สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) : การก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

กระทู้สนทนา
บทคัดย่อ


“สุขวิชโนมิกส์” (Sukavichinomics)   เป็น ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ ของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล  รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงศึกษาธิการ ปี 2537-2540

บทความนี้ศึกษากรณีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวอย่างสำคัญของนโยบายสุขวิชโนมิกส์ โดยเน้นการจัดตั้งสถาบันการศึกษาใหม่โดยไม่ทำลายหรือยุบรวมสถาบันเดิม การตัดสินใจให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายคงอยู่ในฐานะสถาบันเพื่อชุมชน ควบคู่กับการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเพื่อการพัฒนาในระดับนานาชาติ สะท้อนวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างสมดุล บทความชี้ให้เห็นถึงหลักการ “สร้างโดยไม่ทำลาย” และการรักษาอัตลักษณ์ท้องถิ่นในกระบวนการพัฒนาประเทศผ่านระบบการศึกษา



บทนำ


แนวคิด “สุขวิชโนมิกส์” (Sukavichinomics) คือกรอบนโยบายที่เน้นการสร้างความมั่นคงของประเทศผ่านการลงทุนในทุนมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน และสถาบันทางปัญญา โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ยังขาดโอกาส แนวคิดนี้ ของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในช่วงกลางทศวรรษ 2530–2540 และเป็นผู้วางรากฐานของการปฏิรูประบบการศึกษาไทยทั้งในด้านโครงสร้าง หลักสูตร
และ สถาบัน ในยุคอภิวัฒน์การศึกษา 2538


หนึ่งในโครงการที่สะท้อนแนวคิดสุขวิชโนมิกส์ได้อย่างชัดเจน คือ การก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งมิได้เกิดจากการเปลี่ยนชื่อหรือยกระดับสถาบันเดิม แต่เกิดจากการวางแผนใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างมหาวิทยาลัยที่ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ ACMECS โดยในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งบทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายในฐานะสถาบันเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น


การตัดสินใจตั้งมหาวิทยาลัยใหม่โดยไม่ทับซ้อนหรือแทนที่สถาบันเดิมสะท้อนแนวคิด “พัฒนาโดยไม่ทำลาย” ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของสุขวิชโนมิกส์ บทนำนี้จึงวางกรอบเพื่อวิเคราะห์บทบาทของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในฐานะกลไกของการพัฒนาอย่างสมดุล การเคารพต่ออัตลักษณ์ท้องถิ่น และการวางรากฐานโครงสร้างทางปัญญาที่เชื่อมโยงกับโลกโดยไม่ละทิ้งชุมชน


เนื้อเรื่อง


สุขวิชโนมิกส์คือกรอบคิดทางนโยบายที่วางอยู่บนสมดุลของ “การสร้างสรรค์” และ “การเคารพบริบท” โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้กับการวางระบบการศึกษา แนวคิดนี้เน้นการยกระดับสังคมด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาอย่างเป็นระบบ สร้างการกระจายทรัพยากรที่เท่าเทียมในทุกภูมิภาค โดยไม่ลดทอนหรือทำลายสิ่งที่มีอยู่เดิม


ในช่วงก่อนปี 2540 จังหวัดเชียงรายยังไม่มีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับบทบาททางเศรษฐกิจและวิชาการในระดับภูมิภาคได้เต็มที่ แม้จะมีสถาบันราชภัฏเชียงรายที่ทำหน้าที่ผลิตครูและพัฒนาชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อจำกัดทางด้านทรัพยากรและบทบาทจำเพาะยังไม่สามารถรองรับการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในบริบทใหม่ได้อย่างครบถ้วน


เมื่อมีแนวคิดริเริ่มในการตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ข้อเสนอในระยะแรกจากฝ่ายนโยบายระดับกลาง คือการยกระดับสถาบันราชภัฏเชียงรายให้เป็น “มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง” ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านเชิงสถาบันอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็สุ่มเสี่ยงต่อการทำลายอัตลักษณ์ดั้งเดิมของสถาบันท้องถิ่น และกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่อย่างลึกซึ้ง


