ถึง เพื่อนรัก
       ตั้งแต่เราเริ่มรู้จักกันอีกครั้งปี 2562 ในปีที่ฉันมีลูกคนแรก เธอเป็นคนเข้ามาทักไลน์ ชวนคุย เรื่องสัพเพเหระ จนในที่สุด เธอได้ชักชวนให้ฉันพาลูกสมัครโมเดลลิ่ง เดินสาย ถ่ายแบบ โชว์ตามงาน โดยมีค่าลงทะเบียน มัดจำงานต่างๆ จะกี่งานฉันก็หาเงินโอนไปให้เธอ รวมๆแล้วหลักแสน แต่ไม่เคยได้ทำ บอกโควิดระบาด เลื่อนแบบไม่มีกำหนด เงินที่มัดจำไปไม่ได้คืนสักบาท เธอชวนฉันขายหน้ากากอนามัย  โอนเงินไปแล้วก็ไม่มีของให้ พอฉันขายหวยส่งเจ้ามือ เธอก็ยังมาซื้อฉันทีละหลายหมื่นถึงแสนแต่ละงวด จนมีเรื่องกับเจ้ามือ สุดท้ายฉันเป็นหนี้เจ้ามือ แล้วยังหาเงินโอนไปให้เธอ เพียงเพราะเธอบอกว่า จะทำเรื่องฟ้องร้องเจ้ามือแทนฉัน  จนกระทั่งเธอบอกฉัน จะฝากงานให้ทำงานที่เดียวกันกับสามีเธอ ทำงานดี เงินเดือนสูง ฉันก็เชื่อ จึงชวนสามีฉันและน้องสาวฉัน หาเงินโอนค่าฝากงาน ค่าโน๊ตบุ๊ค ค่ากระเช้า จิปาฐะ  ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เธอเรียกมา ฉันก็หากู้ยืมเงิน รวมทั้งทองเอาไปจำนำ-ขาย รวมแล้วหลักแสน หมุนเงินจนฉันตันไปทุกทาง งานก็ยังไม่ได้ทำสักที บ่ายเบี่ยง เลื่อนไปเรื่อย เพราะหวังว่าจะได้ทำงานที่เงินเดือนสูงขึ้น ฉันรอเธอมาตลอด แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยๆ ปัญหาต่างๆ ที่เธอก่อไว้ให้กับฉัน ก็เริ่มทยอยเข้ามา แต่ฉันก็เลือกที่จะเชื่อเธอ และหาทางออกร่วมกันกับเธอ โดยไม่ปรึกษาครอบครัว เพราะเชื่อใจเธอ เธอบอกฉันมีต้นไม้ที่เป็นกระแส แต่ไม่มีเฟส ไม่มีเพื่อน ชวนฉันขายต้นไม้ ฉันก็ช่วยเธออีก โพสขายบนเฟสตัวเอง ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีฉัน ฉันโอนต่อให้เธอ เพราะเธอจะส่งของให้ลูกค้าเอง เพราะความไว้ใจ เชื่อใจเธอ จริงใจกับเธอ จนสุดท้าย สิ่งที่ตอบแทนฉันและครอบครัวที่เขาไม่รู้เรื่องอะไร คือ การที่ฉันต้องติดคุก พรากลูกน้อยวัย 4 เดือนจากอกแม่ และคนโต 2 ขวบ ให้อยู่กับ ปู่ ย่า หนี้สินฉันมากมาย กู้เงินต่างๆล้วนเป็นชื่อฉันทั้งนั้น โอนไปให้เธอทั้งหมด ฉันไม่มีเงิน ขอให้เธอโอนคืนมาบ้าง แต่กลับได้คืนมาแบบขอทาน แถมเงินที่ให้ทางบ้านสามีกู้มาเพื่อใช้หนี้ให้ลูกค้า ก็ยังโอนไปให้เธอหมด เพียงเพราะ เธอบอกว่า จะฟ้องร้องลูกค้า มีตำรวจ มีทนายอยู่ข้างหลังเธอ ไม่ใช่น้อยๆเลยนะ ที่เธอได้เงินจากฉัน ครอบครัวฉัน ลูกค้าของฉัน ฉันนี้มันโง่ซ้ำซากจริงๆ ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่อยู่ในคุก ฉันอยู่แบบคนไม่มีญาติมา 6 เดือน ฉันอยู่แบบหลอกตัวเอง ให้มีความหวังไปวันๆ ว่า เธอไม่หลอกฉัน เธอกำลังทยอยโอนเงินคืนให้ลูกค้า เดี๋ยวเธอก็มาประกันตัวฉัน แต่งตั้งทนายสู้คดี เธอไม่ได้โกง เธอไม่ทิ้งฉัน เพราะฉันจำคำพูดที่เธอให้ไว้ได้ คำสัญญา “กูจะไม่ทิ้ง กูจะไม่ยอมให้ติดคุก ถ้าติด กูจะติดแทนเอง”
       สุดท้าย พอนึกย้อนเหตุการณ์ต่างๆ นานาที่เธอหลอกใช้ให้ฉันหาเงินโอนให้เธอในเรื่องต่างๆ ที่เธอกล่าวอ้างมาล้วนแล้วแต่วางแผนมาแล้วทั้งสิ้น ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2562 - 2565 ชีวิตฉันวุ่นวายเพราะเธอเข้ามา เป็นหนี้สินรุงรัง ครอบครัวต้องแตกแยกไปอยู่คนละทิศทาง แถมแม่ฉันซึ่งมีอายุแล้ว ต้องทำงานรับจ้างรายวันใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อแทนฉัน เธอเก่งมากนะ หลอกใช้บัญชีฉัน หลอกฉันให้เขียนจดหมายสารภาพความผิดว่าเงินที่ฉันหาโอนไปให้เธอ คือ เงินที่ฉันติดหนี้เธอแทน เพราะฉันติดพนัน น่าขำดีนะ ที่ฉันก็ยังเขียนตามที่เธอบอกให้เขียน เธอใช้จุดอ่อนของฉัน ความขี้สงสาร ความซื่อ ความเชื่อคนง่าย ของฉันมาทำร้ายฉันแทน ฉันไม่ทันคนอย่างเธอ กลับจริงใจกับเธอทุกเรื่อง เชื่อใจเธอ รักเธอ ในทุกเรื่องที่เธอบอก ไม่คิดเลยว่า เธอจะทำกับครอบครัวฉันได้ ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยเลยที่จะรู้จักสนิทสนมกับเธอ ตั้งแต่สมัยเรียน ปวช. ฉันชื่นชมเธอมาตลอดว่า เธอเป็นคนสวย หน้าตาดี สูงขาว เรียน ร.ด. พอรู้จักกันอีกทีก็กลับมาทำร้ายฉันและครอบครัว ให้อยู่แบบทุกข์ทรมาน ต่อจากนี้ฉันไม่รู้จะต้องติดคุกไปอีกนานเท่าไหร่ ถึงจะได้อิสรภาพ ได้อยู่กับลูก และครอบครัว เมื่อไหร่จะได้เริ่มต้นใหม่ เหมือนคนอื่นสักที
       ขออวยพรให้เธอกับครอบครัว และลูกของเธอ มีความสุขที่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาในทุกๆวันนะ ขอบคุณจริงๆที่สอนบทเรียนชีวิต ราคาแพงมากๆ แบบสาหัสทั้งกายและจิตใจของฉันและครอบครัว ต้องถูกเพื่อน คนรู้จัก สังคมตราหน้าว่า เป็นคนโกง คนผิดตลอดไป
       รักเพื่อนเสมอ จาก คนรักเพื่อนมาก