เวลาคบกับเพื่อนชายสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดวงเนตรจะเริ่มสแกน และสรุปได้ตรงกับความจริงทุกครั้ง จนเพื่อนสนิทต่อว่าตรง ๆ “แกเป็นแบบนี้ แล้วหาว่าฉันตั้งป้อมกัน
แก ที่ไหนได้แม่คุณเล่นสแกนเขาเข้าถึงกระดูก แล้วเมื่อไรจะได้กินน้ำชาแกวะ”
“เนตรจ้องกันอยู่นั้นแหละ วิศาลเขาหล่อเนี้ยบอยู่แล้ว...แต่สู้พี่หนอยไม่ได้หรอก” หนอยออกอาการหมั่นไส้นิด ๆ
“เอ่อ! เนตรมองดูว่าเขาซอยยังไงได้เอง เก่งมากเลย” เธอเอ่ยแก้ตัว ความคิดของวันวานชะงักลง
“ใช้เวลานานไหมคะ” หญิงสาวตั้งคำถาม
“ครับ แต่ผมไม่รีบไปไหนนี่”
ดวงเนตรยิ้ม
‘โลกของเขานี่นะ...ก็อยู่ไปคนเดียวเถอะ แถมเป็นคนใจเย็นขนาดโรงน้ำแข็งเรียกพี่ เป็นแค่เพื่อนดีแล้ว’ ดวงเนตรนึกและหันมา
ทางพี่หนอย
“พี่หนอยไว้ผมยาวรวบไว้ตั้งนานแล้ว และเนตรว่าดูหล่อดีนะ ดูผมสิสวยด้วย”
“ไม่เอาสวย พี่หนอยจะเอาหล่อนะเนตรนะ” เสียงอ้อน
“ไอ้ก๊วก” น้าวิวเรียกพี่หนอย
“ต่อหน้าต่อตาเลยนะ เนตรมายื่นตรงนี้ ห่าง ๆ พี่หนอยหน่อยเดี๋ยวมันงาบเอา”
“ครับ ไม่เห็นความดีกันเลยนะ เรียกปุ๊บผมก็มารับใช้เลยน่าน้อยใจนัก”
“น้าวิวเขารักหนอยจะตาย” พี่น้อยช่วย
“ใช่! รักมาก แต่บังเอิญน้าวิวได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเธอ...”
“ว่าเป็นคนดีใช่ไหมครับ”
“ม่ายใช่”
“เฮ้อ ! ” หนอยทำเสียงถอนใจ
“พอดีกว่านะคะ” พี่น้อยห้ามทัพ
“มาช่วยน้องเนตรขนของบริจาคไปที่ห้องดีกว่าค่ะ” ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันรวมถึงพี่ศิริกับสุดา ที่ตามมาสมทบที่หลังก็ทันได้ช่วยขนรอบสุดท้าย
ด้วย
“เนตรขอขอบคุณทุกคนเลยค่ะ” น้าวิวบอกทุกคนว่าปล่อยให้เนตรมีเวลาจัดห้องดีกว่า
“ตอนนี้หกโมงแล้วเราแยกกันไปทำธุระส่วนตัวกันก่อน...กลับมาเจอกันตอนทุ่มครึ่งนะ มื้อเย็นนี้พี่พล...พี่ชูพลหัวหน้านักเรียนไทย เขาเป็น
เจ้ามือเลี้ยงทุกคน
ที่ร้านพิซซ่าฮัท”
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (8)...เจนศึก เจนใจ
ทั้งสามสาวเดินไปช็อปปิงที่ห้องน้าวิว เธอรีบนำเสนอ
“นี่ปลอกที่นอน ปลอกหมอน แล้วก็หมอน ทำความสะอาดแล้วใช้ได้เลย ชั้นพลาสติกอย่างหนาสีขาวเอาไว้วางของใช้... เออ! เอาหม้อข้าวกับ
กาต้มน้ำร้อนไปด้วย ชุดนี้ไอ้นิลทิ้งไว้ให้น้องใหม่ก่อนกลับบ้าน”
