JJNY : 5in1 เท้งจี้สาวไส้คดี│พริษฐ์เตือนเรียกร้องรปห.│จับโป๊ะ"ฮุนเซน"│ชี้สัปดาห์นี้หุ้นยังผันผวน │F-16 ยูเครนตกขณะสกัด

เท้ง แนะแก้ปัญหาชายแดน ใช้มาตรให้ถูกจุด จี้สาวไส้คดี ลิม กิมยา กดดันฮุนเซนได้โดยตรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5252518
.
.
‘เท้ง’ เรียกร้อง ‘รัฐบาล’ ใช้มาตรการถูกจุดถูกที่ถูกเวลา แก้ปัญหาชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’ จี้ สืบคดี ‘ลิม กิมยา’ เอาให้ชัด บอกคนชี้เป้าสนิทกับเครือข่าย ‘ฮุน เซน’ ย้ำใช้ความสัมพันธ์รัฐต่อรัฐ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ 2 ตระกูล
.
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สิ่งที่เป็นอยู่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่ารากเหง้าของปัญหามาจากความขัดแย้งระหว่างตระกูล หรือครอบครัวผู้นำทั้ง 2 ประเทศ วันหนึ่งที่ประโยชน์ของ 2 ตระกูลนี้ราบรื่น สมประโยชน์ ก็ดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไร แต่พอวันหนึ่งเมื่อมีความขัดแย้ง ขัดผลประโยชน์ ไม่ลงรอยกัน ก็ลุกลามบานปลายมาสู่ความขัดแย้งในระดับประเทศด้วย เพราะฉะนั้น ภาพใหญ่ในการแก้ไขปัญหาไทยกัมพูชา ตนคิดว่าต้องพูดคุยระหว่างรัฐต่อรัฐ ไม่ใช่พูดคุยด้วยความสัมพันธ์ครอบครัว ส่วนมาตรการเฉพาะหน้า ตนคิดว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การใช้มาตรการกดดันต่างๆ ก็เป็นมาตรการที่สามารถเดินหน้าได้ ซึ่งเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เป็นสิ่งที่พวกเราเรียกร้องมาโดยตลอด แต่ก็อยากให้รัฐบาลเลือกใช้มาตรการอย่างถูกต้องและถูกเวลา
.
ควรเลือกใช้มาตรการที่พุ่งเป้าไปยังสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา คนที่มีอำนาจมากที่สุดก่อน ส่วนมาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการกดดันทางด้านเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ควรจะต้องใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกจุดด้วย ผมยกตัวอย่างมาตรการที่พุ่งเป้าไปยังสมเด็จฯฮุน เซน คือการดำเนินคดี สืบหาคนที่ลอบสังหารนายลิม กิมยา อดีตแกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา ที่เสียชีวิตที่ประเทศไทย รัฐบาลสามารถเดินหน้าได้เลย เพราะโดยสภาพการณ์เราเห็นได้ค่อนข้างชัด แม้มือปืนเป็นคนไทย แต่คนชี้เป้าเป็นคนกัมพูชา ซึ่งมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับเครือข่ายของสมเด็จฯฮุน เซน ถ้าเราเดินหน้าเรื่องนี้อย่างจริงจัง จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่สามารถสร้างแรงกดดันที่ตัวสมเด็จฯฮุน เซน ได้โดยตรง” นายณัฐพงษ์กล่าว
.

.
พริษฐ์เตือน เรียกร้องรัฐประหารคือปฏิปักษ์ประชาธิปไตย ชี้หากรัฐบาลบริหารพลาด ควรลงโทษผ่านคูหาเลือกตั้ง
https://thestandard.co/parit-warns-against-coup-calls/
.
วันนี้ (29 มิถุนายน) พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แสดงความเห็นบนโซเชียลมีเดียต่อกรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทยรวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า ในระบอบประชาธิปไตย เราต้องคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับเนื้อหาที่เขานำเสนอหรือไม่
 .
แต่หากการชุมนุมครั้งใด มีการเรียกร้องรัฐประหารหรือการแทรกแซงโดยกลไกนอกระบบ ข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นปฏิปักษ์กับประชาชนทุกคนที่ควรมีอำนาจสูงสุดในการกำหนดอนาคตประเทศ แต่ยังเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ที่คุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมของผู้เรียกร้องเสียเองตั้งแต่ต้น
 .
หากรัฐบาลใดบริหารผิดพลาดแต่ไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยตนเอง การขับไล่รัฐบาลอย่างชอบธรรมและยั่งยืนที่สุด ไม่ใช่การเรียกหากองทัพ หรือ การหวังพึ่งศาลและนิติสงคราม แต่คือการลงโทษรัฐบาลผ่านคูหาเลือกตั้ง
 .
อ้างอิง:
.

