เราในฐานะที่เป็นแม่ มักจะสังเกตร่างกายของลูกอยู่เป็นประจำ เริ่มเห็นว่าหน้าอกของลูกเริ่มยุบลง ตอนอายุ 6 ปี ก็ยังไม่ได้พาไปรักษา พอผ่านไปอีกปี หน้าอกเริ่มยุบลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจลำบาก และลูกมักจะบ่นว่าเหนื่อย เดินไม่ไหว เดินไกลไม่ได้ เราก็เลยเริ่มพาไปพบหมอเพื่อรักษาตามโรงพยาบาลตามสิทธิ์ของน้อง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากเพราะน้องยังเล็กเกินไป หมอก็ติดตามอาการทุก 1 ปี ผ่านมาเข้าอายุ 9 ปี หมอเริ่มแจ้งให้ทราบว่าทาง รพ.ไม่มีทีมผ่าตัดรักษาโรคนี้ จะขอส่งตัวน้องไปรักษาต่อ รพ.อื่น โดยให้เลือกระหว่าง รามา กับ จุฬา นัดครั้งต่อไปให้แจ้งหมอว่าจะเลือกไปรักษา รพ.ไหน แม่เริ่มหาข้อมูล หาหมอที่เก่งด้านนี้ ก็เจอ อ.ปิยะ สมานศติวัฒน์ จึงได้ทำนัดกับทาง รพ.รามา และนำใบนัดมาให้ รพ.ต้นสังกัด เพื่อทำเรื่องส่งต่อตามลำดับ
และหลังจากนั้นได้ทำการรักษา ช่วงแรกหมอก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะยังเล็กเกินไปไม่สามารถที่จะทำการผ่าตัดได้ (แม่ ๆ ไม่ต้องกังวลใจ) ให้รอไปก่อน จนถึงอายุที่เหมาะสมคือ ช่วง 13 - 14 ปี หรือ ม.1 ขึ้น ม.2 หลังจากนั้นหมอจะเริ่มทำการนัดเพื่อผ่าตัด ทำ ct & mri เพื่อเตรียมพร้อมผ่าตัด หมอจะนัดช่วงปิดเทอมใหญ่ เพื่อน้องจะได้มีเวลาพักรักษาตัว และพร้อมแจ้งค่าใช้จ่ายส่วนเกินจาก สปสช. โดยประมาณ 35,0000 บาท เบื้องต้น ชำระเต็มจำนวนในวันที่นัดนอน รพ. ด้วยความเป็นแม่ ก็คิดว่าคงไม่มีอะไร พอถึงเวลาที่จะทำการผ่าตัด หมอเจ้าของไข้ขอคุยกับ พ่อ และ แม่ เป็นการส่วนตัว และอธิบายและวิธีการผ่าตัด แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนหมอแจ้งว่า คุณแม่ มันมีความเสี่ยง 10 ประการ นะในการผ่าตัดครั้งนี้ ผล 50 /50 อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนดังนี้ 1.เสียเลือดมาก 2. ติดเชื้อ 3. การบาดเจ็บต่ออวัยะข้างเคียง (หัวใจ / ปอด / หลอดเลือด) 4. โลหะ หมุน-เคลื่อน 5. ลมรั่ว 6. ปอดแฟบ 7. ซี่โครงร้าว-หัก 8. แผลติดเชื้อ-อาจเป็นหนอง - น้ำเหลืองคั่ง 9.ชาบริเวณรอบแผลผ่าตัด 10.เสียชีวิต และย้ำถามพ่อ และแม่ว่าสรุปจะผ่าตัดไหม เราหนักใจไม่คิดว่าผลมันจะขนาดนี้ ก็เลยกลั้นน้ำตาไปถามความต้องการของลูกว่าหนูเต็มใจที่จะผ่าตัดใช่ไหม น้องบอกว่าใช่ แม่ก็ต้องเซ็นต์ยินยอม และบอกกับหมอว่า แม่มั่นใจในทีมแพทย์ หลังจากส่งลูกเข้าห้องผ่าตัดแล้ว แม่นี่นั่งร้องไหตลอดเวลา จนเวลาผ่านไป มันช่างทรมานมาก กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป จึงเข้าไปถามผลการผ่าตัดว่าน้องเป็นงัยบ้าง จนท.แจ้งว่าน้องปลอดภัยดี รอให้ฟื้นตัวและจะนำกลับห้องพัก น้องพักฟื้นอยู่ใน รพ.11/3/67-18/3/67 รวมค่ารักษาที่ สปสช.จ่ายให้ 140,000 และ แม่จ่ายส่วนต่าง 27,612.75 บาท รพ.