“พอแล้วค่ะน้าวิวมันเยอะแล้ว”
“ยัง ๆ ห้องยังรกอยู่เลย เออ! เอาโคมไฟตั้งโต๊ะไปด้วยเก่าหน่อย แต่ยังใช้ได้อยู่ อีกอย่างตะกร้าสองใบเอาไว้ใช้เวลาเอาผ้าไปซักเครื่อง กอง
ของบริจาคกองโตวางด้านหน้าดวงเนตร น้าวิวค้นอะไรอยู่ครู่หนึ่งก็ถือถุงผ้าเดินมาส่งให้ นี่จาน ชาม ช้อน-ส้อม แล้วก็แก้วสี่ชุดจ้ะ บรรจุอยู่ในกล่องอีกที”
“มันเยอะมากเลยค่ะ... น้าวิว”
“สาวน้อย...แหมเล่นจะไม่รับแขกเลยเหรอ”
“เผื่อน้าแวะไปกินเวลาขี้เกียจทำอาหาร”
“ของที่ให้มามันเยอะมากเลยนะคะ...เนตรเกรงใจ”
“ยิ่งคนเอาไปแล้วใช้ประโยชน์ได้ยิ่งดี เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของผู้ให้ แล้วห้องน้าวิวจะได้จัดใหม่ซักที” เธอถือตะกร้าสานใบย่อมมาสองใบ
ดวงเนตรร้องเสียงหลง
“โอ๊ย! พอแล้วค่ะ”
“ไม่ต้องเลยก็เนตรยกน้าวิวให้เป็นแม่ทูนหัวแล้วก็เฉยไว้ ตะกร้านี้ไว้ใส่ของจิปาถะได้...สุดท้ายของสุดท้ายแล้ว เอ้า! ตะกร้าชุดเครื่องดื่มที่น้าจับฉลากได้ตอนไปสอยดาวที่วัดไทยในเซนต์หลุยส์”
“ไม่เอาได้ไหมคะน้าวิวเก็บให้คนอื่นเถอะ”
“เขามีแต่จะขอโน่นนี่ เนตรมีแต่ปฏิเสธ รีบยกมือไหว้ซะหมดแล้ว” เธอโดนแหย่ แต่ดวงเนตรทำจริงไหว้อย่างสวย แทบจะก้มลงติดพื้นเพราะ
นั่งล้อมวงกันอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามาเลยไม่ได้ล็อก” คนที่โผล่หน้ามาคือหนอย...เจนศึก ชายไทย ร่างสูง หน้าขาวเนียนบอกสัญชาติ ใบหน้าเกลี้ยง ตามีเหล่าเต๊ง คิ้วดก
เข้ม ใบหน้ากว้างและยาวลงรับกับกรามที่กางออกพอเหมาะ..ปลายคางแหลม ดวงตาโตมีประกายสดใส ร่างสูงมีมัดกล้ามแข็งแรง ทำให้หนอย
หรือเจนศึกเป็นตี๋หน้าหยกที่ดูแล้วหล่อมีเสน่ห์ทีเดียว เขายิ้มกว้าง ทักทายพี่ทั้งสอง แล้วหันมาทางดวงเนตร เธอยกมือไหว้สวัสดี น้าวิวทำหน้าที่
แนะนำให้รู้จักกัน พร้อมบอกหนอยว่า
“ซื้อทีวีดูดี ๆ นะ พี่น้อยกับดวงเนตรจะไปด้วย”
“ครับผม...ไม่ต้องห่วงไปกับพี่หนอยแล้วส.บ.ม...สบายมาก”
“แกเป็นพี่ของดวงเนตรเหรอหนอย”
“น่าจะ” หนอยตอบ พอสอบถามกันก็จริงดังหนอยว่า เพราะเขาแก่กว่าสองปี หนอยเรียนปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ที่นี่ จบปริญญาตรีจาก
ธรรมศาสตร์
“ไปได้แล้วเดี๋ยวมืด กลับมาแล้วไปกินพิซซ่ากัน..o.k! ”
