HYBE เตรียมจัดตั้งสาขาบริษัทในอินเดียช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยทาง HYBE ระบุว่า “เรากำลังดำเนินการศึกษาตลาดท้องถิ่นและเตรียมงานด้านการจัดตั้งบริษัท โดยตั้งเป้าที่จะเปิดตัวราวเดือนกันยายนถึงตุลาคมที่จะถึงนี้”
การจัดตั้งสาขาในอินเดียครั้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของประธาน บังชีฮยอก ที่ต้องการส่งออกแนวทางแบบ K-pop ไปสู่ตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรถึง 1.4 พันล้านคน โดยตัวเขาเองเป็นผู้ผลักดันกลยุทธ์ ‘Multi-home, Multi-genre’ หรือ “หลายบ้าน หลายแนวเพลง” ซึ่งเป็นแนวทางที่มุ่งสะท้อนวัฒนธรรมและลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น เพื่อให้สามารถยืนหยัดเป็นผู้นำในตลาดดนตรีของแต่ละประเทศ
กลยุทธ์นี้คือการต่อยอดโมเดลธุรกิจของ K-pop ไปยังแนวดนตรีอื่น ๆ และนำไปใช้ในระดับโลก เพื่อความอยู่รอด ท่ามกลางวิกฤตความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมดนตรีที่เขาเองเคยเน้นย้ำมาโดยตลอด
.
กลยุทธ์ ‘Multi-home, Multi-genre’ เริ่มแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนแล้วในตลาดดนตรีกระแสหลัก ที่ HYBE ได้เข้าไปบุกเบิกก่อนตลาดอินเดีย โดยตลาดที่เห็นผลชัดเจนที่สุดคือสหรัฐอเมริกา
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือเกิร์ลกรุ๊ป “KATSEYE” ภายใต้ HYBE America ที่สามารถติดชาร์ต ‘Billboard HOT 100’ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ชาร์ตในฝัน” ได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังเดบิวต์ โดยวงนี้เป็นโปรเจกต์ที่ประธาน บังชีฮยอก ลงมือดูแลทุกขั้นตอนด้วยตนเอง ตั้งแต่เพลง ท่าเต้น ไปจนถึงงานสร้างสรรค์ด้านภาพลักษณ์
EP อัลบั้มแรกของพวกเธอชื่อว่า SIS (Soft Is Strong) มีเพลงไตเติลคู่ “Touch” ที่เปิดตัวด้วยอันดับ 22 บนชาร์ต Bubbling Under HOT 100 ของ Billboard และยังติดอันดับ “50 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี” ของนิตยสาร NME ในสหราชอาณาจักรอีกด้วย
สำหรับซิงเกิล “Gnarly” ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็สามารถเข้าสู่สองชาร์ตเพลงหลักของโลก ได้แก่ Billboard HOT 100 ของสหรัฐฯ และ Official Singles Top 100 ของอังกฤษ
.
HYBE Latin America ซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 เพื่อสร้างฐานธุรกิจในภูมิภาคอเมริกาใต้ ตอนนี้ก็กำลังเริ่มดำเนินงานเข้าสู่เส้นทางหลักอย่างมั่นคง
ในอเมริกาใต้ HYBE ได้เดินหน้าโปรเจกต์เฟ้นหา 2 ศิลปินจาก 2 โปรเจกต์ใหญ่ หนึ่งในนั้นคือรายการออดิชั่นเฟ้นหาวงดนตรีชื่อ Pase a la Fama ที่ออกอากาศร่วมกับสถานีโทรทัศน์ภาษาสเปนที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโกและสหรัฐฯอย่าง Telemundo โดยรายการได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชมท้องถิ่น ที่ต่างให้ความสนใจกับเรื่องราวของผู้เข้าแข่งขันที่เดินทางจากทั่วประเทศมาสู่เมืองใหญ่เพื่อไล่ตามความฝันด้วยความหลงใหลในเสียงเพลง
นอกจากนั้น ยังมีการเตรียมจัดออดิชั่นอีกโปรเจกต์เพื่อเฟ้นหาสมาชิกสำหรับวงบอยแบนด์ละตินโดยเฉพาะ โดยผู้เข้าร่วมในทั้งสองโปรเจกต์จะได้ผ่านกระบวนการฝึกฝนที่มีระบบเมนเทอร์ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้แนวทางแบบ K-pop กับแนวดนตรีละตินเป็นครั้งแรก เพื่อขยายขอบเขตของศิลปินและเพิ่มศักยภาพให้มากที่สุด
การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายเพื่อเจาะเข้าสู่ตลาดดนตรีละตินที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2024 ตลาดนี้มีอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 22.5% ไม่เพียงแต่ในอเมริกาใต้ แต่ยังรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
เพื่อให้สามารถตั้งหลักในตลาดละตินได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงผู้ชมในพื้นที่อย่างแท้จริง HYBE ยังได้เข้าซื้อบริษัทเพลง “Exile Music” โดยมีการวางรากฐานทีมงานท้องถิ่นอย่างแข็งแกร่งผ่านเครือข่ายส่วนตัวของประธาน บังชีฮยอก ที่ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้เป็นพิเศษ
ในขณะเดียวกัน HYBE Japan ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน โดยบอยแบนด์ “&TEAM” ทำยอดรวมสะสมของซิงเกิลที่ 3 Go in Blind ทะลุ 800,000 copies (ข้อมูลเดือนเมษายน 2025) และได้รับการรับรอง “Triple Platinum” จากสมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงญี่ปุ่น (RIAJ) ซึ่งมอบให้กับผลงานที่มียอดเกิน 750,000 copies
อัลบั้มนี้ยังคว้าอันดับ 1 ทั้งในชาร์ต 'Weekly Single Ranking' และ 'Weekly Combined Single Ranking' ของ Oricon (นับถึงวันที่ 5 พฤษภาคม) โดย Oricon เปิดเผยว่า คะแนน 431,000 points ที่ &TEAM ได้จากชาร์ตรวม ถือเป็นตัวเลขสูงสุดของศิลปินชายในปีนี้
นับตั้งแต่ออกอัลบั้มเดบิวต์เมื่อเดือนธันวาคม 2022 &TEAM ได้รับการรับรองจากสมาคมแผ่นเสียงญี่ปุ่น RIAJ ในทุกอัลบั้มที่ปล่อยออกมา
บอยแบนด์วงใหม่ “aoen” ซึ่งเป็นวงที่สองภายใต้ค่าย YX Labels ในเครือ HYBE Japan ได้สร้างความสำเร็จตั้งแต่เดบิวต์ในเดือนนี้ ด้วยการคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต Oricon ของญี่ปุ่นทันทีที่เปิดตัว
aoen เกิดจากรายการออดิชั่นทางโทรทัศน์ 応援-HIGH (Ou-en HIGH ) ที่ออกอากาศทางช่อง NTV ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่สะท้อนถึง “ความสำเร็จของกลยุทธ์ Multi-home แบบ HYBE ในตลาดญี่ปุ่น”
ทาง HYBE ระบุว่า “แนวคิดของประธานบังชีฮยอกคือ K-pop ไม่ควรเป็นเพียงแค่แนวเพลงหนึ่งของดนตรีป๊อปเท่านั้น แต่ควรกลายเป็นแนวทางที่สามารถวิเคราะห์รสนิยมของผู้คนได้อย่างแม่นยำ และต่อยอดไปสู่การสร้าง IP ขนาดใหญ่ที่มีฐานมาจากแฟนคลับขนาดใหญ่อย่างแท้จริง”
พวกเขายังกล่าวต่ออีกว่า “กลยุทธ์ในการตั้งฐานในตลาดดนตรีหลักทั่วโลก และประยุกต์ใช้แนวทางแบบนี้ กำลังสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจน หากแนวโน้มปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป โฉมหน้าของตลาดดนตรีโลกที่ถูกครอบครองโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ 3 รายก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างมาก” (Big 3 ในที่นี้น่าจะหมายถึง UMG, Warner, Sony)
🚨 𝐄𝐗𝐂𝐋𝐔𝐒𝐈𝐕𝐄: HYBE ประกาศเตรียมเปิดตัว "HYBE INDIA" ในช่วงครึ่งปีหลัง
การจัดตั้งสาขาในอินเดียครั้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของประธาน บังชีฮยอก ที่ต้องการส่งออกแนวทางแบบ K-pop ไปสู่ตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรถึง 1.4 พันล้านคน โดยตัวเขาเองเป็นผู้ผลักดันกลยุทธ์ ‘Multi-home, Multi-genre’ หรือ “หลายบ้าน หลายแนวเพลง” ซึ่งเป็นแนวทางที่มุ่งสะท้อนวัฒนธรรมและลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น เพื่อให้สามารถยืนหยัดเป็นผู้นำในตลาดดนตรีของแต่ละประเทศ
กลยุทธ์นี้คือการต่อยอดโมเดลธุรกิจของ K-pop ไปยังแนวดนตรีอื่น ๆ และนำไปใช้ในระดับโลก เพื่อความอยู่รอด ท่ามกลางวิกฤตความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมดนตรีที่เขาเองเคยเน้นย้ำมาโดยตลอด
