JJNY : ทสท.ชี้รมช.พณ.ลูกสส.│"เจี๊ยบ อมรัตน์" สะกิดพท.!│มาครงคุยปูติน จี้หยุดยิงในยูเครน│เปิดชื่อ 47 จว. เตือน ฝนถล่มหนัก

ไทยสร้างไทยชี้ รมช.พาณิชย์ ลูก สส. เป็นโควตาพิเศษเพื่อไทย พร้อมเรียกร้องฐากรลาออก ร่วมงานรัฐบาลโดยไม่แอบอ้างพรรคอีก
.
.
วานนี้ (1 กรกฎาคม) ปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย แถลงถึงการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุดว่า เป็นการปรับเพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองภายในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก มากกว่าจะตอบโจทย์ปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะกรณีการบีบพรรคภูมิใจไทยให้ออกจากรัฐบาล แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยกลับไม่ได้กระทรวงเพิ่มเติมที่มีนัยสำคัญ นอกจากกระทรวงมหาดไทยและแรงงาน ส่วนกระทรวงสำคัญอื่นๆ ส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เห็นชัดว่าการจัดสรรตำแหน่งใน ครม. ชุดใหม่นี้ไม่ได้คำนึงถึงการขับเคลื่อนงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
 .
ปริเยศ กล่าวถึงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่มีบุคคลในครอบครัวของ สส. พรรคไทยสร้างไทยได้รับการแต่งตั้งนั้น พรรคขอยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยสร้างไทย และไม่ใช่โควต้าทางการเมืองของพรรคแต่อย่างใด โดยตำแหน่งดังกล่าวเป็นโควต้าของพรรคเพื่อไทยโดยตรง ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจาก สส. ภายในพรรคตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่ม สส. อีสานที่ต้องการเข้าไปมีบทบาทในฐานะฝ่ายบริหารบ้าง หรือนายกรัฐมนตรีเห็นว่า บุคลากรในพรรคตัวเอง ไม่มีความเหมาะสมจะทำหน้าที่ในกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เพราะพรรคเพื่อไทยเคยประกาศชัดว่ามีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมาตลอด
 .
ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย ยืนยันจุดยืนชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าเป็นฝ่ายค้าน และไม่เคยมีแนวคิดหรือท่าทีว่าจะเข้าร่วมรัฐบาล การปรับ ครม. ครั้งนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรค ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อย่างไรก็ดี พรรคตระหนักดีว่ามีสมาชิกบางคนของพรรคที่แสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งถือเป็นการขัดกับจุดยืนของพรรคอย่างรุนแรง แต่บุคคลเหล่านั้นกลับไม่ลาออกจากพรรค และยังใช้ชื่อพรรคในการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง
 .
ส่วนกรณีฐากร ตัณฑสิทธิ์ ซึ่งเป็น สส. ของพรรคไทยสร้างไทย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่พรรคเห็นว่า ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้สามารถเดินเส้นทางการเมืองกับพรรคใหม่ในฝั่งรัฐบาลได้อย่างเปิดเผยและเป็นอิสระ ไม่ต้องอาศัยหรือแอบอ้างชื่อพรรคไทยสร้างไทยอีกต่อไป พรรคเชื่อว่าการเมืองควรตรงไปตรงมา และควรมีความรับผิดชอบต่อจุดยืนทางอุดมการณ์ ที่ได้ประกาศกับประชาชน
 .
ปริเยศ กล่าวย้ำด้วยว่า การเมืองที่ต้องพึ่งพาเสียงของงูเห่า หรือบุคคลที่ทรยศต่อพรรคต้นสังกัด นั้นยากที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ หากไม่เร่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง การดำรงอยู่ของรัฐบาลชุดนี้อาจไม่ยาวอย่างที่คาดหวัง
.

.
"เจี๊ยบ อมรัตน์" สะกิดเพื่อไทย! ยังไม่สายปลุกความกล้า ลุกสู้ "ระบอบตุลาการเป็นใหญ่" เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ
.
วันที่ 2 ก.ค. 68 อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตแกนนำพรรคก้าวไกล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ระบุว่า...
.
บทเรียนที่ได้ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่พรรคเพื่อไทยจะปลุกความกล้าหาญ หันมาร่วมสู้กับระบอบตุลาการเป็นใหญ่
.
#แก้ไขรัฐธรรมนูญ
.
.

.
มาครงคุยปูตินครั้งแรกในรอบ 3 ปี จี้หยุดยิงในยูเครน-เริ่มเจรจาสันติภาพ
.
เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส คุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียผ่านทางโทรศัพท์ โดยหารือกันทั้งเรื่องอิหร่านและยูเครน โดยมาครงเรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิงและเริ่มการเจรจา
.
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 1 ก.ค. 2568 รัฐบาลเครมลินของรัสเซียออกมาเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน มีการสนทนาทางโทรศัพท์อย่างมีแก่นสารกับประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เรื่องความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล และเรื่องสงครามยูเครน
.
นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีที่ผู้นำทั้งสองคุยกันโดยตรง โดยสำนักงานของนายมาครงในกรุงปารีสระบุว่า การสนทนากินระยะเวลา 2 ชั่วโมง และผู้นำฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิงในยูเครน และเริ่มการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งในทันที
.
รอยเตอร์สยังรายงานอ้างแหล่งข่าวในหน่วยงานการทูตของฝรั่งเศสด้วยว่า มาครงได้คุยกับนายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนก่อนที่จะสนทนากับนายปูติน นอกจากนั้นเขายังได้คุยกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรื่องการพูดคุยกับผู้นำรัสเซียด้วย
.
ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของรัฐบาลเครมลิน นายปูตินบอกกับนายมาครงว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเคารพสิทธิ์ของอิหร่านในการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์อย่างสงบ รวมถึงการปฏิบัติการข้อบังคับของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)
.
ส่วนนายมาครง ซึ่งมองว่าภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากอิหร่านนั้นรุนแรงพอเป็นเหตุผลที่ชอบธรรม ให้ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เข้ามามีส่วนร่วม ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่อิหร่านจะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)
.
เมื่อเดือนก่อน รัฐสภาอิหร่านเพิ่งอนุมัติร่างกฎหมายเพื่อระงับความร่วมมือกับ IAEA หลังอิสราเอลกับอิหร่านโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของพวกเขา โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งฝ่ายเตหะรานยืนยันว่าไม่ได้สร้าง
.
ในส่วนของยูเครน นายปูตินกล่าวย้ำจุดยืนของตัวเองกับนายมาครงว่า สงครามเป็นผลลัพธ์โดยตรงจากนโยบายของชาติตะวันตก ซึ่งเพิกเฉยต่อผลประโยชน์ทางความมั่นคงของรัสเซียตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และข้อตกลงสันติภาพใดๆ ระหว่างรัสเซียกับยูเครนควรครอบคลุมและมีระยะยาว และต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงด้านอาณาเขตใหม่
.
ก่อนหน้านี้ นายปูตินเคยพูดว่า ยูเครนต้องยอมรับการควบรวมดินแดนขนาดใหญ่ทางตะวันออกเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพใดๆ
.
อย่างไรก็ตาม นายมาครงกล่าวว่า ยูเครนควรเป็นผู้เดียวที่ตัดสินใจว่าจะยอมรับเรื่องดินแดนหรือไม่ พร้อมทั้งกล่าวย้ำเรื่องการสนับสนุนที่ไม่หวั่นไหวของฝรั่งเศสที่มีต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน
.
ที่มา : reuters
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่