หนอยขับรถคันค่อนข้างเก่าของเขาพาสองสาวไปที่มอลล์ หลังจากเลือกทีวีแล้วเดินอีกหน่อยดวงเนตรซื้อต้นพลูด่างมากระถางหนึ่ง พี่น้อย
ก็ชอบต้นไม้
“ดีแล้วน้องเนตรมีต้นไม้ในห้องทำให้น่าอยู่นะ”
“ค่ะ” ใกล้ประตูห้างมีคนมุงอยู่เต็ม กำลังจัดนาทีทองสินค้าหลายตัว เธอมองตรงไปที่น้องหมีตัวใหญ่ขนสีน้ำตาลเข้มสวยมาก
“อุ๊ย! อยากได้หมีจังเลยพี่น้อย” พี่น้อยรีบดันหนอยไปยืนหน้าสุด คงเป็นโชคของดวงเนตร คนขายชูหมีขึ้น “สิบเหรียญ” ไม่มีใครทันหนอย
เขารีบคว้ามับ ดวงเนตรดีใจกระโดดเหมือนเด็ก หนอยเห็นแล้วยิ้มหน้าบานใส่น้อง
“อยากได้ใช่ไหม...เอ! ให้ทำอะไรดีนะพี่น้อย” พี่น้อยยิ้มแต่เสียงดุใส่หนอย
“อย่าทะเล้นนะน่าเกลียด จะให้ก็ให้น้องเขาเอาไปจ่ายเงิน”
“ไม่ครับ”
“เอ! หนอยนี่ยังไงนะ...จะเอาไว้กอดนอนเหรอ”
“ไม่ครับ...คือหนอยจะซื้อให้น้องเขาน่ะ”
“แหม ๆ เสี่ยจะลงทุนซื้อให้เลยเหรอ”
“ถ้าจะให้เนตร ขอเนตรจ่ายเองนะคะ”
“ให้พี่หนอยซื้อให้นะ ๆ ” พี่น้อยมองแล้วรู้ใจว่าหนอยถูกใจดวงเนตร ก็น้องหมวยสวยอย่างนี้ พี่น้อยอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน ยังประทับใจกับความ
น่ารักของเธอ
ได้ของครบก็พากันกลับมา เอาของเก็บที่ห้องดวงเนตร โดยเธอช่วยหนอยยกทีวี พี่น้อยอาสาหิ้วของที่เหลือ แล้วทั้งสามก็กลับมาที่ห้องน้าวิวเพื่อรายงานตัว พี่น้อยเคาะห้องสองสามครั้ง
”เข้ามาเลยไม่ได้ล็อก” คำนี้เธอใช้ประจำ ห้องล็อกคือเวลาส่วนตัวของน้าวิว ซึ่งใคร ๆ ก็ต้องการโลกส่วนตัวมากน้อยตามเหตุปัจจัย
“มากันแล้วเหรอ ของที่ซื้อล่ะ”
“ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับเก็บไว้ในห้องน้องแล้ว”
“ดีมากเป็นพี่ ๆ ที่น่ารักมากทุกคน” ดวงเนตรเห็นด้วย หากไม่ได้พบคนเหล่านี้ป่านนี้ดวงเนตรคงไม่หายเหงา
“ขอบพระคุณทุกคนที่ช่วยเนตรนะคะ” พูดเสร็จน้องหมวยก็ยกมือไหว้ทุกคน พี่น้อยแซว
“แหมน้องเนตรเล่นยกมือไหว้กราดทุกคนเป็นนักมวยเลยนะ” เสียงทุกคนหัวเราะในความน่ารักของเธอ
“พอแล้ว ๆ ไม่ต้องไหว้บ่อยขี้เกียจรับไหว้”
“จะรับไหว้น้องเขาเป็นอั่งเปาก็ได้นะเจ๊ใหญ่”
“จ้า! พ่อลูกคนรวย” น้าวิวโต้เอา พี่น้อยเสริมอีกคน
"หนอยเขาซื้อตุ๊กตาหมีให้น้องเป็นของขวัญด้วยนะ”
