หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (1)...นกหลายตัวเกาะอยู่บนกิ่งไม้

กระทู้คำถาม
มอบงานเขียนจากหัวใจ..."ส่องแสงตะวันฉาย"
...จะเอาเคียว เกี่ยวเดือน มามอบน้อง
...จะเอาโซ่ คล้องตะวัน อันเจิดจ้า
...จะเอาเดือน ดารา ล้อมนภา
...จะบอกว่า รักน้อง ปองนิรันดร์

หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (1)…นกหลายตัวเกาะบนกิ่งไม้ ตัวหนึ่งบินไปเหลือนกกี่ตัว
           
            สาวน้อยมีแต่ความมึนงง! รู้สึกได้เพียงมือที่สัมผัสฟูกบาง ๆ และผ้าห่มในห้องแคบ ห้องไม่เคยเปิดไฟเลย ม่านหน้าต่างแง้มเพียงเล็กน้อย เธอหลับนานมาก ความรู้สึกง่วงนอนไม่จางหาย ไม่เคยพอเสียด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นด้วยความหิว มือเรียวยาวควานหาขนมบนหัวเตียงใส่ปาก ดื่มน้ำในขวดใหญ่ตาม แล้วหลับต่อ ตื่นเพียงครู่เดียวอย่างงัวเงียแล้วหลับไป...หลายวันที่เป็นแบบนี้ ในขณะที่สลึมสลือเธอคิดแต่เพียงว่า  “ที่นี่ที่ไหน วันอะไร และกี่โมงแล้ว” คำถามเกิดเพียงขณะหนึ่งแล้วหลับลง เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่สามสี่วัน
            แล้วดวงเนตรก็ตื่นขึ้น เธอมองห้องแคบ ๆ ที่มีเตียงนอน โต๊ะทำงานขนาดเล็ก ม่านหน้าต่างถูกเปิด มองผ่านหน้าต่างออกไปนอกตัวอาคาร แลเห็นแนวสนเขียวสวยและเนินหญ้า ที่ไหนไม่คุ้นเคย
             “เฮ้อ! อาบน้ำให้สดชื่นก่อนแล้วค่อยคิด” พึมพำเบา ๆ พลางถอนใจ จากความรู้สึกที่ได้นอนอย่างเต็มที่ทำให้ดีขึ้น เธอเปิดกระเป๋าเดินทาง หยิบตะกร้าพลาสติกใบย่อมใส่สบู่ ครีมสระผม และอื่น ๆ คว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่ ไม่ลืมที่จะเอาขวดน้ำดื่มที่ว่างเปล่าหนีบติดแขนมาด้วย
            “เผื่อเจอน้ำดื่มจะได้เติมให้เต็มเอามาไว้ในห้อง” เธอพูดกับตัวเองแล้วเปิดประตูออกมา ทางเดินแคบ มีห้องพักตลอดแนวซ้ายขวา...ไม่มีใครเลย
หรือนี่ เงียบ ใช่! มีแต่ความเงียบ ทางเดินทอดยาวไปตามตัวตึก แล้วห้องอาบน้ำอยู่ที่ไหนล่ะ สายตามองซ้ายทีขวาทีอย่างหวั่นไหว ในที่สุดดวงเนตร
ก็เห็นแม่บ้านผิวสีร่างใหญ่เข็นรถมีอุปการณ์ทำความสะอาดห้อง แม่บ้านยิ้มและเอ่ยทักทาย ดวงเนตรยิ้มตอบและตรงรี่มาหาเธอ
            “ขอโทษค่ะ ห้องอาบน้ำอยู่ที่ไหนคะ”  ดวงเนตรพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเอ่ยอย่างช้าและชัดเจน แต่คนฟังไม่เข้าใจในสำเนียงแปร่ง ๆ
แม่บ้านยักไหล่พร้อมส่ายหน้า
            “ตายล่ะ แล้วจะได้อาบน้ำไหมเนี่ย” ดวงเนตรใช้ความพยายามอีกครั้ง เธอยกตะกร้าพลาสติกที่ใส่ของและผ้าขนหนูให้ดู 
            “ Oh! o.k follow me” แม่บ้านเรียก และพยักหน้าว่าเข้าใจมือดำจับมือขาวเนียน แล้วดึงมาที่กลางห้องโถงทางเดิน ‘อ้าวอยู่นี่เอง’ ดวงเนตรคิด
รอยยิ้มอย่างยินดีปรากฏบนใบหน้าสวย  แม่บ้านตัวใหญ่ยังพาเธอไปยังห้องไม่ไกลกันนัก  เป็นห้องทำอาหาร มีเตาอบ ไมโครเวฟ และชั้นวางเครื่องถ้วย
ชาม ดวงเนตรดีใจ อย่างลืมตัวเธอยกมือไหว้
            “ฉันชื่อมิสพอลลี่” รอยยิ้มเห็นฟันขาวตัดสีผิว
            “ฉันชื่อดวงเนตรค่ะ” แม่บ้านพยายามที่จะออกเสียงชื่อเธอ แต่ก็ต้องส่ายหน้า และเอามือแตะแผ่วเบาที่ไหล่ แววตาเป็นมิตรที่มองมาทำ
