สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics): โรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน (โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ 12 แห่ง)

กระทู้สนทนา
สุขวิชโนมิกส์ (SUKAVICHINOMICS): โรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน (โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ 12 แห่ง)


กรณีศึกษาโรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ กับชะตากรรมของการเบี่ยงเบนเจตนารมณ์ในยุคประชานิยม


บทคัดย่อ


บทความนี้ศึกษาการก่อตั้งโรงเรียนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ) ซึ่งเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นในยุคการอภิวัฒน์การศึกษาไทย พ.ศ. 2538–2540 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กจากพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ระดับสูงได้อย่างเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด “วิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน” ของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล  รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ แนวคิดนี้ต่อยอดจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์  แต่ การตรากฎหมายการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 และ การออกกฎหมายแยกศูนย์ เด็กเล็กเป็นเอกเทศ ( ไม่ปลอดภัย และ เกิดเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู ) ได้เปลี่ยนนิยามของการศึกษาขั้นพื้นฐาน  12 ปี โดยนับ 3 ปีของอนุบาล แทน อาชีวศึกษาหรือมัธยมปลาย ส่งผลให้ ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานอาชีวะ ในปัจจุบัน (2568)


ส่งผลให้เจตนารมณ์ดั้งเดิมของการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ถูกเบี่ยงเบน บทความนี้วิเคราะห์ผลกระทบเชิงโครงสร้าง พร้อมเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อฟื้นฟูเป้าหมายเดิมของการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 สำหรับทุกคน ทั่วถึง ทั่วไทย 12+3 ปี ตามมาตรา 43 และ 80 ในรัฐธรรมนูญ 2540


คำสำคัญ: สุขวิชโนมิกส์, โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ, สิทธิการศึกษา, โรงเรียนวิทยาศาสตร์, ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา


1. บทนำ: วิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน – เป้าหมาย การอภิวัฒน์การศึกษา 2538


ในช่วงปลายทศวรรษ 2530 ประเทศไทยเข้าสู่ยุคที่ต้องการปรับเปลี่ยนทิศทางการพัฒนาให้ยั่งยืนและเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) ได้ระบุแนวคิด “ประชาชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา” เป็นหัวใจหลัก ซึ่ง คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม ได้ผลักดันการอภิวัฒน์การศึกษาเพื่อให้การเรียนรู้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในชนบท


หนึ่งในโครงการเชิงสัญลักษณ์คือการจัดตั้ง โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ ที่ถือเป็น “โรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน” เพื่อเป็นสะพานเชื่อมเด็กชนบทสู่เส้นทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม


2. จุดเริ่มต้น: จากมหิดลวิทยานุสรณ์สู่โรงเรียฯวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน ( โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ)


ต้นแบบของโรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ คือโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่ง ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามรับรองให้ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ ซึ่งถือเอกสารมาให้ลงนามด้วยตนเอง ในปี 2538 หลังจากเคยร่วมงานกัน ก่อตั้งศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สำเร็จมาแล้ว


จึงจัดตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชนจำนวน 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นโรงเรียนมัธยมวิทยาศาสตร์ระดับภูมิภาค รับเด็กจากโรงเรียนขยายโอกาส และพัฒนาสู่การเป็นแพทย์ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และนวัตกรในอนาคต โดยใช้ชื่อว่า โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ เนื่องจากเป็นห้วงเวลาสวรรคต


โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขยายโอกาสด้านการศึกษา แต่ยังผนวกเข้ากับการเปลี่ยนวิทยาลัยครูเป็น “สถาบันราชภัฏ” เพื่อให้เป็น MIT ของปวงชนในภูมิภาค เช่นเดียวกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ฯ ซึ่งใช้คำว่าสถาบันเช่นเดียวกัน


3. เบี่ยงเบนเจตนารมณ์: กฎหมาย 2545 และการลดสิทธิการศึกษา


3.1 นิยามใหม่ของ “การศึกษาขั้นพื้นฐาน”


กฎหมายการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 เปลี่ยนนิยามของ “สิทธิขั้นพื้นฐาน 12 ปี” จากเดิม ป.1–ม.6/อาชีวะ มาเป็น อนุบาล–ม.3 ซึ่งขัดแย้งกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาตรา 43  12 ปี และ มาตรา 80 อนุบาล 3 ปี

3.2 ผลกระทบต่อโรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ

โรงเรียนมัธยมปลายไม่ได้รับงบประมาณในฐานะ “สิทธิขั้นพื้นฐาน” ส่งผลให้โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ หลายแห่งขาดการสนับสนุนที่จำเป็น
ความเข้าใจผิดว่าอนุบาลคือ “สิทธิการศึกษา” ทำให้เกิดการเบียดบังงบประมาณจากมัธยมปลายและอาชีวะ
การศึกษาวิทยาศาสตร์ของเด็กชนบทถูกตัดโอกาสลงอย่างมีนัยสำคัญ


4. บทสรุป รัฐบาลประชานิยม คือจุดเริ่มต้นของความเหลื่อมล้ำการศึกษาไทย อีกครั้ง


โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ ไม่ใช่เพียงโรงเรียนมัธยมปลาย แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับความสามารถของชาติอย่างยั่งยืนในแนวทาง สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) การเบี่ยงเบนเจตนารมณ์ด้วยนโยบายประชานิยมที่ลดสิทธิขั้นพื้นฐานของมัธยมปลายและอาชีวะ ได้ส่งผลต่อความสามารถในการผลิตนวัตกรรมของประเทศอย่างลึกซึ้ง บทเรียนนี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อฟื้นคืนระบบการศึกษาเพื่อประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม













แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่