เช็ก! เกณฑ์เฟส 1 และ 2 “คุณสู้ เราช่วย” รวม 2 เฟส แก้หนี้ 1.2 ล้านล้านบาท

เทียบเกณฑ์เฟส 1 และ เฟส 2 “คุณสู้ เราช่วย” รวม 2 เฟส ช่วยลูกหนี้ 3.7 ล้านราย ครอบคลุม 4.1 ล้านบัญชี เป็นยอดหนี้ 1.2 ล้านล้านบาท ร่วมโครงการได้ถึง 30 ก.ย.68

ตามที่กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) บางแห่ง ออกมาตรการชั่วคราวเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เฉพาะกลุ่ม ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย”
 
นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 จนถึงล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2568 มีลูกหนี้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ลงทะเบียนทั้งสิ้น 1.4 ล้านราย ครอบคลุม 1.9 ล้านบัญชี 
จากการสำรวจข้อมูลการคัดกรองคุณสมบัติลูกหนี้ของสถาบันการเงิน ณ วันที่ 15 มิ.ย.2568 พบว่า ลูกหนี้ที่ลงทะเบียนมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการฯ ได้ มีจำนวน 6.3 แสนราย (คิดเป็น 32% ของลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 1.9 ล้านราย) เป็นยอดหนี้ 4.6 แสนล้านบาท (คิดเป็น 52% ของยอดหนี้ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 8.9 แสนล้านบาท) 
[img]https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/6fqh2ynu2fr8WS3SIlAh.webp?x-image-process=style/lg-webp[/img]
ทั้งนี้ สถาบันการเงินจะต้องเร่งติดต่อลูกหนี้เพื่อดำเนินการทำข้อตกลงในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือลูกหนี้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดต่อไป 

“โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มีส่วนช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของ NPL โดยเฉพาะในสินเชื่อบ้านของธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งมีส่วนช่วยชะลอการยึดรถ และพยุงราคารถยนต์มือสอง” นางสาวสุวรรณี กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด 

ดังนั้น กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ จึงเห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ระยะที่ 1 จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2568 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2568
นอกจากนี้ ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ระยะที่ 2 โดยได้ปรับปรุงเงื่อนไขของมาตรการเดิม และมีมาตรการใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางได้ครอบคลุมมากขึ้น สำหรับลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ระยะที่ 2 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2568

มาตรการที่ 1 “จ่ายตรง คงทรัพย์” ขยายคุณสมบัติลูกหนี้ที่เข้ามาตรการให้ครอบคลุมถึง 1) ลูกหนี้ที่มีวันค้างชำระเกิน 365 วัน จากเดิม ลูกหนี้ที่มีวันค้างชำระตั้งแต่ 31-365 วัน และ 2) ลูกหนี้ที่เคยมีประวัติค้างชำระน้อยกว่าที่กำหนดในระยะที่ 1 คือ เคยค้างชำระ 1-30 วัน และเคยปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 จากเดิมลูกหนี้ที่เคยมีประวัติการค้างชำระเกิน 30 วัน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่วงเงินไม่สูงมาก ให้สามารถรักษาทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันทั้งบ้าน รถ และสถานประกอบการไว้ได้ 
[img]https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/k6capg6aYZmxeTES8CFC.webp?x-image-process=style/lg-webp[/img]
[img]https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/PKeALwkPeEH18Bwk0DB5.webp?x-image-process=style/lg-webp[/img]

มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ” ขยายเพดานภาระหนี้ของลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสีย (สถานะ NPL) จากเดิมมีภาระหนี้ไม่เกิน 5,000 บาทต่อบัญชี เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น 
โดย 1) สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (unsecured loan) เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ขยายเพดานภาระหนี้คงค้างเป็นไม่เกิน 10,000 บาทต่อบัญชี และ 2) สินเชื่อที่มีหลักประกัน (secured loan) ซึ่งได้มีการบังคับหลักประกันแล้ว และมีวงเงินสินเชื่อไม่เกินกว่าที่กำหนด (วงเงินสินเชื่อบ้าน หรือ สินเชื่อ SMEs ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อบัญชี สินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 800,000 บาทต่อบัญชี สินเชื่อรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 50,000 บาทต่อบัญชี) ขยายเพดานภาระหนี้คงค้างเป็นไม่เกิน 30,000 บาทต่อบัญชี 
[img]https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/zJWd2xKE9c4jD3U3BHM8.webp?x-image-process=style/lg-webp[/img]

มาตรการที่ 3 “จ่าย ตัด ต้น” ซึ่งเป็นมาตรการใหม่สำหรับหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน (unsecured loan) ที่มียอดหนี้คงค้างไม่เกิน 50,000 บาทต่อบัญชี และเป็นหนี้เสีย (สถานะ NPL) โดยการปรับโครงสร้างหนี้ให้มีเงื่อนไขการผ่อนชำระคืนเป็นงวด (term loan) และผ่อนชำระ 2% ของเงินต้นคงค้าง เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งค่างวดที่ชำระจะนำไปตัดเงินต้นทั้งจำนวน สำหรับดอกเบี้ยจะพักแขวนไว้ และจะได้รับยกเว้นดอกเบี้ยในระหว่างมาตรการหากลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ 
[img]https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/kNMFj7RyUOnG4Lg2dx5H.webp?x-image-process=style/lg-webp[/img]
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ระยะที่ 2 จะช่วยเหลือลูกหนี้ได้เพิ่มเติมอีกกว่า 1.8 ล้านราย ครอบคลุม 2 ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 3.1 แสนล้านบาท เมื่อรวมกับระยะที่ 1 ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 1.9 ล้านรายครอบคลุม 2.1 ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 8.9 แสนล้านบาท 

ดังนั้นรวมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ทั้ง 2 ระยะ ช่วยเหลือลูกหนี้ได้ 3.7 ล้านราย ครอบคลุม 4.1 ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.2 ล้านล้านบาท 
สำหรับลูกหนี้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการภายใต้โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 สามารถศึกษารายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ https://www.bot.or.th/khunsoo ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2568 หรือติดต่อสาขาของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการฯ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call center ของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการฯ หรือ BOT contact center ของ ธปท. โทร. 1213


ดูรูปรายละเอียดที่ https://www.posttoday.com/business/726545


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่