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือเกิร์ลกรุ๊ป “KATSEYE” ภายใต้ HYBE America ที่สามารถติดชาร์ต ‘Billboard HOT 100’ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ชาร์ตในฝัน” ได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังเดบิวต์ โดยวงนี้เป็นโปรเจกต์ที่ประธาน บังชีฮยอก ลงมือดูแลทุกขั้นตอนด้วยตนเอง ตั้งแต่เพลง ท่าเต้น ไปจนถึงงานสร้างสรรค์ด้านภาพลักษณ์
EP อัลบั้มแรกของพวกเธอชื่อว่า SIS (Soft Is Strong) มีเพลงไตเติลคู่ “Touch” ที่เปิดตัวด้วยอันดับ 22 บนชาร์ต Bubbling Under HOT 100 ของ Billboard และยังติดอันดับ “50 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี” ของนิตยสาร NME ในสหราชอาณาจักรอีกด้วย
สำหรับซิงเกิล “Gnarly” ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็สามารถเข้าสู่สองชาร์ตเพลงหลักของโลก ได้แก่ Billboard HOT 100 ของสหรัฐฯ และ Official Singles Top 100 ของอังกฤษ
ในอเมริกาใต้ HYBE ได้เดินหน้าโปรเจกต์เฟ้นหา 2 ศิลปินจาก 2 โปรเจกต์ใหญ่ หนึ่งในนั้นคือรายการออดิชั่นเฟ้นหาวงดนตรีชื่อ Pase a la Fama ที่ออกอากาศร่วมกับสถานีโทรทัศน์ภาษาสเปนที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโกและสหรัฐฯอย่าง Telemundo โดยรายการได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชมท้องถิ่น ที่ต่างให้ความสนใจกับเรื่องราวของผู้เข้าแข่งขันที่เดินทางจากทั่วประเทศมาสู่เมืองใหญ่เพื่อไล่ตามความฝันด้วยความหลงใหลในเสียงเพลง
นอกจากนั้น ยังมีการเตรียมจัดออดิชั่นอีกโปรเจกต์เพื่อเฟ้นหาสมาชิกสำหรับวงบอยแบนด์ละตินโดยเฉพาะ โดยผู้เข้าร่วมในทั้งสองโปรเจกต์จะได้ผ่านกระบวนการฝึกฝนที่มีระบบเมนเทอร์ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้แนวทางแบบ K-pop กับแนวดนตรีละตินเป็นครั้งแรก เพื่อขยายขอบเขตของศิลปินและเพิ่มศักยภาพให้มากที่สุด
การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายเพื่อเจาะเข้าสู่ตลาดดนตรีละตินที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2024 ตลาดนี้มีอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 22.5% ไม่เพียงแต่ในอเมริกาใต้ แต่ยังรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
เพื่อให้สามารถตั้งหลักในตลาดละตินได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงผู้ชมในพื้นที่อย่างแท้จริง HYBE ยังได้เข้าซื้อบริษัทเพลง “Exile Music” โดยมีการวางรากฐานทีมงานท้องถิ่นอย่างแข็งแกร่งผ่านเครือข่ายส่วนตัวของประธาน บังชีฮยอก ที่ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้เป็นพิเศษ
นับตั้งแต่ออกอัลบั้มเดบิวต์เมื่อเดือนธันวาคม 2022 &TEAM ได้รับการรับรองจากสมาคมแผ่นเสียงญี่ปุ่น RIAJ ในทุกอัลบั้มที่ปล่อยออกมา
ทาง HYBE ระบุว่า “แนวคิดของประธานบังชีฮยอกคือ K-pop ไม่ควรเป็นเพียงแค่แนวเพลงหนึ่งของดนตรีป๊อปเท่านั้น แต่ควรกลายเป็นแนวทางที่สามารถวิเคราะห์รสนิยมของผู้คนได้อย่างแม่นยำ และต่อยอดไปสู่การสร้าง IP ขนาดใหญ่ที่มีฐานมาจากแฟนคลับขนาดใหญ่อย่างแท้จริง”
พวกเขายังกล่าวต่ออีกว่า “กลยุทธ์ในการตั้งฐานในตลาดดนตรีหลักทั่วโลก และประยุกต์ใช้แนวทางแบบนี้ กำลังสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจน หากแนวโน้มปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป โฉมหน้าของตลาดดนตรีโลกที่ถูกครอบครองโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ 3 รายก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างมาก” (Big 3 ในที่นี้น่าจะหมายถึง UMG, Warner, Sony)