“นั่น ๆ ยังไม่ทันไร แกไม่เห็นเหรอว่าหน้าห้องดวงเนตรเขาติดป้าย “ห้ามยุ่ง ฮือ! ” น้าวิวเสียงเขียวและถลึงตาใส่ ดวงเนตรหน้าแดงเพราะ
เอาเรื่องเธอมาฉะกันกลางสาธารณะเลย หนอยมองหน้าน้องแบบขอโทษและรีบเปลี่ยนเรื่อง
“น้าวิว...น้องเขาจะตัดผมให้ก็เลยให้เป็นค่าจ้างล่วงหน้าครับ” น้าวิวชอบประคารมกับหนอยประจำอยู่แล้วเป็นที่รู้กันเพราะคารมพอกันทั้งคู่
“แกถามแม่เขารึยัง” หนอยออกอาการแปลกใจน้อย ๆ
"อ้าว ! แม่เขามาส่งที่นี่เลยหรือครับ” คนอื่นอมยิ้มเพราะหนอยพลาดให้น้าวิวซะแล้ว คนพูดขำกลิ้งพอหนอยรู้ตัวว่าโดนอำก็ออกอาการ น้าวิว
แก้เกมด้วยการบอกว่าตัวเองเป็นแม่ทูนหัวของเนตร
“จริงเหรอ...ถึงว่าป้องกันกันเหลือเกิน เฮ้อ! ”
“น้องเนตรตัดผมได้ หนอยขอคิวแรก ถ้าออกมาดีขอพี่น้อยต่อนะคะ”
“เนตรจัดคิวดี ๆ นะนี่ก็จะเปิดภาคเรียนอยู่แล้ว”
“ไง ๆ ก็ขอผมหล่อก่อนเปิดเทอมนะครับ” หนอยเอ่ยเสียงนุ่ม เขายิ้มแบบเอาใจ พี่หนอยนี่ทีแรกดูงั้น ๆ แต่คิ้วเข้มและรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ ทำ
ให้ดวงเนตรเขวได้เหมือนกัน
“อ้าว! คุยกันเพลินเลย มา ๆ รู้จักกันก่อน ท่าจะอายุเท่ากันนะ...นี่ชื่อวิศาล”
“เอ! ถ้าน้าวิวจำไม่ผิด วิศาลมาเข้าเรียนเมื่อปีที่แล้วเนอะ”
“ครับผม... สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ ชื่อดวงเนตร เรียกเนตรก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มให้เขา วิศาลยิ้มน้อย ๆ น้าวิวขยายความเพราะถ้ารอให้ออกมาจากปากชายหนุ่ม พวกเราคง
ต้องแก่คาห้องแน่ น้าวิวคิดแล้วยิ้ม
"คุณชายเนี้ยบคนนี้เขามาเรียนต่อปริญญาโทวิศวะไฟฟ้า เขาชอบความเป็นส่วนตัว ผมตัดเองนะคะ”
“จริงเหรอคะ”
“จริงเลยล่ะ” พี่ศิริเสริมขึ้นขณะเข้ามาในห้อง
“เนตรดูสิเนี๊ยบไหม”
“ค่ะสวย” เนตรเอ่ยพลางมองดูวิศาล ตัวเขาค่อนข้างสูงกว่าทุกคนในห้อง ผมที่ซอยเองดูเรียบร้อยหน้าหล่อ ดูแป๊บเดียวก็สรุปได้เลยว่ามีโลก
ส่วนตัวที่ไม่ค่อยให้ใครเข้าไปยุ่ง พูดน้อย สนใจแต่ชีวิตตัวเอง
ดวงเนตรประเมินลักษณะคนเก่ง เพราะได้มาจากประสบการณ์ที่เป็นพี่ใหญ่ เมื่อสมัยเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ ทุกครั้งที่จะจัดงานอะไรก็แล้วแต่
ไม่ว่าจะเป็นน้องคนไหนก็ตาม เจ๊ใจดีให้พามาเฮฮาได้ที่บ้าน เรื่องอาหารไม่ต้องห่วง ขนม ของหวาน ผลไม้จัดเต็ม ดวงเนตรลงทุนขนาดนี้เพียงแค่