.
จับโป๊ะ "ฮุนเซน" โชว์แสนยานุภาพทหาร แต่เคลมภาพอาวุธชาติอื่น!
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/251638
.
ชาวเน็ตไทยจับโป๊ะ "สมเด็จฮุนเซน" ปล่อยเอ็มวีเพลงปลุกใจ-โชว์แสนยานุภาพกองทัพกัมพูชา แต่กลับเคลมภาพอาวุธชาติอื่น!
.
เรียกได้ว่ายังคงเป็นจุดสนใจของชาวเน็ตไทย สำหรับ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานรัฐสภากัมพูชา ที่มีการโพสต์เฟซบุ๊กปล่อยเอ็มวี แชร์เพลงปลุกใจรักชาติ เพลง "หัวใจนักรบเขมร" พร้อมกับโชว์แสนยานนุภาพกองทัพกัมพูชา หลังคุยโวว่ามีอาวุธที่ยิงไกลได้ถึงกรุงเทพฯ แต่ไม่วายกลายเป็นภาพที่เคลมภาพอาวุธประเทศอื่นมาโชว์ โดยมีการเอาธงชาติกัมพูชา ไปแปะในภาพขบวนเครื่องบินลำเลียง C-130 เฮอร์คิวลิสของกองทัพสหรัฐอเมริกา เคลมกันแบบไม่แคร์สายตาชาวโลกเลยทีเดียว
.
โดยต้นฉบับของภาพดังกล่าวเป็นของเว็บไซต์ซื้อ-ขายภาพ Alamy (อะลามมี่) ถ่ายเอาไว้เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2552 ในภาพเป็นการฝึกซ้อมของกองทัพอากาศสหรัฐ ที่ฐานทัพอากาศเนลลิส รัฐเนวาดา
.
หลังจากนั้นทาง getty images บริษัทขายภาพออนไลน์ชื่อดังได้ซื้อภาพนี้ไป ปัจจุบันภาพฝูงเฮอร์คิวลิส ถูกขายในราคาตั้งแต่ 4,500 ถึง 15,000 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดกับความละเอียดของภาพ) แต่ในเอ็มวีเพลงดังกล่าว กลับมีการเอาภาพไปลบลายน้ำออก แล้วก็แปะธงชาติกัมพูชาเข้าไปแทน
.
นอกจากเพลงดังกล่าวแล้ว สมเด็จฮุน เซน ยังปล่อยเอ็มวี ใส่ชุดพรางลงพื้นที่ไปประชุมกับฝ่ายความมั่นคงที่ จ.อุดรมีชัย ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทยด้านจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่
.
กระทั่งล่าสุด สมเด็จฮุน เซน ยังได้โพสต์เอ็มวี ที่ตัดตอนมาจากละครอิงประวัติศาสตร์ "ลูกผู้ชายใต้คืนจันทร์เพ็ญ" ที่เล่าชีวประวัติของตัวเอง ซึ่งทำนองเพลงก็มาแนวเศร้าระทม
.

.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้สัปดาห์นี้หุ้นไทยยังผันผวน จับตาเจรจาสหรัฐ-การเมืองในประเทศ
.
กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองเงินบาทสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-33.00 บาท/ดอลลาร์ฯ มองหุ้นไทยยังผันผวน ประเมินแนวรับที่ 1,055- 1,075 จุด แนวต้านที่ 1,095 -1,115 จุด จับตาเจรจาสหรัฐ-ความตึงเครียดตะวันออกกลาง-การเมืองในประเทศ-ทิศทางเงินทุนต่างชาติ
.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแข็งค่า โดยช่วงต้นสัปดาห์แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน ที่ 33.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ขณะที่ ผลการประชุม กนง. ที่มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ไม่มีผลมากนัก และเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ตามการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก แรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย ประกอบกับตลาดรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด
.
สัปดาห์นี้ (30 มิ.ย.-4 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนพ.ค. ของไทย ปัจจัยการเมืองในประเทศ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีPMI/ISM ภาคการผลิตและบริการข้อมูลจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน/อัตราการหมุนเวียนของแรงงาน ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน พ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนมิ.ย. ของจีน อังกฤษ และยูโรโซน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนพัฒนาการของประเด็นการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า รวมถึงสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านด้วยเช่นกัน
.
ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ผันผวน โดยช่วงแรกร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี 3 เดือนที่ 1,053.79 จุด ท่ามกลางความกังวลความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ก่อนดีดตัวขึ้น เนื่องจากปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าอิสราเอลและอิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิงซึ่งช่วยคลายความกังวลบางส่วน ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมช่วงกลางสัปดาห์จาก กนง.ปรับประมาณการจีดีพีไทยปีนี้ไปที่ 2.3% จากคาดการณ์เดิมที่ 2.0% ก่อนร่วงลงแรงช่วงท้ายสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายทำกำไรหุ้นทุกกลุ่ม ทั้งนี้หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวลงค่อนข้างแรงในสัปดาห์นี้ตามแรงขายหุ้นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตรายใหญ่แห่งหนึ่งจากประเด็นเฉพาะตัว
.
สำหรับสัปดาห์นี้ (30 มิ.ย.-4 ก.ค. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,075 และ1,055 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,095และ 1,115 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดประเด็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเจรจาระหว่างไทยและสหรัฐฯ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง สถานการณ์การเมืองในประเทศรวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและการบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมิ.ย. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษ ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. (เบื้องต้น) และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ค. ของยูโรโซน .-516-สำนักข่าวไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่