แนวทางสุขวิชโนมิกส์จึงเสนอการ “ตั้งใหม่” แทนการ “ยกเครื่อง” โดยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 คณะกรรมการกลั่นกรองงานฝ่ายสังคม ได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้ง “มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง” ขึ้นใหม่โดยอิสระ ไม่เปลี่ยนชื่อ ไม่ยุบรวม ไม่แทนที่ราชภัฏเชียงราย แต่ให้ทั้งสองสถาบันทำงานควบคู่กัน บนฐานหน้าที่และพันธกิจที่แตกต่าง


มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจึงได้รับบทบาทใหม่ในฐานะสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สุขภาพ และโลจิสติกส์ เพื่อรองรับบทบาทระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในบริบทของการค้าชายแดนและความร่วมมือในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ขณะที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายยังคงเดินหน้าทำหน้าที่พัฒนาท้องถิ่น ผลิตครู ส่งเสริมวัฒนธรรม และรักษาภูมิปัญญาพื้นถิ่น


ต่อมาในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการจัดสรรพื้นที่ดอยแง่ม จำนวน 4,997 ไร่ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อมอนุมัติงบประมาณผูกพันหลายพันล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการก่อตั้งสถาบันใหม่นี้อย่างเต็มรูปแบบ


แม้ในช่วงแรกของการดำเนินการจะเกิดแรงต้านจากกลุ่มนักศึกษาราชภัฏเชียงรายซึ่งมองว่าเป็นการลดทอนบทบาทของตนเอง แต่เมื่อสุขวิชโนมิกส์เลือกใช้แนวทางที่ไม่ล้มล้างหรือกลืนกินโครงสร้างเดิม ความขัดแยงก็คลี่คลายลง และมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งสามารถดำเนินงานไปพร้อมกันโดยไม่ทับซ้อนหรือแย่งชิงบทบาทกันในระยะยาว


การก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจึงมิใช่เพียงการเพิ่มจำนวนสถาบันการศึกษา หากแต่เป็นการออกแบบโครงสร้างทางปัญญาที่เชื่อมโยงอนาคตของพื้นที่กับอนาคตของประเทศ โดยไม่ละเลยรากฐานทางวัฒนธรรมและความผูกพันของชุมชนที่มีอยู่ก่อนแล้ว เป็นตัวอย่างของนโยบายที่สร้างด้วยความเคารพ ยึดหลักคิดแห่งการพัฒนาอย่างมีจริยธรรม และให้คุณค่ากับทั้งความรู้ใหม่และภูมิปัญญาเดิมอย่างเท่าเทียม


สรุป


บทความนี้เสนอกรณีศึกษาของการจัดตั้ง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญของแนวคิด “สุขวิชโนมิกส์” (Sukavichinomics) อันเป็นปรัชญานโยบายของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่เน้นการพัฒนาโดยไม่ทำลาย (“สร้างโดยไม่ทำลาย”) และเคารพอัตลักษณ์ท้องถิ่น


โดยรัฐบาลในขณะนั้น ไม่เลือกที่จะยุบรวมหรือเปลี่ยนชื่อสถาบันเดิม คือ สถาบันราชภัฏเชียงราย แต่เลือกสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ควบคู่กัน ซึ่งเน้นบทบาทระดับนานาชาติ (เช่น ภาษาอังกฤษ, วิทยาศาสตร์, โลจิสติกส์) ส่วนราชภัฏยังรักษาหน้าที่พัฒนาท้องถิ่นต่อไป


แนวทางนี้สะท้อนการวางนโยบายที่คำนึงถึงสมดุลระหว่าง โลกาภิวัตน์กับท้องถิ่น, นวัตกรรมกับมรดกภูมิปัญญา, และการพัฒนาอย่างมีจริยธรรม ซึ่งเป็นหัวใจของสุขวิชโนมิกส์


บรรณานุกรม


สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) : การก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง


สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) : การก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่