ให้ตาร้อนผ่าวเหมือนอยากจะร้องให้ ‘อดทนไว้ อย่าร้องนะอายเขาแย่เลย’ เธอคิด ขบริมฝีปากแน่น ก่อนที่จะกล่าวขอบคุณและผละไปอาบน้ำ
            สายน้ำที่ไหลผ่าน ให้ความสดชื่นชุ่มเย็นนัก แน่นอนการเดินทางไกลขนาดนี้ และนอนหลับยาวจนตัวจะขึ้นเกลืออยู่แล้ว อ้า! ช่างสดชื่น
เหลือเกิน…เธอใช้เวลานานกับสายน้ำที่ฉ่ำเย็น 
            กลับถึงห้องชโลมเบบี้ออยล์ ผมยาวเปียกชื้นถูกรวบมัดเป็นปมด้วยผ้าขนหนูผืนยาวแคบสีขาว  ดวงเนตรเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดคอกลมด้านหน้า
มีรูปช้างสีม่วง ด้านหลังสกรีนคำว่า“มหาวิทยาลัยเชียงใหม่”  กางเกงยีนขาสั้น รองเท้าแตะ เธอเก็บถุงขยะหัวเตียง ขนมของกินที่แม่ยัดมาให้เหลือแต่
กล้วยตาก กี่โมงแล้วนะ..แปดโมงเช้า อือ! ได้กาแฟร้อนสักถ้วยน่าจะดี ค้นของในเป้ใบเล็ก ได้กาแฟสำเร็จรูป 3 in 1  ‘อย่างกับกระเป๋าโดราเอมอนเลย 
อยากได้อะไรแม่ยัดใส่มาให้หมด’  เธอนึกถึงหน้าแม่แล้วยิ้ม แม้จะไม่สนิทกับแม่เท่าเตี่ย แต่แม่ดูแลและรู้ใจลูกทุกคนดี นี้แหละ...คำว่าแม่ ดวงเนตร
น้ำตาคลอ
            “ไปหาถ้วยมาชงกาแฟดีกว่า นั่งเศร้าไปก็ทำอะไรไม่ได้ มาอยู่ซะคนละขั้วโลกอย่างนี้” ความเงียบ และไม่เห็นผู้คน การได้เอ่ยปากพูดกับตัวเอง
ก็ยังดีกว่า เดินเข้าห้องทำอาหาร มิสพอลลี่คงเพิ่งทำความสะอาด ดูเรียบร้อย ดวงเนตรก้ม เงย ตามชั้น
            “โธ่เอ๊ย! กลับบ้านกันหมด จะเหลือถ้วยชามให้สักชุดก็ไม่มี..อ้าว! นั่นไง” แล้วกาแฟหอมกรุ่นได้ใจก็โชยกลิ่นมาถึงห้องแคบ ๆ  
เธอนั่งชันขา มือหนึ่งโอบเข่าไว้ ด้วยเพราะเหมือนข้างในมันเคว้งคว้าง ว่างเปล่า เหงาสิ้นดี มืออีกข้างยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ...น่าจะเป็นเทรนด์ใหม่นะกิน
กาแฟกับกล้วยตาก ก็ดียังพอเหลือเป็นเสบียงให้คลายหิว สายตาทอดไปไกลลิบเห็นทิวสนและเนินหญ้า อีกฝั่งหนึ่งมีไม้ป่าดอกเล็กขึ้นกระจายสีสัน
สวยงาม  อย่าถามเลยว่าเหงาไหม ไม่เห็นคนเลยสักคน มีแต่ตึกเรียนและอาคารที่แลเห็นได้ผ่านหน้าต่าง น้ำตาไหลลงตามร่องแก้ม หญิงสาวปาดทิ้ง
แล้วดื่มน้ำตาม ‘อย่าอ่อนแอดวงเนตร ต้องอดทนและสู้ต่อไป...เพื่อตัวเองและเตี่ยแม่’ คิดได้แต่อดไม่ได้ ดวงเนตรนั่งร่ำไห้เดียวดาย ตามองออกไปที่
หน้าต่างเห็นแต่ปุยเมฆ ‘มันคุ้มแล้วหรือกับนกตัวน้อยที่โผขึ้นสู่ฝั่งฟ้าตามล่าหาฝันอย่างเดียวดาย’
 
            ดวงเนตรนั่งทบทวนสิ่งที่เกิดมาเมื่อไม่กี่วัน ใช่! เตี่ย แม่ และน้องมาส่งเธอที่สนามบิน เตี่ยกอดลูกสาวแล้วทั้งคู่ที่มีสำเนาเดียวกันก็ร้องไห้ เธอ
เข้าไปกอดแม่และน้อง ผละจากทุกคนมาด้วยน้ำตานองหน้าอย่างไม่อายใคร   
            เครื่องบินเชิดหัวขึ้นสู่ปลายฟ้า เส้นทางยังอีกยาวไกล หวั่นไหวและเศร้าหมองเพราะไม่รู้จะเจออะไรภายหน้าหรือจะถึงที่หมายไหม นี่เป็นการขึ้นเครื่องบินออกจากประเทศครั้งแรกของสาวน้อย เสียงถามดังมาจากเก้าอี้ติดกัน
            “น้องไปเรียนหนังสือหรือคะ” ดวงเนตรพยักหน้า หันมาสบตาพี่ผู้หญิงตัวเล็ก เธอยิ้มเหมือนให้กำลังใจ เสียงปลอบจากพี่ตัวเล็ก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่