จะได้รู้จักเพื่อนของน้องทุกคน เตี่ยเป็นคนสอนว่าจะได้รู้จักเพื่อน ๆ น้องเป็นคนแบบไหน
“เอาไว้ใกล้ตาดีที่สุดเพราะเราคุมได้ แม้จะเหนื่อยหน่อยนะเนตรนะ”
“ค่ะเตี่ยไม่ต้องห่วง เนตรจะดูแลน้องให้ดีที่สุด” สิ่งเหล่านี้เพาะบ่มให้เธอเป็นคนช่างสังเกต เพราะเหตุนี้ เวลาคบกับเพื่อนชายสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดวงเนตรจะเริ่มสแกน และสรุปได้ตรงกับความจริงทุกครั้ง จนเพื่อนสนิทต่อว่าตรง ๆ “แกเป็นแบบนี้ แล้วหาว่าฉันตั้งป้อมกัน
แก ที่ไหนได้แม่คุณเล่นสแกนเขาเข้าถึงกระดูก แล้วเมื่อไรจะได้กินน้ำชาแกวะ”
“เนตรจ้องกันอยู่นั้นแหละ วิศาลเขาหล่อเนี้ยบอยู่แล้ว...แต่สู้พี่หนอยไม่ได้หรอก” หนอยออกอาการหมั่นไส้นิด ๆ
“เอ่อ! เนตรมองดูว่าเขาซอยยังไงได้เอง เก่งมากเลย” เธอเอ่ยแก้ตัว ความคิดของวันวานชะงักลง
“ใช้เวลานานไหมคะ” หญิงสาวตั้งคำถาม
“ครับ แต่ผมไม่รีบไปไหนนี่”
ดวงเนตรยิ้ม‘โลกของเขานี่นะ...ก็อยู่ไปคนเดียวเถอะ แถมเป็นคนใจเย็นขนาดโรงน้ำแข็งเรียกพี่ เป็นแค่เพื่อนดีแล้ว’ ดวงเนตรนึกและหันมา
ทางพี่หนอย
“พี่หนอยไว้ผมยาวรวบไว้ตั้งนานแล้ว และเนตรว่าดูหล่อดีนะ ดูผมสิสวยด้วย”
“ไม่เอาสวย พี่หนอยจะเอาหล่อนะเนตรนะ” เสียงอ้อน
“ไอ้ก๊วก” น้าวิวเรียกพี่หนอย
“ต่อหน้าต่อตาเลยนะ เนตรมายื่นตรงนี้ ห่าง ๆ พี่หนอยหน่อยเดี๋ยวมันงาบเอา”
“ครับ ไม่เห็นความดีกันเลยนะ เรียกปุ๊บผมก็มารับใช้เลยน่าน้อยใจนัก”
“น้าวิวเขารักหนอยจะตาย” พี่น้อยช่วย
“ใช่! รักมาก แต่บังเอิญน้าวิวได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเธอ...”
“ว่าเป็นคนดีใช่ไหมครับ”
“ม่ายใช่”
“เฮ้อ ! ” หนอยทำเสียงถอนใจ
“พอดีกว่านะคะ” พี่น้อยห้ามทัพ
“มาช่วยน้องเนตรขนของบริจาคไปที่ห้องดีกว่าค่ะ” ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันรวมถึงพี่ศิริกับสุดา ที่ตามมาสมทบที่หลังก็ทันได้ช่วยขนรอบสุดท้าย
ด้วย
“เนตรขอขอบคุณทุกคนเลยค่ะ” น้าวิวบอกทุกคนว่าปล่อยให้เนตรมีเวลาจัดห้องดีกว่า
“ตอนนี้หกโมงแล้วเราแยกกันไปทำธุระส่วนตัวกันก่อน...กลับมาเจอกันตอนทุ่มครึ่งนะ มื้อเย็นนี้พี่พล...พี่ชูพลหัวหน้านักเรียนไทย เขาเป็น
เจ้ามือเลี้ยงทุกคนที่ร้านพิซซ่าฮัท”