คืนส่วนต่างให้ 7,781 บาท และน้ดติดตามอาการ ช่วงแรกจะถี่หน่อย หลังจากนั้น ก็ 1 ปี (เหล็กนี้ไม่ได้อยู่ถาวรนะคะ พอครบ 4 ปี หมอจะทำการถอดออก) แต่คนที่เป็นโรคนี้ ก็จะส่งผลให้หลังคดด้วย อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นทุกคนไหม แต่ลูกชายส่งผลให้หลังคด เป็นรูปตัว S ต้องทำการผ่าตัด มีนาคม ปี 2569 หมอแจ้งค่าใช้จ่ายส่วนต่าง เกือบ 200,000 บาท (อาจจะยาวนิดนึง แต่คงเป็นปรโยขน์กับแม่ ๆ นะคะ )
ประสบการณ์ รักษาหน้าอกบุ๋ม
และหลังจากนั้นได้ทำการรักษา ช่วงแรกหมอก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะยังเล็กเกินไปไม่สามารถที่จะทำการผ่าตัดได้ (แม่ ๆ ไม่ต้องกังวลใจ) ให้รอไปก่อน จนถึงอายุที่เหมาะสมคือ ช่วง 13 - 14 ปี หรือ ม.1 ขึ้น ม.2 หลังจากนั้นหมอจะเริ่มทำการนัดเพื่อผ่าตัด ทำ ct & mri เพื่อเตรียมพร้อมผ่าตัด หมอจะนัดช่วงปิดเทอมใหญ่ เพื่อน้องจะได้มีเวลาพักรักษาตัว และพร้อมแจ้งค่าใช้จ่ายส่วนเกินจาก สปสช. โดยประมาณ 35,0000 บาท เบื้องต้น ชำระเต็มจำนวนในวันที่นัดนอน รพ. ด้วยความเป็นแม่ ก็คิดว่าคงไม่มีอะไร พอถึงเวลาที่จะทำการผ่าตัด หมอเจ้าของไข้ขอคุยกับ พ่อ และ แม่ เป็นการส่วนตัว และอธิบายและวิธีการผ่าตัด แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนหมอแจ้งว่า คุณแม่ มันมีความเสี่ยง 10 ประการ นะในการผ่าตัดครั้งนี้ ผล 50 /50 อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนดังนี้ 1.เสียเลือดมาก 2. ติดเชื้อ 3. การบาดเจ็บต่ออวัยะข้างเคียง (หัวใจ / ปอด / หลอดเลือด) 4. โลหะ หมุน-เคลื่อน 5. ลมรั่ว 6. ปอดแฟบ 7. ซี่โครงร้าว-หัก 8. แผลติดเชื้อ-อาจเป็นหนอง - น้ำเหลืองคั่ง 9.ชาบริเวณรอบแผลผ่าตัด 10.เสียชีวิต และย้ำถามพ่อ และแม่ว่าสรุปจะผ่าตัดไหม เราหนักใจไม่คิดว่าผลมันจะขนาดนี้ ก็เลยกลั้นน้ำตาไปถามความต้องการของลูกว่าหนูเต็มใจที่จะผ่าตัดใช่ไหม น้องบอกว่าใช่ แม่ก็ต้องเซ็นต์ยินยอม และบอกกับหมอว่า แม่มั่นใจในทีมแพทย์ หลังจากส่งลูกเข้าห้องผ่าตัดแล้ว แม่นี่นั่งร้องไหตลอดเวลา จนเวลาผ่านไป มันช่างทรมานมาก กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป จึงเข้าไปถามผลการผ่าตัดว่าน้องเป็นงัยบ้าง จนท.แจ้งว่าน้องปลอดภัยดี รอให้ฟื้นตัวและจะนำกลับห้องพัก น้องพักฟื้นอยู่ใน รพ.11/3/67-18/3/67 รวมค่ารักษาที่ สปสช.จ่ายให้ 140,000 และ แม่จ่ายส่วนต่าง 27,612.75 บาท รพ.คืนส่วนต่างให้ 7,781 บาท และน้ดติดตามอาการ ช่วงแรกจะถี่หน่อย หลังจากนั้น ก็ 1 ปี (เหล็กนี้ไม่ได้อยู่ถาวรนะคะ พอครบ 4 ปี หมอจะทำการถอดออก) แต่คนที่เป็นโรคนี้ ก็จะส่งผลให้หลังคดด้วย อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นทุกคนไหม แต่ลูกชายส่งผลให้หลังคด เป็นรูปตัว S ต้องทำการผ่าตัด มีนาคม ปี 2569 หมอแจ้งค่าใช้จ่ายส่วนต่าง เกือบ 200,000 บาท (อาจจะยาวนิดนึง แต่คงเป็นปรโยขน์กับแม่ ๆ นะคะ )